ภายหลังวันนี้น.ส.ดนุภา คณาธีรกุล หรือ มิลลิ แร็ปเปอร์วัย 18 ปี เข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่สน.นางเลิ้ง กับพ.ต.อ.อธิชย์ ดอนนันชัย รองผกก.สน.นางเลิ้ง เจ้าของคดี ได้เปิดเผยว่า วันนี้น.ส.ดนุภา ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา ข้อหาดูหมิ่นผู้อื่นด้วยการโฆษณา มาตรา 393 พร้อมให้การรับสารภาพ ว่าจะไม่ทำผิดในลักษณะดังกล่าวอีกโดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการเปรียบเทียบปรับในชั้นพนักงานสอบสวนและไม่ได้ส่งเรื่องต่อศาลอีก และถือว่าคดีสิ้นสุดเนื่องจากเป็นคดีลหุโทษ
ด้านนายอภิวัฒน์ ขันทอง ประธานคณะกรรมการ คตส.ตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรีที่ 32/2563 ซึ่งเป็นผู้กล่าวหา เปิดเผยกับ Top news ว่า ได้ไปแจ้งความน.ส.ดนุภาหรือมิลลิ ไว้เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา กรณีดูหมิ่นด้วยการโฆษณาโดยเป็นการโพสต์ทวิตเตอร์และในโซเชียลมีเดีย โดยใช้ถ้อยคำที่เป็นการดูหมิ่น ด้วยถ้อยคำหยาบคาย ต่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม
ซึ่งทางคณะกรรมการได้ตรวจสอบแล้วว่าในข้อความดังกล่าวเป็นการกระทำที่ทำให้เกิดความเสื่อมเสียจึงได้ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย ซึ่งในวันนี้น.ส.ดนุภา ได้ให้การรับสารภาพว่าได้กระทำความผิดจริงได้โพสต์ข้อความพร้อมสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีกโดยยอมให้ทำการเปรียบเทียบปรับเป็นจำนวนเงิน 2,000 บาทและลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว จึงไม่ได้ติดใจเอาความ ส่วนการจะกระทำความผิดซ้ำอีกหรือไม่ก็ต้องดูต่อไปเนื่องจากได้ลงบันทึกประจำวันไว้ว่าจะไม่กระทำผิดกฎหมายอีก
นายอภิวัฒน์ ยืนยันว่าคดีนี้ไม่เกี่ยวข้องกับนายกรัฐมนตรีแต่เป็นหน้าที่หนึ่งของคณะกรรมการคตส.ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ที่จะดำเนินการอยู่แล้วไม่เกี่ยวกับนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้นายอภิวัฒน์ อธิบายถึงความแตกต่างเรื่องการ Call Out ที่เป็นกระแสที่ทั้งดารานักแสดงหรือประชาชนทั่วไปออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลกับคดีดูหมิ่นผู้อื่นด้วยการโฆษณา ว่า การวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลถือว่าทำได้แต่ขอให้อยู่ในกฎหมายไม่ทำให้คนอื่นเสียหายไปด้อยค่า ว่ากล่าว ด่าทอคนอื่น หรือใช้คำพูดคำเชิญชวนให้ไปทำร้ายคนอื่นถือว่าผิดกฎหมายซึ่งไม่สามารถทำได้การจะเสนอแนะการทำงานของรัฐบาลสามารถทำได้ด้วยความสุจริตแต่การใช้คำพูดข้อความที่เป็นการยุยงปลุกปั่นหรือให้ร้ายผู้อื่นมันมีกฎหมายกำหนดไว้อยู่แล้วว่าเป็นความผิดและคนที่ทำผิดกฎหมายก็ต้องรับผิดชอบตรงนี้ไป
ทั้งนี้ฝากเตือนไปยังศิลปินดารา ที่มีทั้งชอบและไม่ชอบรัฐบาลก็ตาม การจะให้ความเห็นเสนอแนะที่เป็นสุจริตสามารถทำได้แต่การด้อยค่าว่ากล่าวให้ร้ายคนอื่นมีกฎหมายบัญญัติไว้อยู่แล้วว่าเป็นการดูหมิ่นประมาทอันนี้ถือว่าผิดกฎหมายทำไม่ได้ต้องขอให้แยกแยะด้วย