วุ่นแล้ว ฟ้องเอาผิดเอกสารกสทช.หลุด โจมตีผนึก TRUE-DTAC

วุ่นแล้ว ฟ้องเอาผิดเอกสารกสทช.หลุด โจมตีผนึก TRUE-DTAC

กลายเป็นประเด็นใหญ่ กับข้อคำถามของ TOP NEWS ว่าเกิดอะไรขึ้นภายใน กสทช. หลังจากที่ บอร์ดกสทช. มีความเห็นให้เลื่อนการพิจารณาเรื่องการควบรวม จากวันที่ 12 ต.ค. 2565 ออกไปเป็นวันที่ 20 ต.ค. 2565 เนื่องจากต้องการรอผลการศึกษาต่างประเทศ จากการที่ กสทช. จ้างบริษัทที่ปรึกษา SCF Associates Ltd. ทำข้อมูลเรื่องผลกระทบของการควบรวม TRUE-DTAC

เพราะไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น สภาองค์กรของผู้บริโภค ได้โพสต์ เปิดเผยผลการศึกษาของที่ปรึกษาต่างประเทศ โดย น.ส. สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค ได้ออกมาอ้างถึงผลรายงานการศึกษาของบริษัทที่ปรึกษาต่างประเทศ โดยพร้อมร่วมกับเครือข่ายผู้บริโภคทั่วประเทศ ไม่ยอมรับพิจารณาเงื่อนไข 14 ข้อ และค้านการควบรวม

 

ขณะที่ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทน เลขาธิการ กสทช. ระบุกับ TOP NEWS เมื่อวันที่ 14 ต.ค.65 ว่า ” ไม่ทราบทางสภาองค์กรของผู้บริโภคเอาข้อมูลมาจากไหน เพราะตนเอง ยังไม่ทราบผลการศึกษา และยังไม่ได้รับเอกสารใด ๆ ต้องรอเจ้าหน้าที่สรุปข้อมูลมาให้”  โดยรอจนท.สรุปข้อมูลมาให้ในช่วงบ่ายวันที่ 14 ต.ค.

ไม่เท่านั้น น.ส. สารี เลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค ยังมีการโพสต์ข้อความสำคัญ เพิ่มเติมย้ำด้วยว่า มีเอกสารหลุดจากกสทช. เรื่องผลการศึกษาจากต่างประเทศ จากการที่ กสทช. จ้างบริษัทที่ปรึกษา SCF Associates Ltd. ทำข้อมูลเรื่องผลกระทบของการควบรวม TRUE-DTAC โดยมีสาระสำคัญ 5 ข้อ ว่าด้วยผลกระทบที่จะเกิดขึ้น และการแสดงจุดยืนกดดันให้ กสทช. คัดค้านการควบรวม TRUE – DTAC อย่างถึงที่สุด

 

จากกรณีดังกล่าว นายไตรรงค์ ตันทสุข นักกฎหมาย ในฐานะตัวแทนภาคประชาชน ซึ่งก่อนหน้าให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน ว่า ได้เข้าแจ้งความกล่าวโทษเป็นคดีอาญา ให้หาตัวผู้กระทำความผิด โดยมีผู้ต้องสงสัย ประกอบด้วย น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค , นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา อดีตกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และสำนักข่าวที่ลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ทุกสำนัก รวมถึงเจ้าหน้าที่ กสทช. ในความผิดฐานเปิดเผยความลับทางราชการ และบิดเบือนข้อความจริงหรือนำความเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยบันทึกเป็นคดีอาญาเลขที่ 777 / 2565

กรณีมีการให้สัมภาษณ์ของน.ส. สารี เลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค และนายแพทย์ประวิทย์ อดีตกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ประธานคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคม ว่า ได้ทราบและรู้เห็นมาตรการเฉพาะภายหลังการควบรวมกิจการระหว่างบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE และ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC หรือ 14 เงื่อนไขก่อนที่คณะกรรมการกสทช.จะพิจารณา และเปิดเผย ซึ่งการกระทำทั้งปวง น่าจะเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมาย จึงกรณีดังกล่าวร้องทุกข์กล่าวโทษ เพื่อมอบคดีให้พนักงานสอบสวนสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมาย จนกว่าคดีจะถึงที่สุด

 

ข่าวที่น่าสนใจ

รวมถึงกรณีหลังจาก กสทช.ประกาศเลื่อนการลงมติการควบรวมกิจการ TRUE-DTAC ออกไปเป็นวันที่ 20 ต.ค. 2565 เพื่อรอผลการศึกษาจากที่ปรึกษาต่างประเทศที่จะมาถึงในวันที่ 14 ต.ค. 2565 แต่กลับปรากฏว่า มีการเปิดเผยข้อมูลผลการศึกษาจากที่ปรึกษาต่างประเทศ ผ่านเฟซบุ๊กของน.ส.สารี ในเวลาต่อมา และมีการนำไปเผยแพร่ต่อตามสื่อต่างๆ ซึ่งไม่รู้ว่าได้เอกสารมาอย่างไร และเป็นเอกสารของจริงหรือไม่ ขณะที่ รักษาการเลขาธิการ กสทช. ก็ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ว่า สำนักงาน กสทช.ไม่ทราบว่าสภาองค์กรของผู้บริโภคได้รับเอกสารมาจากไหน

ทั้งนี้ นายไตรรงค์ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ตนในฐานะที่เป็นนักกฎหมายที่ติดตามข้อมูลข่าวสารเรื่องการควบรวมกิจการ TRUE-DTAC จึงมีความสงสัยติดใจในกระบวนการทำงานด้านการสื่อสารประชาสัมพันธ์ของ กสทช. ทราบเบื้องต้นว่า ดร.พิรงรอง รามสูต หนึ่งในบอร์ด กสทช. เป็นผู้รับผิดชอบหน้าที่ด้านนี้

อีกทั้ง ข้อมูลดังกล่าวทั้งเรื่อง 14 เงื่อนไข และผลการศึกษาจากที่ปรึกษาต่างประเทศ SCF Associates Ltd. ถือเป็นความลับทางราชการ ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของบอร์ด กสทช. และยังอยู่ในอำนาจหน้าที่ของบอร์ดกสทช .ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มีหน้าที่ควบคุมกำกับดูแลการเก็บรักษาข้อมูลความลับเหล่านี้ไว้ให้มั่นคง จากกระทำใดๆ ให้ผู้อื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง สามารถล่วงรู้ความลับนี้ก่อนวันกำหนดเปิดเผยข้อมูลความลับไม่ได้

การกระทำของ นางสาวสารี และนายแพทย์ประวิทย์ รวมถึงผู้เกี่ยวข้อง หรือบุคคลผู้มีหน้าที่ในการเก็บรักษา หรือเข้าถึงความลับนี้ จึงน่าจะมีส่วนในการรู้เห็นหรือร่วมกัน หรือสนับสนุนกันในการนำข้อมูลความลับของทางราชการมาเปิดเผย เพื่อสนับสนุนแนวคิดหรือน่าจะชี้นำในการคัดค้านมีให้มีการควบรวม TRUE – DTAC

 

โดยช่วงเย็นวันนี้(17 ต.ค.65) นายไตรรงค์ ได้เดินทางไปสน.ห้วยขวาง พร้อมยื่นเอกสารเพิ่มเติมเพื่อกล่าวโทษ เพื่อนำไปสู่กระบวนการสอบสวน เอาผิดผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดทั้งหมด จากการเผยแพร่ผลการศึกษาของที่ปรึกษาต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นความผิดฐานเปิดเผยความลับทางราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 , 86 , 164 และบิดเบือนข้อความจริงหรือนำความเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ตาม พรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พศ.2550 มาตรา 14

 

