ไปต่อไม่ไหว “ป้อมอยากได้ -ผู้กองอยากมา”

หลังมีกระแสข่าวลือหนาหู  ธรรมนัสไปต่อไม่ไหวอยากขอกลับพรรคพลังประชารัฐ  หลังกระแสพรรคไม่ดี ความนิยมตกต่ำ กระสุนดินดำขาด ไร้บารมีอำนาจรัฐ  ไปเพื่อไทยก็ไม่ได้ไปต่อด้วยตัวเองก็ลำบาก  แถมเลือกตั้งคราวหน้าปรับสูตรหาร 100  พรรคเล็กลำบาก  ระบบเขตก็ยากเพราะเสื้อสิงห์กระทิงแรดเพียบ  เศรษฐกิจไทยจะไปยังไง   สุดท้ายขอคืนรังกลับมาพรรคพลังประชารัฐ   ลุ้นประวิตรรับกลับหรือไม่  ได้หรือเสียต้องลุ้นไว้จัดประวิตร  ได้ขุนพลตัวกลั่นแลกกับเสี่ยงพรรคแตกคุ้มไหม

กลายเป็นกระแสข่าวมาสักพักใหญ่แล้ว กรณี “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย แบะท่าอยากย้ายกลับรังเก่ามาซุกใต้ปีกของพี่ใหญ่ 3 ป.บูรพาพยัคฆ์ที่ชื่อ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นเพราะนั่งเป็นรักษาราชการแทนนายกฯที่มีอำนาจเต็มไม้เต็มมือ  หลังน้องเล็กน้องรัก 3 ป.อย่าง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ถูกสั่งพักปฏิบัติหน้าที่และกำลังลุ้นอยู่บนเขียงว่าจะได้ไปต่อหรือจะต้องกลับบ้าน จากปมร้อนตีความวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯไม่เกิน 8 ปี  ที่ยังไม่รู้ว่าจะออกลูกผีหรือลูกคนจากศาลรัฐธรรมนูญความจริงกระแสข่าวเรื่องผู้กองธรรมนัสต้องการย้ายกลับบ้านเก่า  อยากกลับมาตายรังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐนั้นมีมานานแล้ว  ย้อนอดีตตอนถูกขับออกไปตอนนั้น 21 คน แต่เอาเข้าจริงเหลือไปกับผู้กองธรรมนัสแค่ 18 คน  ที่เหลือ 3 คนคือวัฒนา ช่างเหลา ส.ส.ขอนแก่น , เอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ , สมศักดิ์ พันธ์เกษม ส.ส.นครราชสีมาก็โดนพรรคภูมิใจไทยของ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูลดูดไปหมด  ขณะที่วัฒนา สิทธิวัง ส.ส.ลำปางเขต 4  ที่โดนกกต.ให้ใบเหลืองต้องเลือกตั้งซ่อมใหม่  ผลการเลือกตั้งก็ปรากฏว่า พ่ายแพ้ให้กับเดชทวี ศรีวิชัย จากพรรคเสรีรวมไทย  ที่ได้คะแนนไปถึง  55,638 คะแนน   ส่วนวัฒนาได้ไปแค่   30,451 คะแนน  แพ้ไปถึง 25,000 คะแนนแบบไม่เห็นฝุ่น

แค่นั้นไม่พอในพรรคเศรษฐกิจไทยเองตอนนี้ก็เละตุ้มเป๊ะ  ตั้งแต่เกิดเรื่องบี้หัวหน้าพรรคอย่าง  “บิ๊กน้อย”พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทยคนเก่าให้ลาออก  เพราะผู้กองกับเจ้านายมองการเมืองคนละแบบเห็นต่างกันคนละมุม  ที่สุดเลยเกิดกรณีลากไส้กันเองระหว่างพล.อ.วิชญ์กับร.อ.ธรรมนัส  ฝ่ายผู้กองกล่าวหาว่าบิ๊กน้อยอ่อนประสบการณ์พรรษาการเมืองน้อยเลยไม่เท่าทันเกมส์คนอื่น   ฝ่ายพล.อ.วิชญ์ก็อัดผู้กองไม่จริงใจตลบตะแลง  ที่สำคัญในหัววันๆคิดแต่ละล้มพล.อ.ประยุทธ์จะหักเก้าอี้บิ๊กตู่ให้ได้  งานนี้เลยไปกันไม่รอดเพราะเล่นการเมืองคนละแบบ ที่สุดบิ๊กน้อยก็ต้องไขก๊อกออกมาตั้งพรรครวมแผ่นดิน ทำการเมืองสายกลางไม่เคียดแค้นไม่อาฆาตใคร ขณะที่ผู้กองนัสก็ต้องเดินการเมืองตามลำพังแบบหัวเดียวกระเทียมลีบเพราะไม่มีใครคุ้มหัวอีกต่อไป

