ประเด็นร้อนการเมืองวานนี้ ต้องพูดถึงกรณีพรรคร่วมฝ่ายค้านมีมติสำคัญออกมา 4 เรื่อง ภายหลังนัดประชุมเพื่อหาท่าทีตรวจสอบไล่ทุบรัฐบาลหาเรื่องดิสเครดิตนายกฯ วานนี้นัดประชุมกันที่รัฐสภา แกนหลักแกนนำมาครบ ไม่ว่าจะเป็น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ผู้นำฝ่ายค้านในสภา สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ พรรคก้าวไกล วันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ สงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ ประเด็นหลักๆวานนี้ ที่ประชุมมีมติ 4 เรื่อง 1.ติดตามการดำเนินคดีนายกฯและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องจากผลพ่วงการเปิดศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดย 16 เรื่อง ยื่นต่อองค์กรอิสระและศาลไปแล้ว 12 เรื่อง ที่เหลืออีก 4 เรื่องกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา ล่าสุดได้มีการเพิ่มอีก 3 เรื่อง อาทิ ทุจริตถุงมือยาง การใช้งบกลางของนายกฯ ทุจริตโครงการบ้านเคหะสุขประชา และที่ดินเขากระโดง รวมมีเรื่องทั้งสิ้น 19 เรื่อง 2. เสนอเปิดประชุมสภาฯสมัยวิสามัญ เรื่องด่วน เหตุกราดยิงหนองบัวลำภูที่มีการละเมิดสิทธิเด็ก โดยจะยื่นเป็นญัตติด่วนด้วยวาจาในวันที่ 3 พ.ย.นี้ ซึ่งเป็นการประชุมวันแรก เพื่อให้สภาฯร่วมกันพิจารณาพูดคุยปัญหารายละเอียดและสาเหตุ และข้อเสนอไปยังรัฐบาล เพื่อแสวงหาทางออกร่วมกัน 3. เตรียมการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 เน้นเรื่อง ปัญหายาเสพติด ภัยแล้ง และอุทกภัย โดยจะยื่นขอเปิดอภิปรายฯหลังจากประชุมเอเปกแล้วเสร็จ 14-19 พ.ย. โดยคำนึงโอกาสอยู่รอดของสภาฯว่าจะมีการยุบสภาหรือไม่ หากมีโอกาสยุบสภาฯจริง ก็จะเร่งยื่นญัตติดังกล่าวทันที 4. เล็งยื่นคำร้องคุ้มครองชั่วคราวกรณีปลดล็อกกัญชาเพิ่มเติมต่อศาลปกครอง เนื่องจากเป็นการประกาศใช้กฎหมายมิชอบ และจะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อยุบพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่เสนอเรื่องดังกล่าว นอกจากนี้ จะมีการตั้งกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบคู่ขนานกรณีนาฬิกาเพื่อนและจีที 200 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยังไม่ชี้มูลความผิด เพราะอาจเข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
อย่างที่รู้ว่าพรรคเพื่อไทยแกนนำฝ่ายค้านกับพรรคภูมิใจไทย มีเรื่องขบเหลี่ยมไม่ลงรอยกันมานาน ประมาณเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ อดีตก็มีกรณีส.ส.