“ดร.สามารถ” ย้ำทางออกรถไฟฟ้าสีเขียว “ชัชชาติ” หมดท่ารอหารือสภากทม.

"ดร.สามารถ" ย้ำทางออกรถไฟฟ้าสีเขียว "ชัชชาติ" หมดท่ารอหารือสภากทม.

กลายเป็นประเด็นร้อน ต้องจับตากับวาระประชุม สภากรุงเทพมหานคร(สภา กทม.) วันพุธ ที่ 26 ต.ค. 2565 เพราะมีวาระพิจารณากรณีรถไฟฟ้าสายสีเขียว อย่างเป็นจริงเป็นจังครั้งแรก โดย นางสาวนฤนันมนต์ ห่วงทรัพย์ โฆษกสภากรุงเทพมหานคร ระบุว่า เป็นวาระเสนอโดย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ใน 2 ประเด็นสำคัญ คือ

1. ญัตติขอรับความเห็นจากสภากรุงเทพมหานคร เรื่อง แนวทางการเก็บค่าโดยสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต และช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ

2. ญัตติขอรับความเห็นจากสภากรุงเทพมหานคร เรื่อง การดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว

 

 

 

หลังจากก่อนหน้า นายชัชชาติ ยอมรับว่า แผนงานการจัดเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย 2 ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต อาจไม่สามารถแก้ปัญหาภาระหนี้ทั้งหมดได้ เนื่องจากการเก็บค่าโดยสารไม่ครอบคลุมคุ้มค่าจ้างบริการเดินรถ เพราะภาระหนี้ที่บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (KT) ว่าจ้าง บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ให้บริการเดินรถ มีมูลค่าปีละประมาณ 5,000-6,000 ล้านบาท

และหาก กทม. ตัดสินใจเก็บค่าโดยสารส่วนต่อขยาย ในอัตรา 15 บาท ก็ยังมีส่วนต่างที่ต้องนำเงินจากสภา กทม. มาจ่าย จึงต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุมสภา กทม.เพื่อรับทราบ รวมถึงขอความเห็นประกอบการพิจารณา ทางออกเรื่องดังกล่าว

 

 

ล่าสุด ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แ ละนักวิชาการด้านวิศวกรรมขนส่ง แสดงความเห็นถึง การที่นายชัชชาติ ผู้ว่าฯกทม. ยอมรับ การพิจารณาเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย ไม่เพียงพอชำระหนี้ BTSC ว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่ได้เกินความคาดหมาย เพราะเป็นไปตามที่ตนเองเคยให้ข้อมูลไว้แล้ว แม้จะมีการจัดเก็บค่าโดยสาร แต่ไม่เพียงพอกับการจ่ายหนี้ให้กับ BTSC แน่นอน ส่วนการจะเก็บค่าโดยสารหรือไม่ อย่างไร ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของผู้ว่า กทม.ว่าจะจัดเก็บมากน้อยแค่ไหน เพราะเป็นอำนาจของผู้ว่า กทม. ไม่เกี่ยวข้องกับภาคเอกชน ผู้รับสัมปทาน เพราะผู้รับสัมปทานเพียงแต่รับจ้างเดินรถเท่านั้น ของช่วงส่วนต่อขยายที่ 2

ขณะที่ส่วนไข่เเดง หรือ ส่วนที่ภาคเอกชนรับสัมปทานตั้งแต่เดิม ระยะทางกว่า 23 กิโลเมตร ในเส้นทาง อ่อนนุช -หมอชิต และจากสนามกีฬาแห่งชาติ ไปสะพานตากสิน ในช่วงอายุสัมปทาน ได้กำหนดอัตราค่าโดยสารไว้ที่ 16-44 บาท ซึ่งอนาคตหากผู้ว่าฯ กทม. จะปรับลดราคาค่าโดยสารก็สามารถทำได้ แต่ทั้งนี้จะต้องพิจารณาถึงสถานะทางการเงินของกรุงเทพมหานครประกอบด้วย

