ย้อนรอยคดี “ครรชิต” โทษคุกตลอดชีวิต แต่ติดจริงไม่ถึง 8 ปี

ย้อนรอยคดี “ครรชิต” โทษคุกตลอดชีวิต แต่ติดจริงไม่ถึง 8 ปี

กลายเป็นเรื่องที่สังคมตั้งข้อสงสัยและวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก สำหรับกรณีนายครรชิต ทับสุวรรณ อายุ 52 ปี อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ พ้นโทษออกมาจากเรือนจำกลางบางขวาง ทั้งที่ถูกศาลพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต คดียิงนายอุดร ไกรวัตนุสสรณ์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร เสียชีวิต แต่นายครรชิตติดคุกเพียงไม่กี่ปี ก็ได้รับอิสรภาพ

คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2554 ซึ่งนายครรชิตได้ก่อเหตุยิงนายอุดรในระยะเผาขนกว่า 10 นัดจนเสียชีวิต ที่ปั้มน้ำมัน ปตท.รุ่งสาคร ตำบลท่าทราย อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ส่วนสาเหตุจากเรื่องส่วนตัว

ซึ่งในการต่อสู้คดีนายครรชิตให้การปฏิเสธ แต่จากการพิจารณาพยานหลักฐานของศาลชั้นต้น ศาลได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ปี 2557 ตัดสินประหารชีวิตนายครรชิต ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน และข้อหาเกี่ยวกับอาวุธปืน พร้อมกับให้นายครรชิตชำระค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วม รวม 13,300,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้องจนกว่าชำระเสร็จ และศาลไม่ให้ประกันตัวนายครรชิต

ต่อมาเดือนตุลาคม 2558 ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษาแก้โทษให้นายครรชิตต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต จากนั้นในวันที่ 8 ธันวาคม 2559 ศาลฎีกาได้พิพากษายืนจำคุกนายครรชิตตลอดชีวิต และให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทย์ร่วมจำนวนกว่า 13 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ย ตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น โดยนายครรชิตถูกส่งตัวเข้าเรือนจำสุมทรสาคร จากนั้นนายครรชิตถูกย้ายไปยังเรือนจำกลางบางขวาง เนื่องจากเรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร ควบคุมผู้ต้องขังที่โทษไม่เกิน 15 ปี เท่านั้น

คดีนายครรชิต เริ่มนับโทษจำคุกตลอดชีวิตตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน 2557 แต่ระหว่างต้องโทษนายครรชิตได้รับการเลื่อนชั้นนักโทษ จนสถานะล่าสุดเป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นเยี่ยม รวมถึงได้รับพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งแม้ในปี 2565 นายครรชิตไม่เข้าข่ายได้รับพระราชทานอภัยโทษ แต่ปีที่ผ่านๆมา นายครรชิตลดโทษรวม 5 ครั้ง ทำให้โทษสุดท้ายเหลือจำคุก 7 ปี 10 เดือน 25 วัน นายครรชิตจึงพ้นโทษเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2565 รวมแล้วจากโทษจำคุกตลอดชีวิต นายครรชิตติดคุกจริงไม่ถึง 8 ปี

กรณีของนายครรชิต เป็นอีกครั้งที่สะท้อนว่า กรมราชทัณฑ์ ภายใต้การกำกับของกระทรวงยุติธรรม มีอำนาจเหนือกว่าศาลหรือไม่ เพราะแม้ผู้กระทำความผิดคดีอุกฉกรรจ์ คดีทุจริตสร้างความเสียหายให้ประเทศ จะถูกศาลตัดสินจำคุกอย่างไร แต่สุดท้ายก็ได้รับการลดโทษจากหลักเกณฑ์ของกรมราชทัณฑ์

ข่าวที่น่าสนใจ

ซึ่งหลักเกณฑ์ในการที่นักโทษจะได้รับอภัยโทษ กรมราชทัณฑ์เคยชี้แจงว่า ต้องเป็นนักโทษเด็ดขาดที่มีความประพฤติดี ตั้งแต่ชั้นกลางขึ้นไป ส่วนจะได้รับการลดโทษมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับชั้นและประเภทคดี ประกอบด้วย คดีอาญาทั่วไป คดีอาญาร้ายแรง คดียาเสพติดรายย่อย และคดียาเสพติดรายใหญ่ โดยจะได้รับการลดโทษตามหลักเกณฑ์ ดังนี้

