ซีบีเอส นิวส์-ยูกอฟ (CBS News-YouGov) ได้ทำการสำรวจความเห็นชาวอเมริกัน 2,119 คน ระหว่างวันที่ 26-28 ตุลาคมพบว่า ชาวอเมริกัน 79 เปอร์เซ็นต์มองว่า สถานการณ์ในประเทศ คุมไม่อยู่แล้ว ส่วนอีก 21 เปอร์เซ็นต์ยังเชื่อว่าควบคุมได้ ขณะเดียวกัน ในส่วนคำถามเกี่ยวกับความรู้สึกที่มีต่อสถานะของประเทศนั้น 73 เปอร์เซ็นต์ระบุว่า สถานการณ์ต่างๆ ในประเทศดำเนินไปอย่างไม่ราบรื่นนัก ส่วนอีก 26 เปอร์เซ็นต์มองว่า ประเทศยังคงดำเนินไปด้วยดีอยู่
ทั้งนี้ ผลสำรวจยังแสดงต่อว่า ชาวอเมริกัน 56 เปอร์เซ็นต์ ไม่ค่อยถูกใจกับการทำงานของโจ ไบเดน ในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐ ขณะที่ 44 เปอร์เซ็นต์ ยังคงมีมุมมองเชิงบวกกับไบเดน และหากแบ่งตามความนิยมของพรรคการเมืองแล้ว กลุ่มสำรวจที่นิยมพรรคเดโมแครต 48 เปอร์เซ็นต์เชื่อว่า สถานการณ์ต่างๆ กำลังดำเนินไปด้วยดี ขณะที่กลุ่มสำรวจที่นิยมพรรครีพับลิกัน 12 เปอร์เซ็นต์ และกลุ่มสำรวจที่ไม่นิยมพรรคใด 18 เปอร์เซ็นต์ ก็มองว่า สถานการณ์ประเทศยังดีอยู่
เมื่อใกล้ถึงการเลือกตั้งกลางภาคในวันที่ 8 พฤศจิกายน โพลสรุปได้ว่า พรรครีพับลิกันอยู่ในตำแหน่งที่จะชนะเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร โดยคาดการณ์ว่า จะได้รับที่นั่งทั้งหมด 228 ที่นั่ง ในขณะที่พรรคเดโมแครตจะได้รับที่นั่งเพียง 207 ที่นั่ง ลดลงจากตอนนี้ที่มีอยู่ 220 ที่นั่ง
การสำรวจมีขึ้นในช่วงเวลาที่รัฐบาลที่ปกครองโดยพรรคเดโมแครต โดนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนมากกล่าวหาว่า ล้มเหลวในการจัดการกับภาวะเงินเฟ้อที่สูงเป็นประวัติการณ์, ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น, การเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย, และอัตราการเกิดอาชญากรรมที่เพิ่มสูงขึ้น และเมื่อต้นเดือนนี้ ทางบลูมเบิร์กก็ได้จำลองแบบเศรษฐกิจขึ้นมา พร้อมสรุปว่า เศรษฐกิจสหรัฐในอีก 12 เดือนข้างหน้า จะเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างแน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์