ในพรรคเพื่อไทยอึดอัดคอกนายใหญ่อยากย้ายพ้นพรรคนายห้างดูไบนักโทษหนีคดีมาอยู่กับพรรคกินอิ่มนอนอุ่นอย่างพรรคเสี่ยหนู ก่อนหน้านี้ถ้าจำกันได้ดีหลายคนแม้ตัวยังอยู่กับพรรคเพื่อไทยแต่ใจมาอยู่กับพรรคภูมิใจไทยตั้งนานแล้ว ไม่งั้นอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมาไม่มีกรณี “งูเห่า-งูฝาก” จากพรรคเพื่อไทยที่แปรพักต์มาช่วยโหวตให้นายกฯและรัฐมนตรีซีกรัฐบาลหรอก แล้วถ้าย้อนอดีตกลับไปได้จะเห็นว่าศึกซักฟอก 2 ครั้งหลังรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยได้คะแนนไว้วางใจสูงลิ่วกันทุกคน ไม่ว่าจะเป็น “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค หรือ “เสี่ยโอ๋” ศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค และครั้งล่าสุดที่บิ๊กตู่รอดสันดอนพ้นปากเหยี่ยวปากกาไม่ตกม้าตายกลางสภา ก็เพราะได้โพยส.ส.ได้งูเห่างูฝากของพรรคภูมิใจไทยช่วยจึงอยู่รอดมาได้ถึงทุกวันนี้
ล่าสุดวันเกิด 64 ปี “ครูใหญ่เน” เนวิน ชิดชอบ ที่ผ่านมาเมื่อ 4 ต.ค.2565 มีส.ส.ต่างพรรคโผล่หน้าไปเชคชื่อร่วมงานวันเกิดพี่เน 28 คน ในจำนวนนั้น 9 คนก็มาจากพรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย 1.วุฒิชัย กิตติธเนศวร ส.ส.นครนายก 2. สุชาติ ภิญโญ ส.ส.นครราชสีมา 3. นพ ชีวานันท์ สส.พระนครศรีอยุธยา 4.นิยม ช่างพินิจ สส.พิษณุโลก 5. จาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ 6. ธีระ ไตรสรณกุล ส.ส.ศรีสะเกษ 7.ผ่องศรี แซ่จึง ส.ส.ศรีสะเกษ 8.จักรพรรดิ ไชยสาส์น ส.ส.อุดรธานี 9. ประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ สส.กทม นี้แค่พวกตัดสินใจไป 100 เปอร์เซนต์แล้ว ยังมีพวกที่เตรียมตัวออกจากพรรคเพื่อไทยไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทยอีกเพียบ อย่าลืมว่าเลือกตั้งครั้งหน้าส.ส.เขตจะขยับจาก 350 คน ไปเป็น 400 คน อีสานจากเดิมมีส.ส.116 คน จากการเลือกตั้งรอบที่แล้ว แต่เลือกตั้งครั้งหน้าจะได้เพิ่มอีก 16 คน เป็น 132 คนใน 20 จังหวัด เฉพาะอีสานใต้ฐานพรรคเสี่ยหนู 4 จังหวัดเดิมมี 33 คน แต่รอบนี้เพิ่มเป็น 38 คน บุรีรัมย์จาก 8 เป็น 10 คน สุรินทร์จาก 7 เป็น 8 คน ศรีสระเกษจาก 8 เป็น 9 คน อุบลราชธานีจาก 10 เป็น 11 คน ถ้ารวมนครราชสีมาไปด้วย จาก14 เป็น 16 คน อีสานใต้จะมีส.ส.มากถึง 54 คน กว่า 40 % ของส.ส.ภาคอีสานอยู่ตรง 5 จังหวัดนี้ ไม่แปลกที่พรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทยจะเปิดศึกห่ำหั่นกันสุดฤทธิ์
มองในฐานะที่พรรคเพื่อไทยเป็นแชมป์เก่า เป็นขาประจำของภาคอีสาน หากทักษิณอยากแลนด์สไลด์อยากให้พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งอยากให้ “อุ๊งอิ๊ง”แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกฯ ก็ต้องกวาดอีสานทั้งภาคให้ได้ อดีตนะมันง่ายแต่ปัจจุบันไม่ใช่แบบนั้นอีกต่อไปแล้ว อย่าลืมว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นรัฐบาลมา 8 ปี ผลงานในพื้นที่แทบไม่มีให้เห็น ที่อีสานดีอยู่ทุกวันนี้ส่วนใหญ่ก็เป็นจังหวัดใต้ปีกส.ส.