การเมืองทุกพรรคต้องใช้เงินและบารมี   พรรคถึงจะอยู่รอดปลอดภัยได้ในสนามการเมือง  ย้อนอดีตร.อ.ธรรมนัสสมัยที่เรืองรุ่งก็เพราะมีตำแหน่งรมช.เกษตรและสหกรณ์  พอเป็นเสนาบดีก็บันดาลทุกอย่างได้ดังใจ   แต่พอเกิดเรื่องคิดการใหญ่จะล้มพล.อ.ประยุทธ์แจกกล้วยให้ส.ส.พรรคเล็กหวังล้มบิ๊กตู่กลางสภาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ 2564  เดชะบุญความแตกเสียก่อน  ก็เลยถูกพล.อ.ประยุทธ์เชคบิล ถูกปลดพ้นความเป็นรัฐมนตรีคู่กับ  “อ.แหม่ม” นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน  บันทึกประวัติเสียทางการเมืองไปโดยปริยาย  นับแต่นั้นมาการเมืองของร.อ.ธรรมนัสก็ลุ่มๆดอนๆ  จาก “ดาวฤกษ์” ที่เคยได้รับการคาดหมายว่าเป็นนักการเมืองดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งยุค  เคยขึ้นเป็นถึงเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เป็นแม่บ้านพรรคแกนนำรัฐบาล  แต่เพราะวางตัวไม่เหมาะ บริหารความอยากไม่ได้  คิดการใหญ่เกินตัว ไม่รู้จักรอจังหวะเวลาและโอกาส   จากดาวฤกษ์ก็เลยกลายมาเป็น “ดาวเคราะห์” อับแสง  ในทางการเมืองยามนี้ไปต่อก็ไม่ได้ ถอยหลังก็ลำบาก  ไร้มิตรแท้แต่มีศัตรูถาวรเต็มไปหมด

