กรมการแพทย์เตือน "มะเร็งปอด" เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 2 ของคนไทย แนะหากพบ 7 สัญญาณเตือนนี้ มีอาการเรื้อรังมากกว่า 2 สัปดาห์ รีบพบแพทย์ด่วนก่อนสาย
ข่าวที่น่าสนใจ
กรมการแพทย์ โดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ชี้ “มะเร็งปอด” เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 2 ของคนไทย แนะสังเกตสัญญาณเตือน เรื้อรังติดต่อกันมากกว่า 2 สัปดาห์
- ไอเป็นเลือดหรือมีเสมหะปนเลือด
- เจ็บหน้าอก
- น้ำหนักลด
- เหนื่อยง่าย
- อ่อนเพลีย
- เบื่ออาหาร
- บางรายอาจมีไข้ต่ำ ๆ หรือมีปอดติดเชื้อซ้ำซาก
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า “มะเร็งปอด” เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 2 ของคนไทย (เป็นอันดับ 2 ในผู้ชายรองจากมะเร็งตับ และเป็นอันดับ 1 ในผู้หญิง) การตรวจคัดกรองให้พบโรคในระยะแรกทำได้ยาก และมีอัตราการเสียชีวิตสูง
สาเหตุเกิดโรคมะ เร็งปอด
1. การสูบบุหรี่รวมถึงยามวนต่าง ๆ
- ผู้สูบบุหรี่อาจมีโอกาสเป็นมะ เร็งปอดมากกว่าผู้ไม่สูบถึง 10 เท่า
- รวมถึงผู้ที่ไม่ได้สูบบุหรี่เองโดยตรง แต่สูดดมจากบุหรี่ที่ผู้อื่นสูบก็มีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไป
- เนื่องจาก ในควันบุหรี่มีสารก่อมะเร็งมากกว่า 60 ชนิด
2.ได้รับแร่ใยหิน (แอสเบสตอส)
- เป็นแร่ที่ใช้ในอุตสาหกรรมหลายชนิด เช่น การก่อสร้าง โครงสร้างอาคาร ผ้าเบรค ฉนวนกันความร้อน
- ผู้เสี่ยง คือ ผู้ที่อาศัยหรือทำงานอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแอสเบสตอสปนเบื้อนเป็นเวลานาน
- อาจใช้เวลา 15-35 ปี ในการทำให้เกิดมะ เร็งปอด
- สำหรับผู้ไม่สูบบุหรี่แต่ทำงานกับฝุ่นแอสเบสตอส อาจเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอดมากกว่าคนทั่วไปถึง 5 เท่า
3. สาเหตุอื่น ๆ
- มลภาวะเช่น PM 2.5 สารเบนซิน ฟอร์มาลดีฮายด์ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยมะเร็ง ปอดจำนวนมาก ไม่เคยมีประวัติสูบบุหรี่ หรือ แอสเบสตอส มาก่อน ปัจจุบัน ยังไม่มีแนวทางการคัดกรองโรคมะเร็ง ปอดที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่า เมื่อผู้ป่วยมีอาการผิดปกติมักจะเป็นโรคในระยะที่ลุกลามไปแล้ว ทำให้การตรวจพบโรคในระยะแรกทำได้ยาก และมีอัตราการเสียชีวิตสูง วิธีที่ดีที่สุดในปัจจุบันจึงเป็นการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ
นายแพทย์สกานต์ บุนนาค ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า อาการที่น่าสงสัยว่าอาจเป็นโรคมะเร็ง ปอด ได้แก่
- ไอเรื้อรังติดต่อกันมากกว่า 2 สัปดาห์
- ไอเป็นเลือดหรือมีเสมหะปนเลือด
- เจ็บหน้าอก
- น้ำหนักลด
- เหนื่อยง่าย
- อ่อนเพลีย
- เบื่ออาหาร
- บางรายอาจมีไข้ต่ำ ๆ หรือมีปอดติดเชื้อซ้ำซาก
ซึ่งจริง ๆ แล้วอาการเหล่านี้ไม่ได้เป็นอาการที่เฉพาะเจาะจงกับมะ เร็งปอด อาจพบในโรคอื่นได้ เช่น วัณโรคปอด หากมีอาการสงสัยต้องทำการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม
การวินิจฉัย
- ทำโดยการถ่ายภาพรังสีปอด (X-ray หรือ CT scan) ร่วมกับการตรวจหาเซลล์มะเร็งเช่นการตรวจจากเสมหะ หรือการตัดชิ้นเนื้อจากปอดมาตรวจ
- เมื่อพบว่าเป็นมะเร็ง ปอดแน่นอนแล้วแพทย์จะเป็นผู้ให้ข้อมูล เพื่อให้ผู้ป่วยและญาติร่วมตัดสินใจ โดยพิจารณาจากชนิดของมะเร็ง ระยะโรคและการลุกลาม ความแข็งแรงของผู้ป่วยเป็นหลัก
การรักษา
- มีทั้งการผ่าตัด
- การใช้ยา
- การฉายแสง
- หรือรักษาร่วมกันหลายวิธี
- เนื่องจาก มะเร็ง ปอดการตรวจคัดกรองให้พบโรคในระยะแรกทำได้ยาก และมีอัตราการเสียชีวิตสูง ดังนั้นการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง เช่น งดสูบบุหรี่ ป้องกันตัวจากการสัมผัสแร่ใยหิน หรือ มลภาวะ หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง รับประทานผักผลไม้ให้มากขึ้น ออกกำลังกายสม่ำเสมอและพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย และรีบมาพบแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติจึงเป็นสิ่งสำคัญ
ข้อมูล : กรมการแพทย์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง