“พีระพันธุ์” สั่งตรวจสอบกรมน้ำบาดาล หลังอธิบดีสั่งชะลอ-ปรับสเปค โครงการพระราชดำริ

"พีระพันธุ์" สั่งตรวจสอบกรมน้ำบาดาล หลังอธิบดีสั่งชะลอ-ปรับสเปค โครงการพระราชดำริ

วันที่ 24 ตุลาคม รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยความเป็นธรรมและเร่งรัดการปฏิบัติราชการ ตามคำสั่งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงจากการร้องเรียนของประชาชน กรณีโครงการพระราชดำริน้ำบาดาลเพื่อบรรเทาภัยแล้งให้กับประชาชน ซึ่งกรมน้ำบาดาลได้รับงบประมาณเพื่อดำเนินการก่อสร้างไปแล้ว แต่ต่อมาเมื่อมีการปรับเปลี่ยนผู้บริหารของกรมฯ ก็ได้มีคำสั่งให้ชะลอการก่อสร้างโครงการ รวมถึงการยกเลิกการจัดซื้อจัดจ้าง และเปลี่ยนสเปคของอุปกรณ์ต่างๆ เช่น แทงค์น้ำสเปคเดิมเป็นเหล็กเปลี่ยนมาเป็นแบบพลาสติก จึงทำให้เกิดข้อสงสัยในการปรับเปลี่ยนดังกล่าว และยังสร้างความกังวลต่อชาวบ้านถึงเรื่องความล่าช้าของโครงการนี้ เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการได้น้ำมาเพื่อเตรียมบรรเทาภัยแล้งที่กำลังจะมาถึงในระยะเวลาอันใกล้นี้

โดยที่ประชุมมอบหมายให้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ไปตรวจสอบรายละเอียดโครงการดังกล่าวทั้งหมด เพื่อหาข้อมูลที่ชัดเจนก่อน

ข่าวที่น่าสนใจ

นายพีระพันธุ์ ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมว่า กรณีร้องเรียนในโครงการนี้ “ผมคิดว่าควรจะเร่งรัดและดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะเป็นการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนตามพระราชดำริ ซึ่ง ป.ป.ท. จะลงไปดูในรายละเอียด ทั้งนี้เรื่องเกี่ยวกับกฎหมายด้านงบประมาณ ผมพูดมาเสมอว่า กฎหมายบ้านเราประเด็นที่หนึ่งคือล้าสมัย ประเด็นที่สองคือเปิดช่อง ประเด็นที่สามคือเปิดอยู่สองช่อง อันแรกให้อำนาจเจ้าหน้าที่จนล้นเกินไป ช่องที่สองคือเปิดให้ใช้อำนาจจนประชาชนเดือดร้อน เพราะที่ผ่านมากฎหมายส่วนใหญ่ไม่ได้เขียนมาเพื่อประชาชน แต่เขียนมาเพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำงานสะดวก วันนี้จึงถึงเวลาที่จะแก้ไขกฎหมายเหล่านี้แล้ว”

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีเรื่องที่เป็นปัญหาเกี่ยวกับการใช้งบประมาณจำนวนมาก มีลักษณะแตกต่างกันไป ส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากการร้องเรียนของประชาชน แต่เป็นการตรวจสอบการทุจริต ที่เกิดจากการประพฤติไม่ชอบ โดยเกิดจากการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของงบประมาณ ซึ่งบางครั้งหน่วยงานราชการตั้งงบประมาณไว้เยอะ เมื่อทำไปแล้วพอถึงปลายปีขอเปลี่ยนแปลงโดยแจ้งว่าทำไม่ทัน หรือไม่ได้ใช้ ก็ไปเปลี่ยนแปลงย่อลง คือตอนแรกอาจจะทำแบบหนึ่งแต่หากขอแบบนั้นจะไม่ได้งบฯ จึงขออีกแบบเพื่อให้ได้งบฯ และเมื่อได้มาแล้วค่อยมาอาศัยช่องทางในการเปลี่ยนแปลงไปใช้อย่างอื่นทุจริต หรือใช้อย่างไม่จำเป็น

“กรณีดังกล่าวข้างต้น ถือเป็นกรณีแรกที่ได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับโครงการพระราชดำริ ซึ่งก็ต้องไปดูว่ามีเหตุผลอะไรในการเปลี่ยนแปลง หรือชะลอโครงการ ความจริงหลักเกณฑ์ต่างๆ เปิดช่องเพื่อให้สะดวกในการทำงาน แต่ต้องไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน หรือทำให้โครงการล่าช้า หรือไม่มีเหตุที่ดีพอในการรองรับ และสำคัญที่สุดคือต้องไม่มีลักษณะของการทุจริต ประพฤติไม่ชอบ ซึ่งเรื่องนี้ในมุมของชาวบ้านเขาแปลกใจว่า ชาวบ้านเขากำลังจะได้น้ำมาใช้ตามโครงการพระราชดำริ แต่จู่ๆ ก็มีการยกเลิก ปรับเปลี่ยนแม้กระทั่งสเปคแทงค์น้ำ ชาวบ้านเขาก็ต้องสงสัย แต่ก็จะต้องตรวจสอบต่อไป” นายพีระพันธุ์ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น