วันที่ 1 ก.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้าน อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ได้ถ่ายภาพร้องเรียนถึงความเดือดร้อนจากถนนเส้นทางสายหลัก เข้าออกสถานี บขส. อ.ภูเขียว ระยะทางประมาณ 100 เมตร ซึ่งเป็นถนนคอนกรีตขนาด 2 ช่องจราจร กว้างประมาณ 6 เมตร ได้แตกชำรุดเสียหาย และเป็นหลุมเข้าออกสถานี บขส.ด้วยความลำบากมานานกว่า 10 ปี ยังไม่มีหน่วยงานไหนเลียวแลรับผิดชอบในการซ่อมแซมให้ หน้าแล้งฝุ่นฟุ้งกระจาย หน้าฝนเมื่อฝนตกเกิดน้ำขังในลุ่มน้ำเจิ่งนองไปทั่ว ทุกวันนี้ทั้งชาวบ้านในตัวอำเภอภูเขียว และอำเภอรอบนอก เดินทางเข้าใช้บริการรถขนส่งที่สถานีบขส. อ.ภูเขียว หรือต่อรถกลับด้วยความยากลำบากนาน ในตอนเช้า ผู้ปกครองนำลูกหลานมาส่งขึ้นรถไปเรียนในตัวจังหวัดด้วยความยากลำบาก
ซึ่งที่ผ่านมามีชาวบ้านขับขี่รถมาส่งลูกหลาน หรือญาติขึ้นรถที่ บขส.ภูเขียวต้องประสบอุบัติเหตุมาแล้วหลายครั้งถึงขั้นได้รับบาดเจ็บก็มี นอกจากนั้นถนนระยะทางประมาณ 100 เมตร จุดนี้กลางคืนยังมืดมาก ไม่มีไฟข้างเส้นถนนหรือตลอดเส้นทาง 100 เมตร เมื่อขับรถเข้า บขส.ภูเขียว มักเกิดอุบัติเหตุได้งาย ล่าสุดเมื่อกลางดึกคืนของวันที่ 30 ส.ค. 65 ที่ผ่านมา มีชาวบ้านได้ขับรถกระบะไปส่งลูกขึ้นรถโดยสารที่ บขส.ภูเขียว เพื่อจะขึ้นเข้ากรุงเทพฯด้วยความมืดของถนนและมองไม่เห็นหลุมใหญ่กลางถนน รถยนต์กระบะที่ขับเข้า บขส.ภูเขียว ได้เกิดตกลุม ลึก แท้งน้ำมันเครื่องยนต์แตกได้รับความเสียหายจนขับต่อไม่ได้ บางครั้งกลางคืนผู้ไม่ชำนาญทางล้มบ่อยๆ ร้องไปทางหน่วยงานก็ยังไปรับการแก้ไข สอบถามไปยังขนส่งภูเขียว ก็บอกว่ายังไม่มีงบประมาณซ่อมแซม อีกทั้งถนนเลนขวาเป็นที่ส่วนบุคล เลนซ้ายเป็นของ บ.ข.ส. จึงทำให้หน่วยงานตั้งงบประมาณทำงานลำบาก ชาวบ้านจึงร้องทุกข์มาทางสื่อช่วยประสานหน่วยงานส่วนกลางช่วยดูแลแก้ไข
นายประวิทย์ จันทร์สว่าง อายุ 57 ปี ชาวบ้านที่ตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณใกล้กับถนนเส้นทางเข้า บขส.ภูเขียว เล่าว่าถนนบริเวณนี้ได้ชำรุดเสียหายไม่ได้รับการซ่อมแซมแก้ไขให้ใช้งานได้ดีมากว่า 10 ปี ซึ่งถนนบริเวณเป็นทั้งของเทศบาล และที่ส่วนบุคคลด้วย ซึ่งทางเจ้าของที่ดินได้บอกว่าหากทาง บขส.หรือเทศบาลจะจัดงบมาซ่อมแซมถนน ทางเจ้าของที่ก็ยินดีไม่ขัดข้องแต่อย่างใด พร้อมเซ็นอนุญาตทันที ซึ่งถนนช่วงนี้ได้เกิดอุบัติเหตุบ่อยหากขับขี่ไม่ระวัง โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์
ด้านนางศิรินทิพย์ ไชยวิเศษ นายสถานีเดินรถภูเขียว บอกว่าต้องยอมรับว่าเส้นทางเข้า บข.ภูเขียว เป็นพื้นที่ส่วนบุคคลครึ่งหนึ่ง ทาง บขส.ภูเขียว เคยทำหนังสื่อขอรับการสนับสนุนในการซ่อมแซมถนนที่เป็นหลุ่มเป็นบ่อให้ใช้ถนนได้ดี รวมถึงขอเปิดเส้นทางสาธารณะเส้นอื่นด้วย มีการออกรางวัดพื้นที่แล้ว แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับจากหน่วยงานเหล่านั้น ซึ่งหวังว่าทางเทศบาลจะได้เปิดใช้เส้นทางสาธารณะให้โดยเร็ว
ขณะที่ทางด้านนาย ธนกร เจ้าของที่ดินที่อนุญาตให้ประชาชนใช้สัญจรทางส่วนบุคคลของตนเองมานานกว่า 10 ปี ได้เผยว่า ที่ผ่านมาตนเองได้อนุญาตให้ รถประจำทางในบขส.ภูเขียวและประชาชนชาวภูเขียวได้ใช้สัญจรเข้าออก มาตลอดกว่า10 ปี ถนนก็เริ่มพุพังตามระยะเวลา ถ้าหากจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยซ่อมแซมรักษาเพื่อให้ประชาชนผู้มาใช้บริการในสถานที่นี้ ก็จะได้รับประโยชน์ ส่วนตนเองนั้นไม่ขัดค้านและขอให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่จะเป็นผู้เข้ามาซ่อมแซมอีกด้วย.
ภาพ/ข่าว มัฆวาน วรรณกุล ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ชัยภูมิ