พรรคภูมิใจไทยทั้งนั้น ถนน สะพาน รถไฟ อนามัย สาธารณสุข ก็เป็นผลงานพรรคเสี่ยหนูผลงานเสี่ยโอ๋ใต้การกำกับของลูกพี่เนวินล้วนๆ พรรคเพื่อไทยจะเอาอะไรมาสู้ วันๆคิดแต่เรื่องนิรโทษกรรมเอาทักษิณกลับ เรื่องชาวบ้านเรื่องแก้ความยากจนทำชีวิตคนอีสานให้ดีขึ้นไม่มีเลย โพลล์อุ๊งอิ๊งอาจจะนำพรรคเพื่อไทยอาจจะมีคนอยากเลือก แต่ของจริงในพื้นที่พรรคภูมิใจไทยทำให้เห็นเป็นตัวอย่างมาหมดแล้ว มหานครบุรีรัมย์จากอดีตแร้นแค้นตอนนี้เฟื่องฟูใครเห็นก็อิจฉาก็ฝีมือพรรคภูมิใจไทยล้วนๆ สารพัดนโยบายที่ทำออกมาก็ติดอกติดใจชาวบ้าน เที่ยวก่อนภาคอีสานพรรคเพื่อไทยได้คะแนนมา 4 ล้าน คว้า ส.ส. 84 คน พรรคภูมิใจไทยกวาดคะแนน 1.7 ล้าน ได้ส.ส.มา 16 คน รอบนี้ที่ทักษิณคุยโวทั่วประเทศจะได้ 250 คน อีสานจะกวาดยกภาค ใครเชื่อก็บ้าแล้วเพราะของจริงบอกได้เลยไม่มีทาง ไหนจะพรรคเสี่ยหนู ไหนจะพรรคไทยสร้างไทยของ “เจ๊หน่อย” สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อย่าลืมพรรคพลังประชารัฐของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ส่งคนไปทำงานใต้ดินมาพักใหญ่ก็พร้อมสู้ศึกใหญ่ในภาคอีสาน ชั่วโมงนี้โรดแมพแห่งความฝันแลนด์สล์ของทักษิณคงไม่ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากอีกต่อไป
เพราะพรรคภูมิใจไทยรุกคืบแทบทุกมิติเดินเครื่องยนตร์แทบทุกตัว เป้าหมายส.ส. 120 คน ที่ครูใหญ่เนวินพูดตอนวันเกิดอย่าคิดว่าพูดเล่นๆ ของจริงทั่งประเทศก็จะทำให้ได้ตามนั้น เพราะประกาศจะดันลูกศิษย์เป็นนายกฯขึ้นชั้นสร.1 ให้ได้สักคน เพราะฉะนั้นอย่าประมาทเสี่ยหนูอย่าดูถูกพี่เน เงินในถังก็มีมาก บารมีก็มีเยอะ บริวารพร้อมใช้งานบานตะเกียง มนตร์ดำของขลังก็มีพร้อม อนุทินจะรับไม้ต่อเป็นนายกฯไม่ใช่เรื่องยาก เพราะวางเกมเป็นขั้วการเมืองใหม่ เป็นพรรคเบอร์ 1 ฝ่ายตรงข้ามฝั่งทักษิณอยู่แล้ว เพราะเห็นแล่วว่าพรรคลุงป้อมอ่อนกำลังลงไปมาก เห็นแบบนี้ก็ชัดเจนว่าพรรคภูมิใจไทย คือก้างขวางคอ คือกระดูกชิ้นโต คือภัยคุกคามอย่างแท้จริงของพรรคเพื่อไทยของฝ่ายทักษิณของก๊วนตระกูลชินแบบเต็มๆ หักแข้งหักขาทำลายล้างพรรคภูมิใจไทยได้ เป้าหมายกวาดอีสานทะยานสู่แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดินของโทนี่ก็ใกล้แค่เอื้อม อย่าได้แปลกใจที่พรรคเพื่อไทยแกนนำฝ่ายค้านจะออกมาล่อพรรคภูมิใจไทย จะหยุดนโยบายกัญชาเสรีจะยื่นยุบพรรคกับกกต.ให้พรรคภูมิใจไทยพังพินาศให้อาสัญ เพราะอย่างที่รู้ใครได้อีสานคนนั้นได้เป็นนายกฯ เลือกตั้งเที่ยวนี้ 2 พรรค หลายเขตทับสัมปทานเหยียบเท้ากันเต็มๆ สงครามครั้งสุดท้ายของทักษิณ เดิมพันมันมีสูง ไม่งั้นรอบนี้ทักษิณไม่เข็นคนในครอบครัวอย่างนายหญิง “คุณหญิงอ้อ” พจมาน ณ ป้อมเพชร ไปเกาะขอบเวทีเชียร์ลูกสาวที่อีสาน ให้ “ชายโอ๊ค” พานทองแท้ ชินวัตร มาเป็นที่ปรึกษาคอยช่วยน้อง ส่งอุ๊งอิ๊งลูกสาวหน้าเบ้าพ่อมาชิงนายกฯ หรอก เพราะเลือกตั้งรอบนี้แพ้ไม่ได้จริงๆ
//////////////////////