ส่วนแนวทางการแก้ปัญหา ที่เกิดขึ้นของนายชัชชาติ ผู้ว่าฯกทม. และถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าค่อนข้างล่าช้า และเคยการประกาศว่าจะไม่ขยายอายุสัมปทานให้แก่ BTSC โดยปล่อยให้ BTSC บริหารจัดการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ไปจนถึงปี 2572 เท่านั้น สุดท้าย กทม.จะนำเงินจากส่วนไหน มาใช้หนี้ให้กับ BTSC จำนวนกว่าแสนล้านบาท จากภาระค่าจ้างบริการเดินรถส่วนต่อขยาย และ มูลหนี้ลงทุนระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) ในส่วนของรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ดร.สามารถ ระบุว่า หากกทม.ยังไม่สามารถชำระหนี้ให้แก่เอกชน และเอกชนไม่สามารถแบกรับภาระหนี้ได้ เพราะขาดสภาพคล่อง จนอาจจะมีการลดความถี่การให้บริการลง ย่อมจะส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียวอย่างหนักแน่นอน และไม่รู้ว่าภาคเอกชนจะเเบกรับภาระหนี้ที่เกิดขึ้นได้นานแค่ไหนนั้น อันนี้ไม่สามารถคาดเดาได้เลย

อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ตนเองอยากให้กำลังใจ นาย ชัชชาติ ในการหาทุกวิถีทางที่ต้องการเพื่อแก้ปัญหา มูลหนี้และภาระดอกเบี้ยของภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้นทุกวัน ส่วนจุดยืนว่าไม่ต้องการต่อสัญญาสัมปทานให้แก่ BTSC ต้องดูต่อไปว่า นายชัชชาติ ในฐานะผู้ว่าฯ กทม. จะนำเงินจากส่วนไหนมาใช้หนี้ให้แก่ BTSC โดยส่วนตัวยังมองว่า วิธีการเดียวที่จะเป็นทางออกของเรื่องนี้ คือ การขยายสัญญาสัมปทานให้ BTSC ตามผลการศึกษา และข้อเสนอของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งยังค้างการพิจารณาอยู่ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี

ส่วนวิธีคิดของนายชัชชาติ ที่อ้างถึง รูปแบบการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน หรือ PPP ดร.สามารถ ระบุว่า หากใช้วิธีการร่วมทุน คงยากจะมีเอกชนใดให้ความสนใจ เนื่องจากส่วนต่อขยายเป็นระยะทางสั้นๆและเส้นทางอยู่นอกเมือง นอกจากนี้ในสมัยของผู้ว่าฯ อัศวิน ขวัญเมือง ได้มีการศึกษาวิธีการนี้มาแล้ว และปรากฎว่าไม่มีเอกชนรายใดสนใจมาลงทุนด้วย

 

ทั้งนี้เมื่อย้อนกลับไปตรวจสอบการทำงานของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) คนที่ 17 ซึ่งเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.65 ถึงวันนี้ผ่านมานานเกือบ 5 เดือนแล้ว ที่ นายชัชชาติ เคยให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายเกี่ยวกับ การแก้ปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยเฉพาะส่วนต่อขยาย ที่สร้างภาระหนี้รายวันให้กับภาครัฐ และ ภาคเอกชน หรือ BTSC ว่า ใช้เวลา 1 เดือนน่าจะพอเห็นผล น่าจะมีคำตอบเชิงนโยบาย เพื่้อเปิดเผยให้ประชาชนรับทราบ แต่จนถึงปัจจุบัน กลับไม่มีแนวทางแก้ปัญหา ชัดเจนใดๆ เลย

อีกทั้ง เป็นเวลาเกือบ 2 เดือนแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2565 หลังจากศาลปกครองกลาง มีคำพิพากษา ให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) และ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด หรือ KT ซึ่งกทม.ถือหุ้น 44,994 หุ้น หรือ คิดเป็นร้อยละ 99.98 จ่ายคืนยอดค้างชำระ พร้อมภาระดอกเบี้ย จากการว่าจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย ให้กับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC จำนวน 11,755 ล้านบาท นับเฉพาะยอดหนี้ที่ค้างจ่ายจนถึงวันที่ 15 กรกฎาคม 2564 ให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน นับจากคดีถึงที่สุด

โดยคดีพิพาทนี้ สืบเนื่องจากทางกรุงเทพมหานคร ได้ให้สัมปทานกับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC พัฒนาส่วนต่อขยายถึงปัจจุบัน คือ ช่วงอ่อนนุช-เคหะสมุทรปราการ ช่วงหมอชิต-คูคต และช่วงสะพานตากสิน-บางหว้า ซึ่งได้มีการจ้าง BTS เดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย รวมถึงการวางระบบรถไฟฟ้าและการซ่อมบำรุง

