เมื่อเวลา 14.45 น. วันที่ 17 ต.ค. ที่รัฐสภา นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) กล่าวถึงกรณีที่มีการพาดพิงถึงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาว่าไม่มีความเรียบร้อย และความบกพร่องของงานว่า ที่ผ่านมามีการตั้งคำถามว่าทำไมบมจ.ซิโน-ไทยส่งมอบงานแล้ว แต่ดูเหมือนงานยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ ตนขอชี้แจงว่าการส่งมอบงานเป็นกระบวนการที่ทำขึ้นตามสัญญาระหว่างผู้ว่าจ้างและผู้รับจ้าง โครงการรัฐสภาเป็นโครงการขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ พื้นที่ก่อสร้างมากกว่า 4 แสนตารางเมตร มีห้องทำงาน1,000 กว่าห้อง การส่งมอบงานจึงหมายถึงว่าการนำโครงการที่เราก่อสร้างทั้งหมดส่งให้เจ้าของงานเป็นคนตรวจรับ ซึ่งต้องใช้เวลา ไม่ได้ตรวจรับกันภายในวันหรือสองวันแล้วจะส่งมอบได้เลย การส่งมอบงานจะต้องส่งมอบเมื่อเราดูแล้วว่างานแล้วเสร็จ จากนั้นเป็นหน้าที่ผู้ว่าจ้างต้องทำการตรวจรับงานที่เราส่งมอบ ซึ่งมีมากมายหลายหัวข้อ ถึงแม้โครงการเราจะยังไม่สำเร็จ 100 % แต่ก็ยินยอมให้ผู้ว่าจ้างเข้ามาใช้ประโยชน์ในโครงการนี้ได้ก่อน ทำให้เรื่องกระบวนการส่งมอบงานไม่ได้ใช่เวลาน้อยๆ แต่อาจใช้เวลา 5-6 เดือน แต่วันนี้เราพร้อมนำส่งงานให้ผู้ว่าจ้างตรวจสอบ หากเห็นว่าตรงไหนมีข้อบกพร่องเป็นที่ไม่พอใจผู้ว่าจ้างก็แจ้งมาที่ผู้รับจ้างเพื่อแก้ไขให้เรียบร้อยก่อนตรวจรับงาน ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการปกติก่อนส่งมอบงาน คนไม่รู้ก็คิดว่าเสร็จแล้วพร้อมใช้ทุกอย่าง แก้ไขแล้วจึงจะส่งมอบงานได้ เพียงแค่วันนี้เราขอเริ่มกระบวนการส่งมอบงานเท่านั้นเอง
นายภาคภูมิ กล่าวต่อว่า การทำงานของบมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) ในโครงการรัฐสภา ตนยืนยันว่าโครงการนี้ไม่มีทุจริตแน่นอน สิ่งที่พูดกันนั้นตนก็ไม่ทราบว่ามีข้อมูลมาจากไหน หรือมาจากคนที่ไม่เกี่ยวข้องทั้งนั้น โครงการนี้บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC)ทำตามสัญญาทุกประการ วัสดุที่ใช้ตรงตามสเปคในข้อกำหนด ไม่มีการนำของที่ไม่มีคุณภาพมาใช้แน่นอน ข้อรับประกันอีกอย่างสำหรับโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ ไม่สามารถหลบซ่อนเอาของที่ไม่มีคุณภาพมาใช้ได้ ขั้นตอนการทำงานและการตรวจรับงานจากที่เราเริ่มทำงานทุกอย่างเราจะต้องเริ่มจากการส่งตัวอย่างวัสดุให้กับผู้ควบคุมงาน ที่ปรึกษาโครงการ คณะกรรมการตรวจการจ้าง และตรวจรับโดยเลขาธิการสภาฯ ส่วนที่บอกว่าของไม่ได้คุณภาพ ไม่ตรงตามสเปคนั้น