ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา พ.ต.อ.อานุภาพ ผิวอ่อน ผกก.สภ.บ้านเขว้า ได้รับรายงานจาก ร.ต.อ.วชิระ เพชรฤทธิ์ รอง สว.(สอบสวน)สภ.อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิว่าได้รับแจ้งจากทาง 191 สถานีตำรวจภูธรบ้านเขว้า ว่ามีคนร้ายไม่ทราบจำนวน บุกงัดร้านค้า เลขที่ 159 หมู่ที่ 9 บ้านโนนขี่ตุ่น ตำบลตลาดแร้ง อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ กวาดสินค้า ข้าวของไปจำนวนมาก จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมชุดสืบสวน สภ.บ้านเขว้า
ที่เกิดเหตุซึ่งเปิดเป็นร้านขายปุ๋ย ขายของชำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อยู่บริเวณปากทางเข้าบ้านโนนขี้ตุ่น จากการสอบถามน.ส.ชมพูนุช ละอองชัย อายุ 30 ปี เล่าว่า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมาราว 4 ทุ่ม ตนได้ดูกล้องวงจรปิดภายในร้านอยู่ แต่ก็ไม่พบกับสิ่งผิดปกติ กระทั้งตนได้เข้านอน ก่อนที่จะมาเปิดร้านในช่วง 06.30 น.เมื่อเช้าที่ผ่านมา พบว่ามีประตูถูดงัดด้วยชะแรง ซึ่งหลังจากที่ผู้ก่อเหตุงัดแล้วได้วางทิ้งใว้บริเวณหน้าร้านใว้ดูต่างหน้า
หลังจากนั้นตนจึงรีบเข้าไปตรวจสอบภายในพบว่ามีทรัพย์สินหายไปหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นเงินเหรียญที่มีใว้ทอนให้ลูกค้า และ เหล้า 30 ลัง ทีวี 45 นิ้ว 1 เครื่อง บุหรี่ 40 คัตต้อล เบียร์ถาด 20 ถาด และ ตัวบันทึกภาพกล้องวงจรปิดจำนวน 1 ตัว รวมมูลค่ากว่า 1 แสนบาท ซึ่งก่อนหน้านั้นที่บ้านของตนยังเคยถูกงัดมาแล้ว 1 ครั้งเมื่อช่วงวันที่ 20 พฤษจิกายน 2563 ซึ่งคนร้ายก็มาในลักษณะคล้ายกัน ครั้งนั้นสูญทั้งสร้อยแหวนเงินทอง มูลค่ากว่า 5 แสนบาท แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้ ครั้งนี้จึงอยากฝากเจ้าหน้าที่ช่วยเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้
ขณะที่ทางด้านพ.ต.อ. อานุภาพ ผิวอ่อน ผกก.สภ.บ้านเขว้า พร้อมด้วยร.ต.อ.วชิระ เพชรฤทธิ์ รอง สว.(สอบสวน)สภ.บ้านเขว้า และชุดสืบสวนหลังจากที่ได้เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุพร้อมชุดกองพิสูจณ์หลักฐาน สภ.เมืองชัยภูมิ เข้ามาเก็บรายละเอียด เพื่อสรุปงานโดยเบื้องต้น พ.ต.อ.อานุภาพ ผิวอ่อน ผกก.สภ.บ้านเขว้าฯได้ดำเนินการ
ร่วมกับจนท.สืบสวนและตร.ทุกแผนกตรวจสถานที่เกิดเหตุและแจ้งศพฐ.ตรวจสถานที่เกิดเหตุ และได้ประชุมสั่งการตร.ให้ติดตามหาพยานหลักฐานเส้นทางคนร้ายก่อน /ขณะ/หลังเกิดเหตุ โดยมอบหมายชุดสืบสวนติดตามหาข้อมูลกล้องวงจรปิด สืบสวนหาเบาะแสคนร้ายทางแผนประทุษกรรม และประสานพื้นที่ใกล้เคียง และให้ทุกแผนกรายงานผลให้ทราบภายใน 3 วัน โดยเร่งนำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฏหมายให้เร็วที่สุดต่อไป.
ภาพ/ข่าว มัฆวาน วรรณกุล ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ชัยภูมิ