สำหรับ ภาระหนี้ต่างๆ ที่บริษัท กรุงเทพธนาคม และ กทม. ค้างจ่ายให้กับ BTSC เพิ่มสูงกว่า 4 หมื่นล้านบาทแล้ว แบ่งเป็น
– ค่าจ้างจากการเดินรถและบำรุงรักษา (O&M) กว่า 2 หมื่นล้านบาท
– ค่าติดตั้งงานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล (E&M) อีกกว่า 2 หมื่นล้านบาท

 

 

ดังนั้นต้องติดตามว่า การประชุมสภากทม. ในวันที่ 26 ต.ค. นี้ จะมีความชัดเจนในส่วนของ แนวทางการเก็บค่าโดยสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต และช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ และการดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว อย่างไร รวมถึงความชัดเจนในการชำระหนี้ของกทม. และ กรุงเทพธนาคม ขณะที่ผู้บริหาร BTSC ยืนยันว่ายังไม่ได้รับการชำระหนี้ใด ๆ แม้ว่าศาลปกครอง จะมีคำพิพากษาอย่างชัดเจนมาแล้ว

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

อย่ากระพริบตา... ตามไปดูสนามเลือกตั้ง นายก อบจ. เมืองคอนกระแสน้ำวาริน ชิณวงศ์ สร้างปาฏิหาริย์ล้มบ้านใหญ่ ได้จริงหรือไม่-ในขณะที่คอการเมืองชี้บ้านใหญ่"เดชเดโช กนกพร"นอนมากำชัยชนะเป็นนายก อบจ. รอบ 2 อย่างแน่นอน
มติสภากทม.ไฟเขียว งบรายจ่ายเพิ่มปี 68 กว่า 1.4 หมื่นล้าน นำใช้คืนหนี้ BTS
“อี้ แทนคุณ” รัวบาลีใส่ไม่ยั้ง “พระปีนเสา” อ้าปากหวอ-แปลไม่ถูก แถขับรถบิณฑบาตไม่ผิด
ชื่นชมน้องรดายอดกตัญญูขายข้าวไข่เจียวหน้าโรงเรียนเพื่อส่งตนเองเรียนและเลี้ยงแม่ที่เป็นโรคไตระยะสุดท้าย
ชื่นชม 2 นร. ม. 2 เก็บกระเป๋าเงินได้ โร่ แจ้ง ตร. ส่งคืนเจ้าของ
คอหวยไม่พลาด!! แห่ทุ่มแทงเลข 711 ป้ายทะเบียนรถหน่วยกู้ภัยเพชรเกษมเมืองคอน-หลังช่วยทำคลอดฉุกเฉินบนรถกู้ภัย - ชี้ สถิติหวย 6 งวด ที่ผ่านมา เลขท้าย 3 ตัวรางวัลที่ 1 ออกเลขคู่เลขหามถึง 5 งวดเชื่องวดวันที่ 1 ธันวาคมยัง มีความเป็นไปได้สูงที่จะออกเลขคู่เลขหามอีกครั้ง
"อัจฉริยะ" เข้าให้การตำรวจกองปราบ แฉพฤติกรรม "ทนายตั้ม" สร้างพยานเท็จนาน 6 ปี
รองผู้ว่า ฯเมืองคอนสั่งลุยหารือคณะทำงานร่วมพิจารณารับรองคุณภาพสถานพยาบาลยาเสพติดและสถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดเพื่อให้เป็นศูนย์คัดกรองและศูนย์ฟื้นฟูก่อนลงพื้นที่ตรวจกองร้อย อสจ.นครศรีธรรมราชที่ 1 เปิดดำเนินการสถานพยาบาลฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดเพิ่มอีก 1 แห่ง
กรมที่ดิน ชี้แจงรายละเอียดที่มาและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการสอบสวน ตามความในมาตรา ๖๑ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน
"ศาลรธน." แจงเหตุผล ลงมติไม่รับคำร้อง 6 ประเด็น เอาผิด "ทักษิณ-เพื่อไทย" ไว้พิจารณา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น