ประชุมครม.อังคารที่ผ่านมา (25 ต.ค.65 ) มีกระแสข่าวจากสื่อหลายสำนักรายงานตรงกันว่า “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เรียกแกนนำรัฐบาลจากทุกพรรคปิดห้องคุยกันก่อนประชุมครม. มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย อยู่ครบ ก่อนหารือร่าง พ.ร.บ.สรรพสามิต ที่จะเข้าวาระพิจารณาวาระ 2-3 ในวันที่ 2 พ.ย.นี้ และพรรคร่วมรัฐบาลมีความเห็นตรงกันว่าจะไม่รับร่างกฎหมายดังกล่าวทำให้กฎหมายถูกส่งสัญญาณว่าจะถูกคว่ำในที่สุด ด้วยเหตุผลหลักๆ ที่แกนนำรัฐบาลเห็นควรคว่ำกฎหมายนี้ “ เนื่องจากกังวลว่าหากกฎหมายผ่านสภาจะไม่มีมาตรการรองรับความปลอดภัย เกรงว่าจะมีปัญหาเรื่องการต้มสุราเถื่อนและการผลิตที่ไม่ได้คุณภาพ แตกต่างจากพวกผู้ผลิตรายใหญ่ในปัจจุบันที่ผลิตถูกต้องตามกฎหมาย มีมาตรฐานสูงและสามารถรับผิดชอบคุณภาพได้ นอกจากนี้ จะมีการขายสุราเถื่อนเกลื่อนเหมือนกับเรื่องกัญชาเสรีที่ยังคงเป็นปัญหาอยู่ แล้วจะรับผิดชอบกันไม่ไหว ถ้าเกิดมีการต้มเหล้าผิดกฎหมายมันมีแต่ทำลาย” รายงานข่าวความเห็นของการหารือออกมาแบบนี้
หลังข่าวเรื่องนี้ถูกนำเสนอออกไป มีการแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวางจากประชาชน คนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะบรรดาส.ส.พรรคก้าวไกลที่เป็นคนเสนอกฎหมายฉบับนี้ ทำให้รัฐบาลต้องออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงของเรื่องเป็นพัลวัน ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกรัฐบาล ออกมายืนกรานนายกฯ ไม่ได้อยู่เบื้องหลังสั่งการให้คว่ำร่างพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า โดยยืนยันนายกฯไม่เคยก้าวล่วงและแทรกแซงอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ “ พล.อ.ประยุทธ์คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก มากกว่าผลแพ้ชนะทางการเมือง ดังนั้นผลการพิจารณาร่างพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า จึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับพล.อ.ประยุทธ์ จะสั่งการหรือชี้นำควบคุมเสียงในสภาฯ ได้ กระแสข่าวที่ออกมาอาจเป็นการตีตนไปก่อนไข้ และมุ่งหวังที่จะสร้างความเข้าใจผิดให้เกิดขึ้นในสังคม” ทิพานันระบุ ขณะที่ฝ่ายของนิโรธ สุนทรเลขา ประธานวิปรัฐบาล ชี้ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าเป็นร่างของกรรมาธิการ ไม่มีประเด็นที่ครม.จะไปข้องแวะยุ่งเกี่ยว ส่วนการลงมติก็เป็นหน้าที่ของสมาชิกและดุลพินิจของ ส.ส.และส.ว.
ด้านฝ่ายเจ้าของกฎหมายผู้เสนอเรื่องนี้อย่าง เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) กฎหมายฉบับนี้ ได้ออกมาโพสต์จดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ อย่าเดิมพันอนาคตทางการเมืองในสภากับการคว่ำกฎหมายสุราก้าวหน้า ตำหนิบิ๊กตู่กับ 3 ป. กุมอำนาจบริหารประเทศมา 8 ปี เอื้อประโยชน์ให้นายทุนมาโดยตลอด “ ผมขอเตือนคุณประยุทธ์ และบรรดา 3 ป. ว่าถ้าพวกท่านคิดจะเดิมพันอนาคตทางการเมืองในสภาของพวกท่านกับกฎหมายฉบับนี้พวกท่านอาจคิดผิด และกฎหมายฉบับนี้เมื่อมันผ่านด้วยเสียงข้างมากในสภา วันนั้นแหละพวกท่านจะรู้ถึงทางตันแล้วเพราะว่าไม่ได้มีใครสนับสนุนพวกท่านอีกต่อไป หากสุราก้าวหน้าถูกคว่ำจริง ๆ มันก็จะเป็นการขีดเส้นความขัดแย้งที่ชัดเจนระหว่างประชาชนและนายทุนผูกขาดในประเทศนี้ด้วยตัวของพวกท่านเอง” เท่าพิภพดักคอนายกฯกับ 3 ป.
