ภายหลังจากเมื่อวันที่ 23 ก.ย. ที่ผ่านมา นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ และนายอนุฤทธิ์ เกิดสินธ์ชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ได้ร่วมลงนามสัญญาโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก EEC มูลค่ากว่า 2.5 หมื่นล้านบาท แทนสัญญาเดิมกับ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์วอเตอร์ ที่จะสิ้นสุดลงในปี 2566 หลังจากศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งยกเลิกคำสั่งทุเลาการบังคับการดำเนินการ ตามประกาศเชิญชวนเอกชนเพื่อบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ฉบับลงวันที่ 10 ก.ย.2564
ล่าสุด นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ ซึ่งจะครบกำหนดเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย. 2565 นี้ เปิดเผยกับทีมข่าว TOPNEWS เกี่ยวกับการดำเนินโครงการท่อส่งน้ำ EEC ว่า ตามที่มีกระแสข่าวกรมธนารักษ์จะลงพื้นที่ส่งมอบท่อส่งน้ำ EEC ให้กับบริษัทวงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ทั้ง ๆ ที่กระบวนการพิจารณาคดีหลักของศาลปกครอง ตามคำร้องของบริษัทอีสท์วอเตอร์ยังไม่เสร็จสิ้น และอยู่ในขั้นตอนรอคำพิพากษา โดยข้อเท็จจริงต้องทำตามกระบวนการส่งมอบทรัพย์สิน เริ่มจากการแจ้งรายละเอียดให้กับทางบริษัทจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์วอเตอร์ ได้รับทราบ เพราะหลังจากเซ็นสัญญากับบริษัทวงษ์สยามฯ แล้ว ทางกรมธนารักษ์ยังไม่ได้มีหนังสือ เรื่องการส่งมอบทรัพย์สินไปยังบริษัทอีสท์วอเตอร์เลย เนื่องจากต้องดูข้อกฎหมายและเตรียมความพร้อมทุกอย่างให้เรียบร้อย ตั้งแต่รายการทรัพย์สิน ไปจนถึงรายละเอียดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ ยังต้องเตรียมความพร้อมดำเนินโครงการ ควบคู่ไปกับการจัดเตรียมงานกับบริษัทวงษ์สยามก่อสร้าง ในฐานะคู่สัญญาใหม่ เนื่องจากท่อส่งน้ำที่มีการเชื่อมจากพื้นที่ของกรมธนารักษ์ไปที่ผู้ใช้น้ำ ขณะนี้มีบางส่วนยังเป็นทรัพย์สินของบริษัทอีสท์วอเตอร์อยู่ ซึ่งเป็นไปได้ทั้งการที่บริษัทวงษ์สยามก่อสร้าง ต้องไปจัดเตรียมทำท่อใหม่เพื่อเชื่อมต่อกับของเดิม และการใช้ท่อเดิมทั้งหมด ซึ่งรายละเอียดจะต้องมีการตกลงกีนในทางธุรกิจของทั้ง 2 ฝ่าย
“ตอนนี้ ทางคู่สัญญาใหม่เตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว แต่ต้องดูว่าการเตรียมความพร้อมของเขาใช้เวลาเท่าไหร่ แล้วจึงกำหนดวัน สมมติ 60 วันทันหรือไม่ ที่จะต้องลงไปจัดการเชื่อมท่อให้เรียบร้อยก่อนสับสวิตซ์ แต่ยังไม่มีการลงพื้นที่ในขณะนี้” นายประภาศ กล่าว