วันที่ 16 ตุลาคม นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี “เดี่ยว 13 ” โน้ส อุดม แต้พานิช วิพากษ์วิจารณ์โจมตี รัฐบาลและพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งได้ประกาศสนับสนุนการชุมนุมขับไล่นายกฯ ว่า การวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล และนายกฯนั้นเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ เป็นสิทธิขั้นพื้นที่ตามรัฐธรรมนูญ แต่อย่าถึงขั้นริดรอนสิทธิ์ส่วนบุคคลที่ทำให้เสื่อมเสียและที่ผ่านมา นายกฯประยุทธ์ ก็เปิดกว้างพร้อมที่จะรับฟังข้อท้วงติง ข้อเสนอแนะและนำมาปรับใช้ในการบริหารประเทศชาติบ้านเมืองอยู่แล้ว
นายเสกสกลกล่าวว่า
ไม่เพียงแต่บุคคลทั่วไปที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ รวมทั้งฝ่ายค้านที่เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะเห็นว่านายกฯประยุทธ์
ก็พร้อมรับฟัง แต่หากข้อมูลใดเป็นเท็จ หรือคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงก็ชี้แจงไปตามกระบวนการในระบอบรัฐสภา ส่วนกรณีนายโน้ส อุดม แต้พานิช ที่เป็นกระแสสองสามวันที่ผ่านมา ก็ไม่เห็นท่านนายกฯประยุทธ์ออกมาตอบโต้ หรือจะฟ้องร้องเอาผิดอะไร ท่านนายกฯเจอในสภาฯมา ฝ่ายค้านอภิปรายหนักยิ่งกว่านี้ก็ยังอดทนได้ จะไปสนใจอะไรกันกับนักพูดคนหนึ่งไม่ต่างนักโต้เวทีสภาโจ้กเท่านั้น ในมุมมองของตนคิดเช่นนั้น
อย่างไรก็ตามที่มีกลุ่มสนับสนุนรัฐบาลท่านนายกฯประยุทธ์ ออกมาเคลื่อนไหวตอบโต้นายโน้ส อุดม หรือบางคนจะฟ้องร้องดำเนินคดีเอาผิดนายโน้ส อุดม ก็เป็นเรื่องปกติตามระบอบประชาธิปไตยอยู่แล้ว ซึ่งคนที่เห็นว่า นายโน้ส อุดม ทำไม่ถูกก็เป็นสิทธิแต่ละคนที่จะไปดำเนินการเอง ซึ่งก็ไม่ได้เกี่ยวข้องว่านายกฯเป็นคนสั่งการเลยสักนิด เพราะท่านนายกฯอดทนกับเสียงนกเสียงกา มามากต่อมาก ท่านเป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมืองคงไม่เก็บพวกปากหอยปากปูมาเป็นสาระ อดทนตั้งใจทำงานบริหารบ้านเมืองดีกว่าเพราะขณะนี้ประชาชนกำลังได้รับความเดือดร้อน พี่น้องประชาชนที่กำลังประสบภัยพิบัติจากน้ำท่วม ได้รับความทุกข์หลายจังหวัด พี่น้องคนไทยส่วนใหญ่รวมพลังร่วมใจทำหน้าที่จิตอาสาลงไปดูแลเยียวยา หาเครื่องอุปโภคบริโภคไปช่วยเหลือพี่น้องที่ถูกน้ำท่วมกันอย่างล้นหลาม คงไม่มีเวลามานั่งฟังพวกใช้น้ำลายใช้วาทะกรรมจากปากหากิน หารายได้ พูดมากจนน้ำลายท่วมปาก เที่ยวบูลลี่ด่าทอ ล้อเลียนคนอื่นไปวันๆอย่างนี้หรอก เอาเวลาออกไปช่วยเหลือชาวบ้านเดือดร้อนน้ำท่วมได้บุญกุศลมากกว่ากันเยอะเลย