ฝ่ายหัวหน้าพรรคอย่างพิธา ลิ่มเจริญรัตน์ ก็ออกมากระทุ้งเรื่องนี้ผ่านโลกออนไลน์แบบรัวๆ จั่วหัวในทำนอง “อย่าให้ 3 ลุงคว่ำกฎหมายนี้เด็ดขาด” พร้อมยก 5 เหตุผลสนับสนุนกฎหมายฉบับนี้ ประกอบด้วย 1. การแปรรูปสินค้าเกษตร 2.การกระจายสิทธิ์ชุมชน กระจายรายได้ 3. การกระตุ้นเศรษฐกิจที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมอาหารการกินและการท่องเที่ยวของประเทศ 4 . รัฐบาลจะได้เงินภาษีจากสุราพื้นบ้านมหาศาล โดยในแต่ละปีจะได้ภาษีราว 400 ล้านบาท ต่อ 1 ตำบล ซึ่งประเทศไทยมีทั้งหมด 7,255 ตำบล ลองคิดดูว่าจะได้เงินเท่าไหร่ 5. การผูกขาดสุรา อาจทำให้มรดกภูมิปัญญาหรือเหล้าไทยตายไป เมื่อเทียบกับประเทศอื่นที่มีทั้ง สาเก โซจู ที่รัฐสนับสนุนภูมิปัญญาท้องถิ่นในประเทศ “ ตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของญี่ปุ่นและไทย มีขนาดเท่ากันที่ประมาณ 2 แสนล้านบาท ของญี่ปุ่นมี 50,000 ยี่ห้อ ขณะที่ของไทยมี 10 ยี่ห้อ นี่คือตลกร้ายของการผูกขาดตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในประเทศไทย ปิดโอกาสผู้ประกอบการรายย่อย รายใหม่ที่จะสามารถผลิตและคิดค้นผลิตภัณฑ์ให้มีมาตรฐานแข่งขันได้ จึงไม่มีความจำเป็นหรือเหตุผลใดที่คุณประยุทธ์จะต้องคว่ำ พ.ร.บ. #สุราก้าวหน้าที่กำลังจะเข้าสู่สภา นอกเสียจากว่าต้องการให้มีการผูกขาดในลักษณะเดิมต่อไป” พิธาโพสต์เฟซบุ๊คตีกินจามแสกหน้านายกฯแบบเต็มๆ
กฎหมายสุราต้องบอกว่าใครเป็นนายกฯใครเป็นรัฐบาลทุกยุคทุกสมัยก็ต้องปวดหัว ฝากหนึ่งเป็นนายทุนยักษ์ใหญ่ของชาติ ผูกขาดเหล้า เบียร์ เหล้าขาว สารพัดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฯลฯ กันมานานตกทอดกันมาเป็นชาติ อีกฝากเป็นชาวบ้านตาดำๆกับคนทั่วไปที่อยากจะลืมตาอ้าปากหวังให้รัฐบาล “ปล่อยผี” เรื่องนี้เสียที เพราะคาราคาซังมานาน ไม่ว่ารัฐบาลชุดไหนก็ไม่กล้าทำเอาตรงๆคือไม่อยากแตะเรื่องนี้ พูดกันแบบตรงๆ บริษัทยักษ์ใหญ่เหล้าเบียร์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขายเครื่องดื่มน้ำเมาได้กำไรมหาศาล เงินส่วนหนึ่งก็จ่ายภาษีให้รัฐบาล อีกส่วนก็แบ่งแจกจ่ายอุดหนุนให้กับพรรคการเมืองต่างๆ โดยเฉพาะพรรคที่เป็นรัฐบาลถืออำนาจอยู่ในมือ ทุกยุคทุกสมัยก็เป็นแบบนี้หมด จู่ๆ วันดีคืนดี จะให้รัฐบาลมา “ปลดล็อค” ให้คนไทยทำ “สุราเสรี” ไฟเขียนให้ชาวบ้านต้ม “คราฟต์เบียร์” (Craft Beer) กันแบบเอิกเริกทุกย่อมหญ้า แบบทันทีทันใดก็ใช่เรื่องที่จะไปบังคับไปบีบคอให้บิ๊กตู่ให้รัฐบาลเรือแป๊ะสนองความต้องการให้ได้ในทันที
