กลายเป็นองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ถูกจับตามองอย่างมาก ถึงทิศทางการบริหารจัดการธุรกิจในอนาคต สำหรับ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากร น้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์ เพราะปัญหาเดิม เรื่อง ผลกระทบจากการโดนกรมธนารักษ์ล้มประมูล ยังไม่มีข้อสรุป เพราะต้องรอกระบวนการทางศาลปกครอง ซึ่งกำหนดนัดไต่สวนครั้งแรก ในวันที่ 15 ก.ย. 2565 นี้ กรณีที่ บริษัท อีสท์วอเตอร์ ยื่นฟ้องขอเพิกถอนมติของคณะกรรมการคัดเลือกเอกชน (กรมธนารักษ์) ในการจัดให้เช่า/บริหารระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ยกเลิกการคัดเลือกเอกชนตามประกาศเชิญชวนเอกชนเพื่อบริหาร และดำเนินการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ฉบับลงวันที่ 16 กรกฎาคม 2564 และขอเพิกถอนประกาศเชิญชวนฯ ฉบับใหม่ ลงวันที่ 10 กันยายน 2564
แต่อีกด้านหนึ่งบริษัท อีสท์ วอเตอร์ ที่ผ่านมา ก็มีปัญหาภายในสะสมหลายเรื่อง โดยเฉพาะกรณีตัวแทนผู้ถือหุ้น ยื่นหนังสือร้องเรียน ต่อ นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการสำนักงาน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ให้ตรวจสอบเรื่อง กระบวนการพิจารณาแต่งตั้งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ หรือ ซีอีโอ บริษัท อีสท์ วอเตอร์ เนื่องจากพบหลายประเด็นสงสัย ในการวัดผลคุณสมบัติผู้สมัคร ซึ่งมีข้อมูลประกอบว่า การตัดสินใจของคณะกรรมการบริษัท อีสท์ วอเตอร์ ไม่ได้เป็นไปตามหลักการที่ถูกต้อง
รวมถึงยังขอให้มีการตรวจสอบการดำเนินการและบริหารงานบุคคลที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย
1. นางอัศวินี ไตลังคะ ประธานคณะกรรมการบริษัท
2. พลเรือเอก สุชีพ หวังไมตรี ประธานคณะกรรมการการลงทุน ของบริษัทฯ
3. นายเชิดชาย ปิติวัชรากุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และกรรมการการลงทุน ของบริษัทฯ
4. คณะกรรมการบริษัท ของบริษัทฯ
กรณีจัดซื้อจัดจ้างโครงการพัฒนา “สระสำรองน้ำสระสำนักบก” ต.สำนักบก อ.เมือง จ.ชลบุรี เนื่องจากเข้าข่ายฝ่าฝืน หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีของบริษัทฯ เรื่องความรับผิดชอบต่อคู่ค้า รวมถึงมีกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างและเงื่อนไขสัญญา หรือข้อตกลงที่ไม่เป็นธรรม ขาดธรรมาภิบาล และไม่มีวิธีปฏิบัติเพื่อผลประโยชน์ของบริษัทและผู้ถือหุ้นโดยรวมเป็นสำคัญ
และมีการกระทำอาจเข้าข่ายการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะกรรมการที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายมาตรา 89/7 มาตรา 89/8 มาตรา 89/10 และมาตรา 89/11 ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 และมาตรา 85 มาตรา 88 ของพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535
เนื่องจากประมูลจัดสร้างสระสำรองน้ำ ต.สำนักบก อ.เมือง จ.ชลบุรี มูลค่า 75 ล้านบาท รอบที่ผ่านมา ถูกตรวจสอบพบว่า มีปัญหาเรื่้องการใช้เอกสารค้ำประกันสัญญา หรือ Letter of Guarantee (LG) ปลอม มาใช้เป็นเอกสารอ้างอิง เพื่อดำเนินการ แต่ปรากฎว่าผู้บริหารของ อีสท์ วอเตอร์ ไม่ฟ้องร้องเอาผิดทางกฎหมาย ในทางตรงข้าม กลับยินยอมให้ บริษัท โกบอล โปรสเปคเตอร์ แอนด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด เป็นผู้รับผิดชอบ ตามเดิม และปัจจุบัน ก.ล.ต. เอง ยืนยันว่ากระบวนการข้อร้องเรียนทั้งหมด อยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการทางกฎหมาย แม้ว่าช่วงเวลาการตรวจสอบจะผ่านมานานหลายเดือนแล้วก็ตาม
ล่าสุด สำนักข่าว TOPNEWS พบว่า มีกรณีปัญหาใหม่เกิดขึ้น ภายใน บริษัทอีสท์ วอเตอร์ กับการเร่งรัดแผนดำเนินการจัดทำท่อส่งน้ำ EEC มูลค่ากว่า 4,200 ล้านบาท โดยคณะผู้บริหารอ้างว่าเพื่อเตรียมความพร้อม นำมาทดแทนท่อส่งน้ำเดิม ที่กำลังเป็นปัญหาและอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง และยังไม่มีคำพิพากษาใด ๆ ทั้งสิ้น
และจากการตรวจสอบเพิ่มเติม มีข้อมูลว่า การพิจารณาแผนดังกล่าว เริ่มต้นเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2565 โดยการที่ประชุมคณะกรรมการฯ ประกอบด้วย นางอัศวินี ไตลังคะ , พล.ร.อ. สุชีพ หวังไมตรี , พล.ร.อ. พิเชฐ ตานะเศรษฐ เป็นต้น พร้อมกับให้เหตุผลและความจำเป็นในการดำเนินโครงการดังกล่าว ว่า เพื่อให้สามารถสูบน้ำได้ตามปริมาณน้ำต้นทุนที่ได้รับอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนรองรับความต้องการใช้น้ำของผู้ใช้น้ำ ในพื้นที่เพื่อทดแทนท่อเดิมของกรมธนารักษ์ และทำให้เกิดความคุ้มค่าในการลงทุนสูงสุด โดยกำหนดแผนก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในปลายปี 2566