วันนี้ (20 ต.ค.65) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) เปิดเผยถึง ความคืบหน้าการแก้ปัญหาหนี้สะสมรถไฟฟ้าสีเขียว หลังจากศาลปกครองกลาง อ่านคำพิพากษาให้ กทม. และ KT ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้กับ BTSC กรณีผิดสัญญาชำระค่าตอบแทน การให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุง โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ในส่วนต่อขยายที่ 1 ( ช่วงสะพานตากสิน -บางหว้า และช่วงอ่อนนุช –แบริ่ง) และในส่วนต่อขยายที่ 2 (ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ) พร้อมดอกเบี้ย รวมเป็นเงิน 11,755,077,952.10 บาท นับตั้งแต่วันฟ้องเป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จสิ้นให้แก่ BTSC ภายใน 180 วัน นับแต่วันคดีถึงที่สุด
”ชัชชาติ” รับแล้ว เก็บค่าโดยสาร"รถไฟฟ้าสีเขียว"ส่วนต่อขยาย ไม่พอจ่ายหนี้
ข่าวที่น่าสนใจ
โดยก่อนหน้านั้น นายชัชชาติ ระบุว่า จะพิจารณาจัดเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย 2 ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต แต่ล่าสุดยอมรับว่า วิธีการดังกล่าวอาจไม่สามารถแก้ปัญหาทั้งหมดได้ เนื่องจากการเก็บค่าโดยสารไม่ครอบคลุมคุ้มค่าจ้างบริการเดินรถ เพราะภาระหนี้ที่บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (KT) ว่าจ้าง บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ให้บริการเดินรถ มีมูลค่าปีละประมาณ 5,000-6,000 ล้านบาท
และหาก กทม. ตัดสินใจเก็บค่าโดยสารส่วนต่อขยาย 2 ในอัตรา 15 บาท ก็ยังมีส่วนต่างที่ต้องนำเงินจากสภา กทม. มาจ่าย จึงต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุมสภา กทม.เพื่อบอกกล่าว สมมติเก็บค่าโดยสารไปก่อน อนาคตต้องการเงินมาชดเชยส่วนต่าง สภากทม.อาจมีคำถามว่า “ทำไมตอนเก็บถึงไม่บอกว่า มีส่วนต่าง”
นายชัชชาติ ระบุว่า สภากทม.คงกำลังรอข้อมูลบางอย่าง เราเคารพและให้เกียรติ ฝ่ายบริหารก็รอคำตอบจากสภากทม.ภายหลังกระทรวงมหาดไทยส่งหนังสือขอความเห็น กรณีคำสั่ง คสช.ที่ 3/2562 เรื่อง การดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว สภา กทม.คงต้องดูรายละเอียด เพราะมีการเรียกขอเอกสารเพิ่มเติมจากฝ่ายบริหารเช่นกัน
นายชัชชาติ กล่าวว่า วันที่ 26 ต.ค. 2565 จะเป็นการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่ 4 นัดสุดท้าย หากวาระการพิจารณาอัตราค่าโดยสารส่วนต่อขยาย 2 ไม่เข้าที่ประชุม อาจต้องขอขยาย กำลังประสานงานกันอยู่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง