นางจอร์เจีย เมโลนี ได้สาบานตนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของอิตาลีแล้ว หลังจากที่พรรคพี่น้องแห่งอิตาลี ของเธอ ซึ่งมีจุดยืน ขวาจัด โดยไม่เชื่อในการรวมตัวของสหภาพยุโรป ต่อต้านผู้อพยพเข้าประเทศ และการปกป้องผลประโยชน์ของชาติ ชนะการเลือกตั้งในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทำให้ถือเป็น รัฐบาลแรกที่มีความคิดขวาจัดที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง
โดยนางเมโลนี และรัฐมนตรีทั้ง 24 คนได้เข้าสาบานตนต่อหน้านายแซร์โจ มัตตาเรลลา ประธานาธิบดีอิตาลีในพระราชวังควิรินัล ในกรุงโรม เมืองหลวงของอิตาลี ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสันตปาปา และกษัตริย์อิตาลีหลายพระองค์
ซึ่งหลังจากการเข้าสาบานตน นางเมโลนีประกาศว่าพร้อมจะทำงานร่วมกับนาโต้ อย่างใกล้ชิด โดยเธอได้โพสต์ข้อความ แสดงความพร้อมที่จะทำงานร่วมกับนาโต้ ซี่งเธอกล่าวว่าเป็นมากกว่าเพียงแค่พันธมิตรทางการทหาร แต่เป็นป้อมปราการแห่งคุณค่าพื้นฐานที่เราไม่เคยหยุดที่จะยึดมั่น นอกจากนั้นเธอยังทวีตข้อความให้การสนับสนุนประเทศยูเครนโดยระบุว่า อิตาลีอยู่เคียงข้างประชาชนชาวยูเครนผู้กล้าหาญ
อย่างไรก็ตาม จุดยืนในการที่จะร่วมทำงานกับนาโต้และสนับสนุนยูเครนของนางเมโลนี นั้นขัดแย้งกับท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาลอีก 2 พรรค ซึ่งให้การสนับสนุนประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินอย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังทำให้เกิดความตึงเครียดภายในพรรคร่วมรัฐบาลของเธอ ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งในเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรี และจุดยืนต่อสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า เธอจะรักษาเสถียรภาพในรัฐบาลด้วยการรักษาความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวระหว่างพรรคต่างๆได้นานแค่ไหน ท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจที่รุมเร้า โดยอิตาลีนั้น ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเปลี่ยนรัฐบาลบ่อยที่สุด ซึ่งไม่นานหลังจากพิธีสาบานตน สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงสวดอ้อนวอนเพื่อความสามัคคีและสันติภาพในอิตาลีด้วยเช่นกัน