ควันหลงกระแสข่าว “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทยแบะท่าอยากขอย้ายกลับบ้านเก่าพรรคพลังประชารัฐ หลังจับยามสามตาดูทรงแล้วว่า หากไปต่อด้วยพรรคตัวเองในการเลือกตั้งเที่ยวหน้า มีหวังล่องจุ๊นย่อยยับเป็นแน่ เพราะบวกลบคูณหารจากกติกาสูตรหาร 100 คำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ กระแสคะแนนนิยมของพรรค คู่แข่งทางการเมืองที่งอกขึ้นมาอีกบานไม่ใช่แค่พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล แต่ยังมีพรรคใหม่อย่างพรรคไทยสร้างไทย และเจ้าของพื้นที่เดิมอย่างพรรคพลังประชารัฐ รวมถึงเรื่องกระสุนดินดำงบประมาณที่จะใช้ต่อสู้ในสนามเลือกตั้ง บอกได้เลยว่างานนี้ผู้กองเหนื่อยแน่ๆ เอาเป็นว่าแทบรากเลือดถ้าจะไปต่อด้วยลำแข้งของตัวเอง เที่ยวนี้จึงอาจต้องกลืนน้ำลายตัวเอง แม้จะเคยประกาศว่าจะทำพรรคเศรษฐกิจไทยให้เป็นที่พึ่งของประชาชน เคยเล่นใหญ่ว่าจะเป็นพรรคทางเลือกของชาวบ้าน แต่ดูทางข้างหน้าแล้วไปต่อยากจริงๆ
ที่สุดจึงนำไปสู่กระแสข่าวการขอกลับพรรคพลังประชารัฐ หวนคืนบ้านเก่ารังเดิมขอกลับมาตายรังอยู่ใต้ร่มเงา “พี่ใหญ่ป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ตอนนี้บารมีกำลังเบ่งบาน รัศมีจับดวงดี กำลังขึ้นหม้อทางการเมืองเหมือนข้าวหอมมะลิใหม่ที่เพิ่งหุง เพราะได้เป็นรักษาราชการนายกฯแบบเต็มตัว มีอำนาจเต็มในการย้ายคนอนุมัติเงิน แถมมีลุ้นเป็นนายกฯคนนอกอยู่ ด้วยเหตุที่หลังถูกขับออกจากพรรคพลังประชารัฐ ผู้กองธรรมนัสก็มีสภาพง่อนแง่น กระแสพรรคก็ไม่ดี ความนิยมในตัวส.ส.ก็ตกต่ำดำดิ่ง มีแต่ “ทรง” กับ “ทรุด” ไปหน้า ขนาดเลือกตั้งซ่อมในเขตตัวเองยังพ่ายแพ้หลุดลุ่ย ไม่แปลกที่จะมีกระแสข่าวผู้กองอ้อนบิ๊กป้อมขอกลับพรรคเก่า อยากมาพึ่งใบบุญพี่ใหญ่ 3 ป.อีกครั้ง ล่าสุดแม้เจ้าตัวจะออกมาแก้เกี้ยวเรื่องย้ายพรรค ว่าไม่จริงไม่เคยพูดไม่เคยคิดเรื่องนี้ แถมออกมาแก้ต่างอย่างหล่อว่าขอให้บรรดารมต.เรือแป๊ะ สนใจเรื่องน้ำท่วมความเดือดร้อนชาวบ้านก่อน อย่ามัวมาห่วงเรื่องการเมือง
“ ส่วนตัวผมแล้วในช่วงนี้เราไม่ควรให้ความสำคัญกับการย้ายสังกัดของนักการเมืองเพราะเวลานี้เป็นห้วงเวลาที่พี่น้องประชาชนกำลังหวาดผวากับอุทกภัยหรือน้ำท่วม ทั้งน้ำเหนือและน้ำจากฟ้ากำลังถล่มลงมาในหลายจังหวัดและพี่น้องประชาชนเดือดร้อนกันถ้วนหน้า ผมว่าเราเอาเวลาไปคิดเรื่องการแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนดีกว่าไหมครับ การเมืองต้องเอาประชาชนเป็นที่ตั้งครับ” ผู้กองอัพเฟซบุ๊คตีกินขึงขัง ที่ดูจะตรงกันข้ามกับมือขวาอย่าง ไผ่ ลิกค์ เลขาธิการพรรค ส.