อย่าลืมว่าช่วงนี้มันนันถอยหลัง 180 วันไปสู่การเลือกตั้ง จะคิดจะอ่านทำการอะไรก็ต้องสุขุม รอบครอบ ปลดล็อคเหล้าเบียร์ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ พรรคก้าวไกลฝ่ายค้านจะมาเร่งเครื่องเดินเกมเรื่องนี้เพื่อตีกินหาเสียงเข้ากระเป๋าก็ดูจะมักง่ายไปหน่อย เพราะมันไม่ใช่เรื่องเล็กๆที่จะตัดสินฟันธงได้โดยง่าย พรรคก้าวไกลพูดเสนอโหมโรงเรื่องนี้มันง่าย แต่ทำจริงมันโคตรยากที่จะฝ่ากำแพงเหล็กของยักษ์ใหญ่โคตรนายทุนเหล้าเบียร์ในประเทศไทย พรรคก้าวไกลออกมาโหมเรื่องนี้อย่างหนักหน่วงอ้างว่าเรียกร้องกฎหมายนี้เพื่อชาวบ้านเพื่อคนไทยอันนั้นแค่ประเด็นรอง แต่ประเด็นหลักต้องการดิสเครดิตนายกฯหวังโจมตีรัฐบาลตีกบาลพรรคร่วม เพราะรู้อยู่แล้วว่ายังไงกฎหมายนี้ต้องถูกคว่ำไปต่อไม่ได้ เพราะกระทบกระเป๋าเงินของรัฐบาลสะเทือนทุนของทุกพรรค ยิ่งใกล้เลือกตั้งแบบนี้คงไม่มีรัฐบาลชุดไหนพรรคการเมืองใดอยากเปิดศึกกับยักษ์ใหญ่น้ำเมาทั้งวงการ เพราะเหมือนผูกคอตายชัดๆ เรื่องการเมืองพื้นๆแบบนี้ทำไมพรรคก้าวไกลจะไม่รู้ เอาจริงๆ ถ้าตอนนี้พรรคคุณมึงได้เป็นรัฐบาลบริหารกำลังประเทศ พนันแสนเอาบาทก็ไม่มีทางแตะเรื่องนี้ไม่กล้าเสนอกฎหมายพรรค์อย่างว่าออกมาแน่นอนโดยเฉพาะในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานใกล้เข้าคูหาแบบนี้ แต่เพราะเป็นฝ่ายค้านด้านตรงข้ามเลยได้ทีขี่แพะไล่บิ๊กตู่ขย่มรัฐบาลแบบเอามันส์ เรื่องแบบนี้คนไทยใจเป็นธรรมเขาดูออกไม่โง่หลงกลตามเกมสามกีบล้มเจ้าอย่างพวกเอ็งหรอก
อย่างไรก็ตามเรื่องไฟเขียวสุราพื้นบ้าน คราฟต์เบียร์ชุมชน อยากเรียกร้องให้บิ๊กตู่มองไกลๆคิดกว้างๆ ขอเสนอของส.ส.ก้าวไกลใช้ว่าไม่มีประโยชน์ มองในมุมกลับคิดในแง่บวกประเด็นข้อเสอนพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ไม่ควรเป็นเรื่องที่บิ๊กตู่และครม.เรือแป๊ะจะต้องกลัวต้องหงอบรรดายักษ์ใหญ่นายทุนไม่กี่เจ้าอีกต่อไป เอาจริงๆบรรดาเจ้าสัวเหล้าเบียร์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเมืองก็มีไม่กี่เจ้าจริงๆ รวยล้นฟ้าเสวยสุขทั้งตระกูล กินภาษีน้ำเมามาไม่รู้กี่ชาติ ถึงเวลาให้โอกาสคนไทยชาวบ้านได้ลืมตาอ้าปากแล้วหรือยัง