-คดีอาญาทั่วไป นักโทษชั้นเยี่ยม ได้ลดโทษ 1 ใน 2, ชั้นดีมาก 1 ใน 3, ชั้นดี 1 ใน 4, ชั้นกลาง 1 ใน 5
-คดีอาญาร้ายแรง นักโทษชั้นเยี่ยมได้ลดโทษ 1 ใน 3, ชั้นดีมาก 1 ใน 4, ชั้นดี 1 ใน 5, ชั้นกลาง 1 ใน 6
-คดียาเสพติดรายย่อย นักโทษชั้นเยี่ยมได้ลดโทษ 1 ใน 5, ชั้นดีมาก 1 ใน 6, ชั้นดี 1 ใน 7, ชั้นกลาง 1 ใน 8
-คดียาเสพติดรายใหญ่ นักโทษชั้นเยี่ยมได้ลดโทษ 1 ใน 6, ชั้นดีมาก 1 ใน 7, ชั้นดี 1 ใน 8, ชั้นกลาง 1 ใน 9

อย่างไรก็ดีหากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ หลังมีกรณีนักโทษคดีทุจริตจำนำข้าวได้รับการลดโทษอย่างต่อเนื่อง จนเหลือโทษจำคุกอีกไม่กี่ปี ทำให้เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2564 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการอภัยโทษ เพื่อตรวจสอบการอภัยโทษ พร้อมให้จัดทำข้อเสนอแนะ หรือแนวทางการแก้ปัญหา โดยมีนายเข็มชัย ชุติวงศ์ อดีตอัยการสูงสุดและประธานกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม เป็นประธานกรรมการ

ต่อมาคณะกรรมการชุดนายเข็มชัย ได้มีข้อเสนอแนะให้ปรับปรุงแนวทางในการจัดชั้น เลื่อนชั้นนักโทษ โดยให้นำพฤติการณ์ความร้ายแรงหรือความเสียหายต่อสังคมที่บุคคลนั้นได้ก่อขึ้น มาประมวลร่วมกับผลการพัฒนาพฤตินิสัย และมีข้อเสนอเกี่ยวกับการกำหนดให้มีระยะเวลาปลอดภัย หรือ ระยะเวลาขั้นต่ำในการรับโทษของผู้ต้องขังที่จะต้องได้รับโทษจำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 หรือ 8 ปี มาเป็นเกณฑ์ก่อนได้รับประโยชน์จากการบริหารโทษของกรมราชทัณฑ์ และลดสัดส่วนในการเสนอขอพระราชทานอภัยโทษ รวมทั้งกำหนดให้คดีทุจริตร้ายแรงได้รับประโยชน์น้อยลงกว่าเดิม ทำให้พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 70 พรรษา 28 กรกฎาคม 2565 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ไม่มีชื่อนักโทษบิ๊กเนมคดีร้ายแรงเข้าเกณฑ์ได้ลดโทษอีก ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ข้อเสนอแนะของคณะกรรมการชุดนายเข็มชัย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

รัฐบาลเปิดตัวนวัตกรรม “ตู้ห่วงใย” บริการทางการแพทย์ พบแพทย์ผ่านวิดีโอคอล เล็งขยายทั่วประเทศ
"พระปีนเสา" เล่านาที ถูกทำร้ายหน้าช่อง 8 เจ็บจนเห็นดาวเห็นเดือน โร่แจ้งความตำรวจ สน.บางเขน
"กลุ่มชายปริศนา" แหวกวงล้อมสื่อ เข้ารุมทำร้าย "พระปีนเสา" ขณะให้สัมภาษณ์
เปิดตัว "TKR Connect" แพลตฟอร์มจัดหางานครบวงจร สร้างมิติใหม่รองรับแรงงานต่างด้าวอย่างถูกกม.
ออกหมายจับ "หมอบุญ" พร้อมพวกรวม 9 คน “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน” ปลอมลายเซ็นอดีตลูกสะใภ้กู้เงิน 8 พันล้าน
ระทึกกลางดึก ไฟไหม้ "ร้านกาแฟ" เผาวอดทั้งหลัง เสียหายกว่า 7 แสนบาท
"อุตุฯ" เผย "เหนือ-อีสาน-กลาง" อากาศเย็นตอนเช้า เตือนใต้ยังรับมือฝนตก
แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนครอบครัวกำลังพล ห่วงใยไปถึงบ้าน เพราะเราคือครอบครัวกองทัพบก
สวนนงนุชพัทยาเปิดเวที CHONBURI PROUD EXPO 2024 หนุน SMEs ชลบุรีสู่ตลาดโลก
“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น