คืบหน้ากรณี นายสิงห์ จะใบรัมย์ เจ้าหน้าที่ รปภ. องค์กรทหารผ่านศึก ซึ่งเข้าเวร ช่วงกลางคืน ประจำ สถาบันเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ ย่านสาทร ได้ก่อเหตุสลดด้วยการใช้มีดจ้วงแทงและฟัน น.ส. อนิจตา อยู่โสนะ เพื่อนร่วมงานเสียชีวิต ปมเหตุเรื่องชู้สาว แล้วหลบหนีไป ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมได้ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 ก.ย. ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
รปภ. คลั่งรัก เผยปมเหตุสังหาร เพื่อนร่วมงานสาวที่หมายปอง เหตุหึงหวง หลังจับได้ผู้ตายแอบปันใจให้ชายอื่น เตือนให้เลิกแต่ไม่ฟัง จึงพลั้งมือก่อเหตุ ขณะแม่เหยื่อสุดเศร้า ลั่นขอให้ได้รับโทษตามกฎหมายสูงสุด
ข่าวที่น่าสนใจ
วันนี้ ( 22 ก.ย. ) ที่สน.ทุ่งมหาเมฆ ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผย จากหัวหน้างานของผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิต ซึ่งเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน เจ้าของคดี ว่า วันนี้ ตนได้เดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติม ในฐานะหัวหน้างานของคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย โดยผู้เสียชีวิตและผู้ก่อเหตุ ได้เริ่มเข้าทำงานเมื่อปี 2563 โดยตลอดระยะเวลา 2 ปี ตนเองไม่เคยเห็นพฤติกรรมในทางชู้สาวของทั้งสองคน จึงไม่เคยมีการพูดคุยและตักเตือนใดๆ กระทั่งเกิดแหตุขึ้นจึงทราบว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์กันในเชิงชู้สาว ด้าน นางอนงค์ มณีวัน แม่ของนางสาวอนิจตา เปิดเผยด้วยสีหน้าเศร้าสลดว่า รู้สึกตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น และขอประณามผู้ก่อเหตุ ซึ่งก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยมอำมหิต และขอให้กฎหมายลงโทษขั้นสูงสุด ส่วนประเด็นที่ผู้ก่อเหตุฆ่าลูกสาว เพราะตามจีบมานาน ส่วนตัวไม่มีข้อมูลเรื่องนี้ แต่ถึงเป็นเรื่องจริง ก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะต้องใช้ความรุนแรงขนาดเอาชีวิตกัน สำหรับลูกสาว เพิ่งเข้ามาทำงานที่กรุงเทพมหานคร ได้เพียงแค่ 2 ปีเท่านั้น และถือเป็นเสาหลัก ในการหาเลี้ยงครอบครัว โดยวางแผน จะสร้างบ้านใหม่ ภายในสิ้นปีนี้ แต่ก็ต้องมาจบชีวิตลงเสียก่อน
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวนายสิงห์ จะใบรัมย์ มาสอบสวนเพิ่มเติม โดยนายสิงห์ ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนและผู้ตายกำลังคบหาดูใจกันอยู่ ยอมรับที่ทำไปเพราะหึงหวง เนื่องจากจับได้ว่าผู้ตายแอบไปคบหากับชายอื่นซึ่งทราบเพียงประกอบอาชีพพนักงานขับรถบัส ตนจึงให้ผู้เสียชีวิตไปเลิกกับชายคนนี้ แต่ไม่เป็นผลเนื่องจากทั้งคู่ยังคงแอบคบหาและไปมาหาสู่กันอยู่ จึงลงมือก่อเหตุด้วยความโกรธแค้น โดยหลังก่อเหตุรู้สึกสำนึกผิดและอยากขอโทษผู้เสียชีวิต และญาติๆของผู้เสียชีวิตด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง