กรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ร่วมกับหน่วยปราบปรามอาชญากรรมแห่งชาติอังกฤษ ประจำประเทศไทย (MLAT) ทำการสืบสวนสอบสวน หาเบาะแสเกี่ยวกับขบวนการโจรกรรมรถยนต์หรู จากประเทศอังกฤษ 35 คัน และลักลอบนำเข้ามาในประเทศไทย โดยผิดกฎหมาย พร้อมทั้งตรวจยึดรถหรูของกลาง 26 คัน จาก 35 คัน ส่งคืนประเทศอังกฤษและดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด ต่อไป
ซึ่ง กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับไว้เป็นคดีพิเศษที่ 78/2561ระหว่างปี พ.ศ.2559 – 2560 หน่วยข่าวกรองอาชญากรรมยานยนต์แห่งชาติ สหราชอาณาจักร ร่วมกับตำรวจนครบาลลอนดอน (London Metropolitan Police) สืบสวนสอบสวนหาข้อมูลเกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้น ภายใต้ชื่อ “ปฏิบัติการไททาเนี่ยม” (Operation Titanium) กระทั่งทราบว่า
มีผู้ประกอบการโชว์รูมจำหน่ายรถหรู ในประเทศไทย ร่วมมือกับแก๊งโจรกรรมชาวอังกฤษ ทำเป็นขบวนการและมีการแบ่งงานกันทำอย่างชัดเจน โดยพฤติกรรมเริ่มจาก ติดต่อทำสัญญาเช่าซื้อหรือเช่ารถยนต์ระยะสั้นจากเจ้าของที่แท้จริง จากนั้นจึงมีการนำส่งให้เพื่อนร่วมแก๊งอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งรับหน้าที่ในการปลอมแปลงเอกสารเกี่ยวกับรถที่ถูกโจรกรรม เช่น ใบตราส่งสินค้าและใบแจ้งหนี้ จากนั้น รถยนต์จะถูกส่งออกจากอังกฤษทางเครื่องบินจากสนามบินฮีทโธรว์ ไปยังประเทศสิงคโปร์ แล้วขนส่งทางเรือจากประเทศสิงคโปร์เข้ามายังประเทศไทย
ต่อมา เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2560 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้นำหมายค้น เข้าตรวจสอบเป้าหมาย 9 จุด ที่สงสัยว่าจะมีรถยนต์ดังกล่าวซุกซ่อนอยู่ พบรถยนต์ที่มียี่ห้อ รุ่น สี และเลขตัวรถ ตรงตามบัญชีที่ได้รับการประสานข้อมูลจากทางการอังกฤษ จอดอยู่ที่โชว์รูมของ บจ.ส.ธรรมธัชช (STT. Auto Car) 2 แห่ง รวม 7 คัน โดยที่ โชว์รูม บจ.ส.ธรรมธัชช เลขที่ 41 ถนนเทียนร่วมมิตร ห้วยขวาง พบ 3 คัน ได้แก่
1. PORCHE Boxster สีน้ำเงิน
2. BMW M4 สีขาว
3. LAMBORGHINI สีเขียว
ส่วนที่ โชว์รูม บจ.ส.ธรรมธัชช เลขที่ 267/13 สุขุมวิท 63 วัฒนา พบ 4 คัน คือ
1. BMW M4 สีม่วง
2. AUDI Q7 สีเทา
3. HONDA Civic GT สีดำ
4. PORCHE Boxster สีเหลือง ทั้งหมดได้ทำการยึดอายัดไว้
ขณะที่ จากกาการตรวจค้น ที่เขตปลอดอากร (Free Trade Zone) แห่งหนึ่ง พบรถยนต์ 6 คัน คือ
1. BENZ AMG สีขาว
2. BENZ GLE350 สีดำ
3. NISSAN GT-R สีขาว
4. NISSAN GT-R สีขาว
5. BENZ G350 สีดำ
6. RANGE ROVER สีดำ
กรมสอบสวนคดีพิเศษ รวมรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมจากอังกฤษ ที่ได้ตรวจค้นพบและยึดอายัดไว้ในขณะนั้นทั้งหมด 13 คัน
ต่อมา เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2561 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ตั้งคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษ ที่ 78/2561 และขอให้ทางอังกฤษสอบสวน ตรวจสอบข้อมูลและจัดส่งพยานเอกสารและหลักฐานต่างๆ เกี่ยวกับรถยนต์ ทั้ง 35 คัน ที่ถูกโจรกรรมมา เพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานในการดำเนินคดีกับผู้ที่นำรถยนต์ดังกล่าวเข้ามาโดยผิดกฎหมาย เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2561