ควันหลงการประชุมครม.นัดแรกของ “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในฐานะรักษาราชการแทนนายกฯ เมื่อ 30 ส.ค.2565 ที่ผ่านมา ต้องบอกว่านอกจากสีสันที่หลายคนจับตามองว่า “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ตัวจริงจะเข้าร่วมประชุมครม.หรือไม่ ซึ่งก็ชัดเจนว่าบิ๊กตู่ไม่คิดเข้าทำเนียบมานั่งประชุมกลางวงครม.ที่อาจทำให้พล.อ.ประวิตรและวงประชุมเกิดความอิหลักอิเหลื่อ ที่มีนายกฯจริงกับรักษาการนายกฯมานั่งประชุมพร้อมกัน งานนี้บิ๊กตู่ก็เลยเลือกที่จะนั่งทำงานที่กระทรวงกลาโหมแทน แล้วใช้ระบบวีดีโอคอนเฟอเรนต์มาประชุมแทนเพื่อไม่ให้เกิดบรรยากาศไม่พึงประสงค์ ขณะที่ฝ่ายบิ๊กป้อมแม้จะเป็นรักษาราชการแทนนายกฯที่มีอำนาจถูกต้อง แต่งานนี้ก็ไม่ขอนั่งเก้าอี้นายกฯหัวโต๊ะการประชุมครม.เพราะต้องการให้เกียรติน้องรักเช่นกัน
อย่างไรก็ตามไฮไลต์ของการประชุมครม.วานนี้ ก็อยู่ที่กรณีครม.อนุมัติคำสั่งสำนักนายกฯ ที่ 215 /2565 เรื่อง มอบหมายให้รองนายกฯรักษาราชการแทนนายกฯ และมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกฯปฏิบัติราชการแทนนายกฯ พูดง่ายก็คือออกคำสั่งสำนักนายกฯอันใหม่แก้ไขคำสั่งสำนักนายกฯของเดิม ที่ 237 /2563 ซึ่ง ข้อ 2 เขียนห้ามเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการและการอนุมัติงบประมาณ ที่รักษาราชการแทนนายกฯต้องกลับไปถามนายกฯก่อนว่าเห็นด้วยหรือไม่ ที่ผ่านมาก็เลยมีการตีความกันว่าตกลงพล.อ.ประวิตรในฐานะรักษาราชการแทนนายกฯจะแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการและโยกงบประมาณหรือเคาะอนุมัติงบประมาณได้หรือไม่ ที่สุดเมื่อวานนี้ครม.เลยมีมติอนุมัติคำสั่งสำนักนายกฯใหม่ โดยยกเลิกข้อ 2 ที่เขียนห้ามเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายและอนุมัติงบประมาณออกไป เรียกว่าเปิดไฟเขียวให้พล.อ.ประวิตรทำทั้ง 2 เรื่องได้โดยมีกฎหมายรองรับ ประเคนอำนาจเต็มให้กับบิ๊กป้อมบริหารราชการแผ่นดิน
“วันนี้มีการเสนอคำสั่งสำนักนายกฯปรับปรุงคำสั่งดังกล่าว เพราะเป็นไปไม่ได้ที่ พล.อ.ประวิตรเมื่อรักษาการแล้ว หากมีการแต่งตั้งโยกย้ายหรือมีเรื่องงบประมาณจะต้องไปปรึกษา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ที่อยู่ระหว่างหยุดปฏิบัติหน้าที่ จึงต้องแก้คำสั่งตัดประโยคนี้ออกไปเพื่อให้มีอำนาจเต็ม และมีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ 24 สิงหาคม ” วิษณุระบุเหตุผลที่ต้องออกคำสั่งสำนักนายกฯ ฉบับใหม่เพื่อไปแก้ไขของเดิม ก่อนหน้านี้วิษณุเองนั้นแหละที่ออกมาให้สัมภาษณ์กลับไปกลับมาถึอำนาจของรักษาราชการแทนนายกฯ เพราะออกมาเปิดช่องว่าพล.อ.ประวิตรสามารถแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงได้ ยุบสภาก็ได้เช่นกัน โดยกล่าวในทำนองว่า ขณะนี้เมื่อนายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าหน้าที่จึงไม่มีสิทธิเห็นชอบ โดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีจะมีอำนาจเต็มและมีอำนาจแต่งตั้งผบ.เหล่าทัพได้ ส่วนเรื่องของการยุบสภาในทางทฤษฎีสามารถทำได้ แต่ทางปฏิบัติเป็นไปได้ยาก อย่างไรก็ตามวานนี้วิษณุก็มากลับลำอธิบายเรื่องนี้เป็นอย่างอื่น เรียกว่าพลิกแพลงกฎหมายว่าพล.อ.ประวิตรสามารถทำได้ทุกอย่าง แต่ติ่งไว้ว่าเรื่องการยุบสภาคงไร้อำนาจที่จะทำได้
ประเด็นหลักที่วิษณุต้องออกมากลับลำและรับลูกเรื่องนี้ รวมถึงกรณีที่ครม.ต้องเห็นชอบคำสั่งสำนักนายกฯที่ 215 / 2565 ออกมาเมื่อ 30 ส.ค.2565 รวมถึงให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่ 24 ส.ค.2565 ต้องเท้าความกับไปวันจันทร์ที่ 29 ส.ค.2565 ที่ผ่านมา ซึ่งบิ๊กป้อมเจอไฟล์บังคับที่ต้องไปทำหน้าที่รักษาราชการแทนนายกฯ นั่งหัวโต๊ะประชุมสำคัญ 2 คณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปทุมวัน คณะแรกคือการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ หรือ “ก.ต.ช.” ซึ่งมีวาระคัดเลือก ผบ.ตร.คนใหม่แทนที่ “บิ๊กปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ที่จะเกษียณอายุ 30 ก.ย.นี้ จากนั้นก็เป็นประธานประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ “ก.ตร.” เพื่อเคาะแต่งตั้งรองผู้บัญชาการ ผู้ช่วยผู้บัญชาการ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาคและสำนักงานต่างๆ อีกเป็นร้อยตำแหน่ง บังเอิญว่าต้องประชุมในวันนั้นโดยที่ยังมีคำสั่งสำนักนายกฯที่ 237/2565 เรื่องห้ามแต่งตั้งข้าราชการกับงบประมาณคาอยู่ งานนี้บิ๊กป้อมก็เลยเสียวสันหลังว่าอาจจะโดนฟ้องร้องโดนฝ่ายตรงข้ามเล่นงาน เพราะดันไปนั่งประชุมก.ต.ช. และก.ตร. อนุมัติ “ พิทักษ์ 1” คนใหม่ แถมพ่วงท้ายเคาะนายพลตำรวจอีกเป็นร้อย ในแบบที่กฎหมายไม่ได้เปิดช่องไว้ เที่ยวนี้ก็เลยกังวลว่าอาจจะถูกหางเลขตีความกฎหมายเล่นงานเอาง่ายๆ โดยเฉพาะหากมีฝ่ายค้านฝ่ายตรงข้ามไปร้องศาลไปฟ้องเอาผิดว่าพล.อ.ประวิตรไม่มีอำนาจในการดำเนินการเรื่องนี้ จะติดคุกหัวโตตอนแก่เอาได้ง่ายๆ จะมาปฏิเสธ “ไม่รู้-ไม่รู้” คงไม่ได้
ไม่แปลกที่ก่อนหน้าการประชุมครม. 30 ส.ค.2565 ที่ผ่านมา บิ๊กป้อมจะเรียก ณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีไปพบที่มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ใน ร.1 ทม.รอ. เพื่อสอบถาม “ทางแก้-ทางรอด-ทางออก” ของเรื่องนี้ เพราะบิ๊กป้อมก็กังวลมากเหมือนกัน แม้ตัวเลขาฯครม.จะยืนกรานกับพล.อ.ประวิตรว่า ตามพ.ร.บ.ระเบียบการบริหารราชการแผ่นดิน 2534 รักษาราชการแทนนายกฯ สามารถพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการระดับสูง และอนุมัติงบประมาณได้ แต่เพื่อความไม่ประมาทงานนี้บิ๊กป้อมจึงสั่งให้วิษณุแก้คำสั่งสำนักนายกฯที่ 237/2563 ก่อนจะออกมาเป็นคำสั่งสำนักนายกฯที่ 215/2565 เพื่อไม่ให้พลาดมาติดคุกตอนแก่ ในช่วงที่กำลังจะลุ้นขึ้นเป็น “นายกฯคนใหม่-นายคนนอก” ในเวลาอันใกล้นี้ หากพล.อ.ประยุทธ์เกิดตกสวรรค์ ถูกศาลรัฐธรรมนูญเบรกให้ไปต่อปม 8 ปี พล.อ.ประวิตรก็จะได้ต่อยอดเสียบกิ่งอำนาจทันที เพราะฉะนั้นจะให้มาตายน้ำตื่นในประเด็นหน่อมแน้มแบบนี้คงไม่ได้
/////////////////////