ยืนยันว่าทุกอย่างที่ได้รับการตรวจรับจะต้องผ่านขั้นตอนนี้ทุกครั้ง บางครั้งคนที่ไม่ได้อยู่ในวงการจะไม่เข้าใจ หรืออาจไม่เข้าใจเพียงพอ ไม่ได้ลงรายละเอียด หรือมานั่งอ่านสัญญา ดูแบบทุกแผ่น เอาไปพูดโดยใช้ความเข้าใจส่วนตัวและบางทีอาจไม่ตรงกับความเป็นจริง โดยเฉพาะการนำไปสื่อในสื่อสาธารณะอาจทำให้สื่อหรือประชาชนทั่วไปเข้าใจผิดได้ ทุกวันนี้เมื่อพูดถึงรัฐสภา ด้วยการชี้นำของคนบางกลุ่มต้องการมีที่ยืนบนสื่อและสังคมพยายามสื่อข้อความออกไป เพื่อให้ตนเองมีหน้ามีตาในสังคม แต่การกระทำนี้กระทบกับบุคคลหลายคน ทั้งบริษัท ข้าราชการรัฐสภา บริษัทควบคุมงาน บริษัทที่ปรึกษา
“ผมขอยืนยันโครงการนี้บริษัททำตามมาตรฐาน ทุกอย่างถูกต้องตามสัญญา และมีคุณภาพ วิธีการทำงานผ่านการตรวจสอบทุกขั้นตอน เรื่องเสาอาคารมีน้ำซึมไม่มีปัญหากับตัวโครงสร้างอาคาร 100% เรื่องต้นไม้ยืนยันปลูกครบถ้วนตามสัญญา แต่ว่ามันตาย ส่วนเรื่องหินส้มยืนยันว่าการเปลี่ยนอะไรทุกอย่างมีการรองรับโดยผู้ควบคุมงาน ที่ปรึกษา คณะกรรมการตรวจการจ้างเรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างอาจไม่ได้ตามแบบ 100 % แต่เราขออนุมัติก่อนตามขั้นตอน ยืนยันว่าโครงการนี้ไม่มีเรื่องการทุจริต ไม่มีเรื่องการโกงบ้านโกงเมือง อย่างที่มีคนไปพูดกัน หากใครสงสัยขอให้ทำเรื่องมาสอบถามได้ที่สำนักงานเลขาธิการรัฐสภา อย่าไปพูดเลย คนไม่รู้จริงแล้วไปพูดนั้นทำให้มีคนที่ได้รับความเสียหายมีเยอะ หรือท่านมีหลักฐานก็สามารถไปยื่นสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) เพื่อตรวจสอบได้ มาพูดกันแบบนี้ทำให้รู้สึกว่าไม่เป็นธรรมกับคนเสียหาย การออกมาพูดบ่อยๆทำให้เป็นการกดดันกับคณะกรรมการตรวจการจ้างได้ และทุกอย่างจะไม่เป็นธรรมชาติ ควรปล่อยให้กระบวนการก่อสร้างเป็นไปตามปกติ และเป็นไปตามกระบวนการที่ควรจะเป็น เพื่อให้มีการตรวจสอบอย่างมีคุณภาพ และไปใช้ประโยชน์ได้ ผมยืนยันว่าบมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC)เป็นบริษัทมหาชน และไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองใดๆทั้งสิ้น ทุกครั้งเมื่อมีข่าวเกี่ยวกับบริษัท ก็มีคนพยายามโยงให้เกี่ยวกับการเมือง นักการเมืองที่เคยอยู่บมจ.ซิโน-ไทยฯ ท่านได้ออกจากบริษัทไปนานกว่า 10 ปีแล้ว ผมยืนยันการตัดสินใจทุกอย่างของบมจ.ซิโน-ไทย ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริษัทและตัวผมที่มีอำนาจสูงสุดในบริษัท อย่านำเรื่องการเมืองมากเกี่ยวกับบมจ.ซิโน-ไทย เราต้องการทำธุรกิจมีคุณภาพ และปลอดการเมือง” นายภาคภูมิ กล่าว