วันที่ 11 ก.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ วัดไทรงามสงขลา จัดเทศกาลทำบุญเดือนสิบครั้งที่ 1 หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าเทศกาลชิงเปรต โดยพระครูปลัดยอดโดม สิริปัญโญเจ้าอาวาสวัดไทรงามสงขลา ท่านมีความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่เหมือนใคร ทำร้านเปรตขึ้นมา โดยให้มีเปรต 3 ตัว ตัวที่ 1 ยืนอยู่บนร้านเปรต คอยเฝ้าเครื่องเซ่นไหว้ ส่วนตัวที่ 2 และตัวที่ 3 จะคอยรับอาหารเครื่องเซ่นไหว้จากประชาชน ที่มาทำบุญวันสารทเดือนสิบที่วัดไทรงาม นำขึ้นไปวางบนร้านเปรต ที่มีคอกเหล็กกั้น ห้ามบุคคลใดบุคคลหนึ่งเข้าไปภายในบริเวณร้านเปรตอย่างเด็ดขาด โดยก็จะนำเครื่องเซ่นไหว้ใส่ถุง ใส่กระทงนำมาให้เปรตที่คอยรับเครื่องเซ่นไหว้จากญาติโยม ส่งขึ้นไปให้ เปรตตัวที่ อยู่บนร้านเปรต คอยจัดเรียงวางไม่ให้ซ้ำซ้อนกันโดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีคนมาชิงเปรต
หลังจากที่พระสงฆ์ได้บังสุกุลอัฐิส่งส่วนบุญส่วนกุศลไปให้พ่อแม่ปู่ย่าตายายที่ล่วงลับไปแล้ว และประชาชนได้ทำบุญตักบาตรอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลไปให้ พร้อมทั้งนำเครื่องเซ่นไหว้ตั้งที่ร้านเปรต เพื่อให้เปรตภูตได้มากินเครื่องเซ่นไหว้ ที่ลูกหลานได้มาตั้งให้กินเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้ล่วงลับ หลังจากนั้น ก็จะกลับไปยังนรกภูมิ ในวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10
สำหรับการชิงเปรต ประชาชนจะนำเครื่องเซ่นไหว้ตั้งที่ร้านเปรต เพื่อให้เปรตภูตได้มากินเครื่องเซ่นไหว้ ภายหลังจากที่พระสงฆ์ได้ประกอบพิธีสวดเสร็จแล้วและพุทธศาสนิกชนได้กรวดน้ำส่งส่วนบุญส่วนกุศลไปให้แก่บรรพบุรุษแล้ว พระสงฆ์ก็ได้ทำการตัดสายสิญจน์ เพื่อให้เปรตภูติได้ทำการกินอาหารจากเครื่องเซ่นไหว้จากนั้น ก็นำเงินที่ญาติโยมทำบุญที่ร้านเปรตโปรยทานให้เด็กๆแย่งชิงกัน รวมทั้งตัดสายสิญจน์ให้ขึ้นมาชิงเปรตบนร้านเปรตได้ทันที ประชาชนที่มาทำบุญที่วัดทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างกรูเข้าไปที่ร้านตั้งเปรตและแย่งชิงสิ่งของที่ตั้งบนร้านเปรตกันอย่างสนุกสนาน โดยถือว่า ใครได้กินของที่เหลือจากที่เปรตกินแล้วจะเป็นมงคลกับตัวเอง ซึ่งได้ถือปฏิบัติกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษและถือปฏิบัติเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันทุกปี ช่วงระยะเวลาในการประกอบพิธีกรรมของประเพณีสารทเดือนสิบจะมีขึ้น 2 ครั้ง คือ ในวันแรม 1 ค่ำเดือน 10 และวันแรม 15 ค่ำเดือน 10 ของทุกปี แต่สำหรับวันที่ชาวใต้มักจะนิยมทำบุญกันมาก จะเป็นการทำบุญครั้งที่ 2 ถือเป็นการทำบุญใหญ่คือ วันแรม 15 ค่ำ เดือน 10
นภาลัย ชูศรี /จ.สงขลา