ส.กำแพงเพชร ที่ออกมารับลูกการคัมแบ๊กกลับพรรคเก่าอย่างชัดเจน “ เรื่องนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ ต้องดู ณ วันนั้น และต้องให้เกิดการพูดคุยกันจริงๆก่อน จะได้รู้ว่าควรทำอย่างไร แต่ตอนนี้ยังไม่มีการพูดคุยกัน โดยไม่มีปัจจัยหรือเงื่อนไขอะไรประกอบการตัดสินใจที่จะกลับมาทำงานร่วมกันในนามพรรคเดียวกัน ทั้งนี้พรรคเศรษฐกิจไทยและพล.อ.ประวิตร ทำงานร่วมกันได้อยู่แล้ว ไม่ใช่ปัญหา แต่การเมืองมีหลายองค์ประกอบ และต้องหารือตัดสินร่วมกันในพรรค” ไผ่ ลิกค์ระบุ แถมยังอวยบิ๊กป้อมสุดตัว เป็นผู้ใหญ่ที่มีเมตตา น่ารัก 4 ปี ดูแล ห่วงใย ส.ส. เอาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนมาแก้ไขอย่างรวดเร็ว
ชัดเจนว่าฝ่ายร.อ.ธรรมนัสกับพลพรรคส.ส.เศรษฐกิจไทยอย่างกลับรังเก่ามาซบใต้ปีกบิ๊กป้อม เพราะเซฟต้นทุนและมีลุ้นกลับมาเป็นส.ส.ได้มากกว่าอยู่พรรคของตัวเอง ขณะที่ฝ่ายบิ๊กป้อมดูตามทรงก็คงอยากได้ก๊วนผู้กองกลับมาเช่นกัน ล่าสุดถึงขนาดทอดไมตรีออกปากว่าที่ไหนส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทยลงสมัครพรรคพลังประชารัฐจะหลีกให้ อย่าลืมว่าพรรคเศรษฐกิจไทยปัจจุบันมีส.ส.16 คน เป็นส.ส.เขต 13 คน บัญชีรายชื่อ 3 คน อนาคตไม่ว่าระยะสั้นที่พล.อ.ประวิตรกำลังลุ้นชะตากรรมของน้องรักอย่าง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม จะได้ไปต่อหรือไม่ หากพล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ไปต่อ บิ๊กป้อมก็มีลุ้นตำแหน่ง “นายกฯคนนอก” ขึ้นมาทันที ตรงนี้แหละที่มีความจำเป็นต้องได้เสียงจากส.ส.และส.ว.ในการสนับสนุน ขณะที่ระยะยาวหากพล.อ.ประยุทธ์หลุดบ่วงกรรม 8 ปี ยังไงแนวโน้มก็คงได้ไปต่อแค่ 2 ปี และจะหมดวาระการทำหน้าที่ 5 เม.ย.2568 เพราะฉะนั้นบิ๊กป้อมก็ยังมีลุ้นเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคพลังประชารัฐได้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นหมายเลข 1 หรือหมายเลข 2 เพราะฉะนั้นการเลือกตั้งคราวหน้าที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่เกิน 6 เดือนหลังจากนี้ ที่จะเกิดก่อน 23 มี.ค.2566 นี้อย่างแน่นอน เพราะจะครบวาระ 4 ปีสภาผู้แทนราษฎร