ถามเรื่องนี้กับนายทุนกับเจ้าสัวไม่มีทางที่จะคายขุมทองฝั่งเพชรในเรื่องนี้ออกมาง่ายๆ เรื่องนี้พูดแบบตรงๆไม่เข้าใครออกใคร ไหนก็ทำเรื่องใหญ่คับฟ้าล้างบางความไม่เท่าเทียมในสังคมหลายเรื่องมามากแล้ว บิ๊กตู่ 3 ป. บูรพาพยัคฆ์ รัฐบาลเรือแป๊ะ ควรจะทำเรื่องนี้ให้เห็นเป็น “โบว์แดง” เป็นขวัญตาสำหรับคนไทย อย่าไปถือหางยักษ์ใหญ่อย่าไปเอาใจนายทุนจนเกินเหตุ ชาวบ้านตาดำๆรอเวลารอโอกาสที่จะต้มเหล้าทำเบียร์ใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านหาเงินหารายได้เลี้ยงครอบครัวกับเขาบ้าง โลกไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ลองไปดูในต่างประเทศ สุราพื้นบ้าน คราฟต์เบียร์ เขาขายกันเต็มไปหมด ปลดล็อคกฎหมาย แก้การผูกขาด ได้เวลาเลิกทาส “เหล้า-เบียร์” ในสังคมไทยได้แล้ว
อย่าไปห่วงว่าจะตามรอยกัญชาเสรี กรณีนี้มันคนละเรื่องกัน กลัวเหล้าเถื่อนเบียร์ด้อยคุณภาพเกลื่อนกลาดก็เอาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปคุมไปดูแลคุณภาพให้เข้มงวด ปัญหาทุกอย่างมันแก้ไขมันหาทางออกกันได้ ปลดล็อคเหล้าเบียร์เสรีไม่รู้อีกกี่ชาติกว่าจะสำเร็จ แต่ ณ วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ท่านเป็นนายกฯเป็นผู้นำประเทศที่เดินมาใกล้ที่สุดกับการพังทลายกำแพงเหล็กของโคตรนายทุน จะทำมากทำน้อยก็ขอให้คิดทบทวนเรื่องนี้ให้จงหนัก อย่าไปคิดถึงแต่หน้านายทุนผูกขาดที่รู้จัก แต่ขอให้นึกถึงหัวอกของชาวบ้านตาดำๆ สุราพื้นบ้าน เบียร์ชุมชุม มันเป็นโอกาสให้ชาวบ้านหารายได้ส่งเสริมให้แต่ละชุมชนลืมตาอ้าปากได้จริงๆ หลายประเทศที่เจริญ ก็มีเหล้าพื้นบ้าน เบียร์ชุมชนค้าขายทำเงินให้กับคนในท้องถิ่นพอเลี้ยงตัวได้ ตัวอย่างในเมืองนอกโมเดลในต่างแดนก็มีให้เห็นถมเถไป บิ๊กตู่ 3 ป. อย่าปิดหูปิดตาทำไม่รู้ไม่ชี้เรื่องนี้ต่อไปอีกเลย รู้ว่าโคตรยากแต่ท่านต้องแสดงความจริงใจให้คนเห็นออกมา ขอแค่ท่านเดินก้าวแรกติดกระดุมเม็ดแรกให้ทุกคนเห็น ปกป้องสถาบันอันเป็นที่รักไว้เหนือเกล้าเรื่องนั้นมันยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว แต่ถ้าแสดงความจริงใจรักษาผลประโยชน์ของชาวบ้านของคนส่วนใหญ่ไปด้วยก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ อย่าให้เขาว่าได้ว่าบิ๊กตู่ 3 ป. ถือหางแต่พวกนายทุนอุ้มแต่พวกมหาเศรษฐี ไม่ดูดำดูดีคนทำมาหากินทอดทิ้งรากหญ้าไม่เหลียวแลชาวบ้าน
////////////////