“วันนี้ ที่สน.ห้วยขวาง เป็นเรื่องของการกล่าวโทษ เพื่อให้พนักงานสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ ในความผิดฐานเปิดเผยความลับของทางราชการ ว่ามีผู้ใดเกี่ยวข้องหรือว่ามีส่วนร่วมในการกระทำความผิดในการนำข้อมูล ความลับของสำนักงานกสทช. อันเกี่ยวกับประการแรก คือมาตรการเฉพาะที่กสทช.กำลังพิจารณาอยู่ สอง การที่มีผู้นำข้อมูลมาเปิดเผยในเรื่องผลรายงานการศึกษาของที่ปรึกษาอิสระต่างประเทศ มาเปิดเผยก่อนที่สำนักงานกสทช.จะได้รับข้อมูลนี้” นายไตรรงค์ กล่าว

 

 

นายไตรรงค์ กล่าวว่า ในฐานะนักกฎหมายและเป็นประชาชน ก็สงสัยว่า ในขณะที่องค์กรผู้รับผิดชอบข้อมูล และมีอำนาจพิจารณาข้อมูลตรงนี้ ยังไม่รู้ข้อเท็จจริง ที่ได้ถูกบุคคลต่างๆ นำมาเปิดเผยกับสื่อ กับประชาชนทั่วไป ซึ่งไม่แน่ชัดว่าข้อมูลเหล่านั้นมีข้อเท็จจริงอย่างไร หรือถูกบิดเบือนมาอย่างไร แต่เผยแพร่ไปทั่ว ขณะที่ กสทช.เองก็ออกมาปฏิเสธว่ายังไม่ทราบว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นอย่างไร รวมถึง การพิจารณามาตรการต่างๆ ก็ยังไม่เคยเปิดเผยที่ไหน พอเรื่องนี้เปิดเผยมา ประชาชนได้รับได้ฟังข่าว ก็เกิดความสับสนว่าการทำงานของสำนักงานกสทช. หรือบอร์ดกสทช. มีประสิทธิภาพแค่ไหน ที่ทำให้ข้อมูลซึ่งเป็นความลับในเรื่องการควบรวมกิจการของ กิจการโทรคมนาคม หลุดออกมาเรื่อยๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีก และทิศทางในการพิจารณาก็จะถูกโน้มน้าวจากบุคคลที่เอามาเผยแพร่ในเชิงการคัดค้าน อยู่เพียงมุมเดียว ประชาชนที่ได้รับข่าวเหล่านี้ก็จะเชื่อเป็นอย่างอื่นไม่ได้ พอได้รับฟังก็จะคิดว่า เรื่องนี้ต้องคัดค้าน แต่ตนเองพอดูข้อเท็จจริง เลยเกิดความสงสัยว่าความจริงเป็นเช่นไร จึงอยากให้พนักงานสอบสวน สอบสวนหาผู้ที่ปล่อยความลับออกมา ว่าเป็นใคร และใครเกี่ยวข้อง ก็จะให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สุดระทึก "กองทัพอากาศ" ส่ง F16 บินสกัดกั้น อากาศยานไม่ทราบฝ่าย โผล่ชายแดนไทย-เมียนมา
"สรรเพชญ" ไม่เห็นด้วย หากบุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย ชี้ขายใกล้โรงเรียน-ชุมชน แพร่พิษร้ายให้เด็ก-เยาวชน
ผู้การชลบุรี บูรณาการทุกภาคส่วน เข้มมาตรการ ดูแลความปลอดภัยและการจราจรให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว ในช่วงวันคริสต์มาสและเทศกาลเคาท์ดาวน์ 2567
พนักงานเซเว่น น้ำใจงามช่วยสาวลาว ขับเก๋งเสยแบริเออร์ล้อชี้ฟ้า เจ็บติดคารถ
เทศกาลส่งมอบความสุขวันคริสต์มาส
"ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน" ยันไม่มีเหตุความไม่สงบฝั่งตรงข้ามชายแดน
ตร.วางแผนรวบ 2 ผู้ต้องหา ยึดของกลางยาบ้าล็อตใหญ่ แอบซุกกล่องพัสดุส่งจากเชียงราย
“รศ.ดุลยภาค” สำรวจชายแดน พบหลักฐานทหารว้าล้ำเขตแผ่นดินไทย
รมว.ต่างประเทศ ยันรัฐบาลช่วย 4 ลูกเรือประมงเต็มที่
กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน พิสูจน์-สกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น