ยังไงอนาคตถ้าบิ๊กป้อมหวังสูงจะเป็นแกนนำพรรครัฐบาลต่ออีกสมัย หรือฝันไกลไปถึงนายกฯนั่งเก้าอี้สร.1 โดยเฉพาะหากพล.อ.ประยุทธ์ได้ไปต่อแค่ 2 ปี ทุกคะแนนเสียงทุกเก้าอี้ส.ส.ล้วนสำคัญเป็นอย่างยิ่ง อย่าลืมแม้ว่าร.อ.ธรรมนัสจะเป็นประเภท “ลูกไฟ” อยู่ใกล้แล้วร้อนเพราะเผาผลาญทุกอย่างหมด แต่พล.อ.ประวิตรอาจต้องอาศัยนักเลงการเมืองแบบนี้ในการแผ่วถางทางไปสู่ความสำเร็จ อย่าลืมว่าในมือผู้กองมีส.ส.ทั้งเขตทั้งบัญชีรายชื่อถึง 16 คน ขี้หมูขี้หมาก็เป็นฐานคะแนนชั้นดีให้กับพล.อ.ประวิตรในการไปต่อทางการเมืองหรือลุ้นเก้าอี้นายกฯได้ ยังไงมีธรรมนัสไว้ในมือถึงเวลาเลือกตั้งพล.อ.ประวิตรก็น่าจะได้กำไรมากกว่าขาดทุน
เพียงแต่ต้องไปเคลียร์กับน้องรักอย่างพล.อ.ประยุทธ์ให้จบก่อนว่ารับได้ไหมหากจะเอาร.อ.ธรรมนัสกลับมาใช้งาน อย่าลืมว่าพล.อ.ประยุทธ์กับร.อ.ธรรมนัสนั้นแค้นฝั่งหุ่นไม่เผาผีกัน อดีตที่เคยวางแผนเลื่อยขาประยุทธ์ล้มบิ๊กตู่ระหว่างศึกซักฟอกปี 2564 ก็ยังคาใจกันอยู่ แถมหลังถูกบิ๊กตู่ปลดพ้นรมช.เกษตรฯ ฝ่ายผู้กองก็ยิ่งแค้นหนักถึงขนาดเดินเกมส์ป่วนรัฐบาลเตะตัดขาบิ๊กตู่ไม่หยุดหย่อน ส่งผลทำให้บิ๊กตู่เสียจังหวะเสียรังวัดในการบริหารประเทศไปหลายครั้งในหลายกรณี แถมศึกซักฟอกปีล่าสุด 2565 ที่ผ่านมา ยังออกฤทธิ์นำ 13 ส.ส.ยกมือไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์อีกต่างหาก ฟาดพล.อ.ประยุทธ์ไว้ขนาดนี้พล.อ.ประวิตรจะเอากลับมาร่วมงานกันยังไง จะมองหน้ากันติดไหม จะอยู่กันยังไงในเรือแป๊ะ
นอกจากนี้อย่าลืมว่าในพรรคพลังประชารัฐ ยังมีโจทก์เก่าของผู้กองอีกหลายคนที่ล้วนเคยมีปัญหางัดข้อกับร.อ.ธรรมนัสมาหลายครั้งหลายกรณี อาทิ “เสี่ยแฮงค์” อนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ แกนนำกลุ่มสามมิตรที่ถูกผู้กองเบียดจนตกเลขาธิการพรรค “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เคยมีข่าวว่าถูกเบียดจะมาชิงเก้าอี้ “จับกัง 1” รวมถึงเป็นไอ้โม่งที่อยู่เบื้องหลังใส่ชื่อรมต.คนที่ 11 ให้ฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจในปีนี้ แม้แต่สันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคปัจจุบันที่อดีตเคยดีๆกันอยู่ เพราะอยู่แก๊งค์ “ 3 ช.” ด้วยกัน ตอนหลังก็มาเขม่นกัน ถึงขนาดมีข่าวให้พรรคเล็กล้มสันติเรื่องท่อน้ำ ถามว่าร.อ.ธรรมนัสมีคู่กรณียาวเป็นหางว่าวในพรรคแบบนี้ พล.อ.ประวิตรคิดยังไงยังดันทุรังจะเอาเผือกร้อนเข้ามาในพรรคไหม เอาผู้กองมาเสี่ยงพรรคแตก ให้โอกาสร.อ.ธรรมนัสอาจทำให้บ้านร้อน ยอมหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจอีกครั้งอาจทำให้มองหน้ากับน้องรักอย่างบิ๊กตู่ไม่ติดกินแหนงแคลงใจกันไปตลอดกาล พล.อ.ประวิตรจะกล้าแลกไหม เอาใจคนเดียวแต่คาใจกันทั้งพรรค มันคุ้มค่ากันไหมถามใจลุงป้อมดูเองแล้วกัน
///////////