ม็อบเดือด ชาวบ้านกว่า 100 คน รวมตัวคัดค้าน แย่งพื้นที่ทำกินสวนป่าสมเด็จ

ชาวตำบลนาจารย์ อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์กว่า 100 คน รวมตัวคัดค้านชาวบ้านอีกกลุ่มหนึ่ง ที่จะเข้ามาทำกินบริเวณสวนป่าสมเด็จ เขตรอยต่อบ้านโนนคำม่วงกับบ้านคำโพน จนเกิดเหตุการณ์ม็อบชนม็อบหวิดปะทะกัน เนื่องจากต่างคนต่างอ้างสิทธิ์ก่อนที่จะสลายตัว พร้อมเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงมาแก้ปัญหา เนื่องจากเป็นปัญหาเรื้อรังมาหลายปี โดยที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรมป่าไม้ยังแก้ไขปัญหาไม่เบ็ดเสร็จ

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัญหาขอพิพาทกรณีสิทธิ์ที่ดินทำกิน โดยเฉพาะบริเวณด้านหลังสวนป่าสมเด็จ เขตรอยต่อบ้านสวนป่า บ้านโนนคำม่วง และบ้านคำโพน ต.นาจารย์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของสวนป่าสมเด็จ กรมป่าไม้ ยังคงมีขึ้นอย่างต่อเนื่องและเป็นปัญหาเรื้อรังมานานหลายปี เนื่องชาวบ้านในพื้นที่ต่างคนต่างอ้างสิทธิ์ในที่ดินทำกิน และแย่งพื้นที่ปลูกพืชกัน ซึ่งหลายครั้งเกิดการกระทบกระทั่งกัน แต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ล่าสุดมีรายงานว่าที่บริเวณด้านหลังสวนป่าสมเด็จ เขตรอยต่อบ้านสวนป่า บ้านโนนคำม่วง และบ้านคำโพน ต.นาจารย์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ชาวบ้านจำนวนกว่า 100 คน นำโดยนายประมวล นาบุญทัน อายุ 67 ปี นางมะลิ หาศรีสุข อายุ 50 ปี และนางวรเพชร ทองการ อายุ 66 ปี ได้รวมตัวคัดค้านชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงอีกกลุ่มหนึ่งประมาณ 20 คน ที่จะเข้ามาทำกินโดยปลูกมันสำปะหลังในพื้นที่ดังกล่าว โดยชาวบ้านยังได้นำสำเนาหนังสือและระวางแผนที่ของกรมป่าไม้ เป็นหลักฐานในการรวมตัวและประท้วงในครั้งนี้ ทำให้ทั้ง 2 กลุ่มโต้เถียงกันไปมาจนเกือบปะทะกัน ก่อนที่กลุ่มชาวบ้านที่มีคนน้อยกว่าจะขึ้นรถออกไป และชาวบ้านกลุ่มใหญ่จะแยกย้ายกันไป

นายประมวล นาบุญทัน อายุ 67 ปี ชาวบ้านสวนป่า ต.นาจารย์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เดิมตนและเพื่อนบ้านกลุ่มนี้ ได้เข้ามาทำกินบริเวณดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2516-2517 โดยทางสวนป่าสมเด็จ กรมป่าไม้ ได้เปิดป่าประมาณ 900 ไร่ ให้ราษฎรจำนวน 86 ครัวเรือน ได้เข้ามาทำกิน ครัวเรือนละประมาณ 10-25 ไร่ ทั้งนี้ ชาวบ้านที่ได้รับสิทธิ์ได้เข้ามาทำกินโดยปลูกมันสำปะหลังเลี้ยงครอบครัว ขณะที่ทางสวนป่าสมเด็จ โดยอุตสาหกรรมป่าไม้ (อป.) ได้มีเงื่อนไข ให้ราษฎรทำการปลูกไม้ยูคาลิปตัสในพื้นที่ เพื่อเป็นการรักษาระบบนิเวศแบบคนอยู่กับป่าควบคู่กันไป สามารถเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจภายในพื้นที่ป่าแห่งนี้ได้โดยไม่มีการทำลายสิ่งแวดล้อม เมื่อไม้ยูคาลิปตัสเติบโต ทางอุตสาหกรรมก็จะตัดไปจำหน่ายนำรายได้เข้ารัฐ ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ แต่ในช่วงที่ผ่านมาก็เกิดเหตุการณ์มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่ง เรียกร้องที่จะเข้ามาขอสิทธิ์ทำกินด้วย จึงเกิดปัญหากระทบกระทั่งระหว่างชาวบ้านกลุ่มเดิมและกลุ่มใหม่ที่จะเข้ามาแทรกแซงเรื่อยมา โดยที่ทางภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้เบ็ดเสร็จได้ อย่างล่าสุดเมื่อเร็วๆนี้ที่มีการจะเข้ามาจับจองพื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง โดยจะนำรถไถเข้ามาปรับพื้นที่ เหมือนเข้ามาแย่งที่ทำกิน พวกตนที่เคยได้รับสิทธิ์จึงออกมารวมตัวคัดค้าน เพื่อขอความเป็นธรรมจากทางกรมป่าไม้ในครั้งนี้

ด้านนางมะลิ หาศรีสุข อายุ 50 ปี  ชาวบ้านคำโพน ต.นาจารย์ กล่าวว่า ปัญหาที่ปะทุขึ้นใหม่ครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อประมาณปี 2564 ทางกรมป่าไม้ได้มีหนังสือประกาศ ให้ราษฎรที่ทำกินพื้นที่ดังกล่าว ไปยืนชี้จุดพร้อมถ่ายภาพแสดงตนว่าเป็นผู้ทำกินในพื้นที่ดังกล่าวจริง และให้รีบเก็บเกี่ยวผลผลิตออกไปจากพื้นที่ ต่อมาก็ได้มีเอกสารมาให้ชาวบ้านเซ็นต์รับรอง ซึ่งชาวบ้านก็ไม่รู้รายละเอียดว่าเซ็นต์รับรองเรื่องอะไร เข้าใจว่ารับรองสิทธิ์ทำกินเท่านั้น ก่อนที่ต่อมาเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ได้เรียกชาวบ้านไปประชุมโดยแจ้งว่าทุกคนที่ยืนถ่ายภาพประกอบที่ทำกินดังกล่าว ถือว่าได้ถอนตัวออกจากที่ดินดังกล่าวแล้ว และจะไม่มีสิทธิ์เข้าไปทำกินได้อีก หากเข้าไปอีกถือว่าเป็นผู้บุกรุก มีโทษตามกฎหมาย เมื่อชาวบ้านได้ยินดังนั้นจึงรู้ว่าถูกเจ้าหน้าที่หลอก จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำป้ายไปปักแนวเขต ห้ามชาวบ้านเข้าไปทำกินโดยเด็ดขาด

ขณะที่นางวรเพชร ทองการ อายุ 66 ปี ชาวบ้านคำโพน ต.นาจารย์ กล่าวว่า หลังเรื่องนี้เกิดขึ้น ชาวบ้านก็ได้แต่ปรับทุกข์กัน เพราะต่อไปนี้คงจะไม่มีที่ทำกินต่อไปแล้ว ที่ดินที่เคยรับสิทธิ์ปลูกมันสำปะหลัง พอมีรายได้ลูกเลี้ยงลูกหลานมาหลายสิบปี กลับถูกทางเจ้าหน้าที่หวงห้าม ซึ่งต่อไปนี้ไม่รู้จะทำมาหากินอะไรต่อไป อย่างไรก็ตามที่สำคัญทุกคนต่างเข้าใจตรงกันว่าถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้หลอก และไม่ได้รับความเป็นธรรมกับการกระทำของเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้ แต่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา กลับมีชาวบ้านในพื้นที่บางรายและหมู่บ้านใกล้เคียง ซึ่งเป็นกลุ่มที่จะเข้ามาแทรกแซงพื้นที่ดังกล่าว ได้นำรถไถเข้ามาปรับพื้นที่เพื่อทำการปลูกมันสำปะหลัง ทั้งๆที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ประกาศเป็นพื้นที่หวงห้าม

“เมื่อตนและเพื่อนบ้าน ซึ่งเคยได้รับสิทธิทำกินเดิมจำนวน 86 รายเห็นดังนั้น จึงได้เข้าไปทักท้วงกลุ่มดังกล่าว ซึ่งทราบในตอนหลังว่าจะมีประมาณ 93 ราย โดยกลุ่มที่เข้ามาใหม่อ้างว่าได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำกินแทนกลุ่มเดิม จึงเกิดเหตุการณ์ประท้วงและคัดค้านกันขึ้น โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ป่าไม้หรือเจ้าหน้าที่ของราชการส่วนไหนเข้ามาชี้แจงหรือไกล่เกลี่ยเรื่องราวที่เกิดขึ้นเลย ดังนั้น ในฐานะตัวแทนชาวบ้านจึงอยากเรียกร้องไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงมาแก้ไขปัญหาพื้นที่ตรงนี้ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับชาวบ้านด้วย” นางวรเพชรกล่าว

อย่างไรก็ตาม บรรยากาศในการทักท้วงของชาวบ้านทั้ง 2 กลุ่ม เป็นไปอย่างเข้มข้น มีการโต้เถียงกันไปมา เพราะต่างคนต่างอ้างสิทธิ์ในที่ดินทำกิน ไม่ต่างกับม็อบชนม็อบ จนเกือบปะทะกัน ก่อนที่กลุ่มที่จะเข้ามาทำกินใหม่ ซึ่งจำนวนน้อยกว่า โดยมากันประมาณ 20 คน จะขึ้นรถออกไปจากพื้นที่ ขณะที่กลุ่มที่เข้ามาคัดค้านซึ่งมีจำนวนมากกว่า ได้ชูเอกสารและระวางแผนที่ที่เคยทำกิน 900 ไร่ พร้อมตะโกนขอความเป็นธรรม ไล่ม็อบออกไปเป็นระยะๆ ก่อนที่จะแยกย้ายกันออกไป ทั้งนี้ชาวบ้านยังคงรอคำตอบและการแก้ไขปัญหาจากสวนป่าสมเด็จ.

 

ภาพ/ข่าว ชมพิศ ปิ่นเมือง ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.กาฬสินธุ์

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"บิ๊กจ้าว" ลงดาบ "ผกก.สน.หนองค้างพลู" สั่งปลดออกจากราชการ ชี้มูลผิดวินัยร้ายแรง ม.157
สีกากียอมรับ "บิ๊กต่าย" ไม่หวั่นโดนบางฝ่ายบีบวางมาตรฐานแต่งตั้ง "ตร." "เอก อังสนานนท์" คือผู้ยืนยัน
"หลวงพี่น้ำฝน" แจงสั่งตามลูกศิษย์ ส่งตัวให้ตร. ยืดอกรับผิด ย้ำไม่สนับสนุนความรุนแรง เตือน "พระปีนเสา" ปากจะพาเดือดร้อน
"ศปช." ย้ำ "ภาคใต้" ฝนกระหน่ำต่อเนื่อง “ภูมิธรรม” กำชับเร่งช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
"ภรรยา-ลูกสาว" ของหมอบุญ เข้ามอบตัวกับตร. ตามหมายจับร่วมกันฉ้อโกง กว่า 7.5 พันล้านบาท
“บิ๊กก้อง” สั่ง ปอศ.ส่งสำนวน ‘หมอบุญ’ ฉ้อโกงปชช.-หลอกลวงลงทุน ให้ดีเอสไอ เป็นคดีพิเศษ
"พิชัย" นำทีมพณ.เจรจา รมต.การค้า 7 เขตเศรษฐกิจเอเปค เพิ่มเชื่อมั่นไทยเป็นศูนย์กลางผลิตสินค้าอุตฯสมัยใหม่
หนุ่มเจ้าของบริษัท ผวา พบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดซุกซ่อนอยู่ใต้ท้องรถยนต์เก๋ง
แนะยุบ กกต.ทิ้ง เทพไท แฉ เลือกตั้ง อบจ.เมืองคอนซื้อเสียงเปิด เผย โวย กกต.นั่งดูตาปริบๆ แนะยุบทิ้งดีกว่ามั้ย
"เชน ธนา" พาสื่อทัวร์โกดัง ยันสินค้าอยู่ครบ ไม่ได้แอบขายเอาเงินไปใช้ตามข่าว ย้ำชัดไม่ได้โกงคู่กรณี

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น