จะไปโทษใครได้นอกจาก “กรรม” ของตัวเอง  อดีตเคยถูกบิ๊กป้อมฟูมฟักเอามานั่งเป็นเลขาฯพรรคพลังประชารัฐแล้ว  ถ้ารู้จักรอเวลาอีกนิดไม่คิดชิงสุกก่อนห่าม เผลอๆเส้นทางของร.อ.ธรรมนัสในวันนี้ อาจกลายเป็นรัฐมนตรีเกรดเอ เป็นเสนาบดีใหญ่โตก็เป็นได้  แต่เพราะคิดไม่ตกอยากลองดีไปงัดข้อกับคนดีเกรดพรีเมี่ยมอย่างพล.อ.ประยุทธ์  แถมแค้นฝั่งหุ่นไม่ยอมส่องกระจกดูตัวเอง  คำสอนทางพุทธ  “อริยสัจ 4” ก็มีมาแล้ว  “ทุกข์ -สมุทัย-นิโรธ-มรรค”  ถ้าลองนั่งคิดทบทวนตัวเองให้ดีก็จะรู้ว่ามาถึงจุดนี้ได้ยังไง   วันนี้สถานะของผู้กองนัสที่เคยยิ่งใหญ่ในอดีต ถึงตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะไปอยู่ไหนยังไง  ยิ่งเลือกตั้งคราวหน้าปรับสูตรไปใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เขต 400 บัญชีรายชื่อ 100 แถมใช้สูตรหาร 100 ในการคิดคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ  พรรคเล็กมีแต่ตายกับตาย ไล่เรียงรายชื่อส.ส.เขตของพรรคเศรษฐกิจไทย  10 กว่าคน ไปดูตามประวัติการเลือกตั้งรอบก่อนตอน 24 มี.ค.2562 ที่ผ่านฉลุยแบบไม่ต้องลุ้นมีแค่ผู้กองกับมือขวาอย่างไผ่ ลิกค์ กับ ส.ส.เก่าอีก 1-2 คนที่ลอยลำได้คะแนนชนะคู่แข่งเกินหมื่นคะแนนแบบไม่ต้องลุ้น  แต่อีก 10 คนที่เหลือชนะคู่แข่งแบบไม่เกินหมื่นคะแนนมาทั้งนั้น  บางคนเฉือนแค่หลักร้อยหลักพันเศษๆ รอบก่อนได้กระแสพล.อ.ประยุทธ์ได้ความนิยมของบิ๊กตู่ช่วย รอบนี้ลงสู้ศึกด้วยตัวเองถามว่าพรรคเศรษฐกิจไทยจะชูอะไร  ขายร.อ.ธรรมนัสก็ไม่ได้ขายนโยบายก็ไม่มี  จะเหลือ “จุดขาย” อะไรไปหาเสียงกับชาวบ้าน   ที่สำคัญ กระสุนดินดำ ทุนรอนจะเอามาจากไหน  เพราะตอนอยู่พรรคพลังประชารัฐบิ๊กป้อมรับภาระดูแลทั้งหมด  ออกมาบินเดี่ยวแบบนี้จะเอาปัญญาจากที่ไหนไปจ่ายเงินให้ส.ส.  มิหนำซ้ำเลือกตั้งรอบหน้าแต่ละพื้นที่มีทั้งเพื่อไทย ไทยสร้างไทย พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย ก้าวไกล  ฯลฯ เป็นแค่พรรคเล็กๆ จะเอาอะไรไปสู้เขา

กลับไม่ได้ไปไม่ถึง ครึ่งคนครึ่งผี จะกลับไปอยู่กับพรรคเพื่อไทยฝ่ายทักษิณก็ลำบาก ใครอยากได้ข้าหลายเจ้าบ่าวหลายนาย เป็นหมาสองรางใครอยากจะเอา เรื่องในพรรคยังเอามาปูด เรื่องส.ส.พรรคเล็กรับกล้วยน้ำร้อนน้ำชารายเดือนยังเอามาแฉ  โจทย์เพียบทั้งวงการ หาเรื่องเขาไปทั่ว  ไฝว่กับทุกคนทั้งหมด  ผู้ใหญ่เจ้านายกูก็ไม่เว้น   คนอย่างนี้ใครอยากเอาไปเข้าพรรค    เข้าทำนองหนังจีนในอดีต  “อยู่แก๊งค์ไหนหัวหน้าตายหมด”  ทักษิณฉลาดล้ำลึกนายหญิงอย่างพจมานรู้ดีใครจงรักใครภักดี ทำตัวแบบนี้ไปที่ไหนใครก็ขยาด  พรรคเพื่อไทยไม่มีทางเอา ใครอยากเลี้ยงหมาที่จ้องงับกัดเจ้าของ     ไปต่อไม่ไหวสุดท้ายก็ต้องบากหน้ากลับไปหาพี่ป้อม  แนวโน้มตอนนี้โอกาสมีสูงเพราะพล.อ.ประวิตรก็กำลังอยากหาคนไปช่วยทำพรรค  เพราะคนไว้ใจคนเก่งๆที่เขี้ยวการเมืองแทบไม่มี  ส่วนใหญ่หนักไปทางเก่งพูดทำไม่เป็น  เงินไม่ควักเป็นตัวถ่วงหนักพรรคเปล่าๆ   ได้ผู้กองธรรมนัสกลับมาเป็น “กองหน้า” หัวหมู่ทะลวงฟันบิ๊กป้อมคงเบาแรงไปเยอะ   แต่ก็ต้องชั่งใจให้ดีว่าพรรคมีโอกาสร้าวแตกเละเป็นเสี่ยงๆ ได้เช่นกัน    อย่าลืมว่าผู้กองนัสเสมือน  “ไฟ”  ที่ผ่านมาก็เห็นอยู่ว่าหาเรื่องเขาไปทั่ว   ในพรรคพลังประชารัฐก็ขบเหลี่ยมคนไปหมด  ทั้งแก๊งสามมิตรก็ไปแย่งเก้าอี้เลขาธิการพรรคมาจาก “เสี่ยแฮงค์” อนุชา นาคาศัย อดีตเลขาฯเก่า  กับ  “เสี่ยเฮ้ง”สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงานก็มีเรื่องถูกมองว่าเป็น  “ไอ้โม่ง”  เขี่ยชื่อไม่ไว้วางใจให้ฝ่ายค้านรุมยำตีน    ยังไม่นับรวมมีเรื่องตอบโต้กับ “เสี่ยโอ๋” ชัยวุฒิ  ธนาคมานุสรณ์เรื่องกลับ-ไม่กลับพรรค   งัดข้อกับไพบูลย์  นิติตะวัน กุนซือกฎหมายของพรรค   แม้กระทั่งเลขาฯใหม่อย่าง  สันติ พร้อมพัฒน์ ก็ไม่ลงรอยกัน

เอาร.อ.ธรรมนัสกลับมาพล.อ.ประวิตรอาจสบายมีมือไม้คอยช่วยเหลือโดยเฉพาะช่วงนับถอยหลังเลือกตั้ง    แต่พรรคพลังประชารัฐจะร้อนเป็นไฟแกนนำคนอื่นจะกระอักกระอ่วนใจกันหมด   แค่มีข่าวผู้กองจะคัมแบ๊ก ในพรรคก็ออกโรงต้านกันระงมชักแถวออกมาให้สัมภาษณ์กันสลอน     ลุงป้อมลองคิดดูได้กับเสียคุ้มกันไหม  พล.อ.ประวิตรอยากได้ขุนพลออกศึก  ร.อ.ธรรมนัสอยากมาซบไออุ่นของเจ้านายผู้มากบารมี  แต่ถามใจคนในบ้านอีกเป็นพรวนหรือยัง  อยากรับ “เผือกร้อน” มาไว้ในมือ เอา “ลูกไฟ” มาไว้ในบ้านไหม  อย่างไหนได้เสียมากกว่ากัน  ท่านรักษาการนายกฯ

//////////////////////

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ชาวสัตหีบ ผวา กลัวคนร้ายมีมนต์สะกดให้หลับ ก่อเหตุ 2 ครั้ง ฉกโทรศัพท์ 8 เครื่อง ในศาลาสวดศพวัดเทพประสาท
รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติฯ ทำ MOU บริษัท ไวท์พลาย ยกระดับการให้บริการสุขภาพ ตอบสนองต่อแผนยุทธศาสตร์ ในเรื่อง Smart Hospital และนโยบาย ผบ.ทร.
ตำรวจภูธรภาค 2 ผนึกกำลังเปิดปฏิบัติการ ล้างบางปรสิต กำจัดอาชญากรข้ามชาติ
ตำรวจแจ้งเอาผิด 4 ข้อหาหนัก ก่อนฝากขัง "คนร้าย" ยิง 3 ศพ หนองบัวลำภู
รวมพลอริเก่า! ลงขันล่า “ตั้ม แดน 3” จ้างซามูไรในคุก รับจบข้ามแดน
“วราวุธ” สั่ง พม. เปิดวอร์รูมศบปภ. เร่งขับเคลื่อนช่วยกลุ่มเปราะบาง น้ำท่วมภาคใต้
"พิชัย" นำทีมพณ.หารือ "สหพันธ์ขนส่งฯ" แลกมุมมองพัฒนาธุรกิจโลจิสติกส์ไทยให้เข้มแข็ง
จีนขู่จะบดขยี้ผู้พยายามประกาศเอกราชไต้หวัน
"รมว.ปุ๋ง" ขึ้นเหนือชวนนักท่องเที่ยวแอ่วลำปาง-ลำพูน ยกย่องชุมชนคุณธรรมฯ ท่ามะโอ-วัดพระธาตุลำปางหลวง
“โฆษกดีเอสไอ” แจงชัด ไม่มีเอี่ยวภาพเอกสารพ่วงตราดีเอสไอ กล่าวหาผู้บริหารปตท. พัวพันทุจริตฟอกเงิน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น