เมื่อวันที่ 22 ต.ค. พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้เวลา 10.30 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจเเละสังคม (ดีอีเอส) นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม และคณะ เดินทางลงใต้ จ.ยะลา และจ.ปัตตานี ติดตามขับเคลื่อนงานพัฒนาและความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ให้การต้อนรับ โดย พล.อ.ประวิตรและคณะ ได้เข้าเยี่ยมชม นิทรรศการท้องฟ้าจำลอง จากการจัดตั้ง “หอเฉลิมพระเกียรติรายอกีตอ” ตามพระราชดำริ กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ และติดตามการช่วยเหลือแรงงานไทยจากสถานการณ์โควิด-19 และการเตรียมการจัดแรงงานไทยจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปทำงานประเทศซาอุดิอาระเบีย ณ ศูนย์ราชการ จชต. โดยอธิบดีกรมจัดหางาน
“พล.อ.ประวิตร” ลงพื้นที่ “ยะลา-ปัตตานี” ติดตามขับเคลื่อนแก้ปัญหาแรงงาน ความยากจน พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่จชต.
ข่าวที่น่าสนใจ
พล.อ.คงชีพ กล่าวต่อว่า ต่อจากนั้นได้กระทำพิธีเปิด “มหกรรมแรงงานไทยจากจังหวัดชายแดนภาคใต้สู่ตลาดแรงงานที่มีทักษะโลกมุสลิม” และพบปะแรงงานที่ประสงค์เดินทางไปต่างประเทศ จากนั้นได้ติดตามการขับเคลื่อนงานพัฒนาและความมั่นคงในพื้นที่ จชต. โดยรับทราบการเปิดสถาบันภาษานานาชาติ เน้นการเรียนรู้ ทั้งภาษาไทย มลายู อาหรับ ตุรเคีย มลายู จีนและอังกฤษ พร้อมทั้งเยี่ยมชมการจัดการเรียนการสอนภาษา 4 ภาษา ทั้งนี้พล.อ.ประวิตรได้แสดงความขอบคุณ ศอ.บต.และกระทรวงแรงงานที่ร่วมแก้ปัญหาการว่างงานของประชาชนในพื้นที่ ระหว่างสถานการณ์โควิด-19 ได้กว่า 14,500 ราย และขับเคลื่อนความร่วมมือแรงงาน ไทย-ซาอุดิอาระเบีย และประเทศมาเลเซีย ได้กว่า 30,000 ตำแหน่งงาน โดยสั่งการศอ.บต.ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมเรียนรู้และการพัฒนาตามช่วงวัยของเด็กเล็ก ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ที่ไม่มีงานทำและขาดรายได้ โดยเน้นความทั่วถึง ทั้งการส่งเสริมอาชีพและจัดหางาน การพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน เพื่อให้สามารถดำรงชีพและช่วยเหลือครอบครัวได้อย่างมั่นคง โดยให้ประสานกับ กระทรวงอุตสาหกรรม พัฒนางานระดับหมู่บ้านชุมชนที่เปิดให้เอกชนมีส่วนร่วมสนับสนุน และให้เร่งพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจนราธิวาสและเมืองต้นแบบให้เกิดผลเป็นรูปธรรมเร็วขึ้น โดยต้องสอดคล้องกับวิถีชีวิตประชาชน เช่น อุตสาหกรรมฮาลาล และ BCG และให้มีการเชื่อมต่อกับต่างประเทศ ภายใต้ศักยภาพทุนมนุษย์และทรัพยากรในพื้นที่ที่มีอยู่ ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมและยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ในลักษณะมีส่วนร่วมไปพร้อมกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง