ยังไม่รู้ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่ดูตามหน้าเสื่อและคาดการณ์จากภารกิจสำคัญที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหมและรัฐบาลยังต้องรับผิดชอบ ความเป็นไปได้ล่าสุดน่าจะเกิดขึ้นหลังการประชุมสุดยอดผู้นำเอเชีย-แปซิฟิค (APEC 2022 THAILAND ) ระหว่างวันที่ 14-19 พ.ย.2565 แน่นอน เพราะยังไงเสียพล.อ.ประยุทธ์ก็ต้องเป็นเจ้าภาพต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองให้แล้วเสร็จก่อนจากนั้นถึงค่อยมาคิดถึงเรื่องนี้ จะเห็นได้ว่าหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ปิดโหมดการเมืองทั้งหมด ไม่พูดไม่ตอบเรื่องใดๆทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเรื่องปรับครม.ที่ฝ่ายพรรคประชาธิปัตย์ เสนอชื่อนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง 5 สมัย มานั่งเป็นมท.2 แทนที่นิพนธ์ บุญญามณี ที่ลาออกไป เรื่องของอนาคตทางการเมืองของตัวเองว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้ เรื่องจะให้พรรคการเมืองใดสนับสนุนระหว่างอยู่กับพรรคเก่าอย่างพรรคพลังประชารัฐ หรือย้ายไปบ้านใหม่อยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ ล่าสุดก็เป็นกรณีนับถอยหลังยุบสภาที่มีการปูดข่าวมาว่าพล.อ.ประยุทธ์จะยุบสภาในวันที่ 24 ธ.ค.2565 ที่จะตรงกับ 90 วัน
หากนับถอยหลังมาจากวันครบกำหนดวาระการทำหน้าที่ 4 ปี ของสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ในวันที่ 23 มี.ค.2566 พอดิบพอดี ที่ส.ส.หลายคนมีความเป็นห่วงว่าหากพล.อ.ประยุทธ์บริหารประเทศจนจบครบเทอมในวันที่ 23 มี.ค.2566 จะต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 45 ไม่เกิน 60 วัน ตรงนี้จะทำให้ติด “เดดล็อค” ในการย้ายพรรค เพราะรัฐธรรมนูญ ม.97 (3) ระบุคุณสมบัติผู้มีสิทธิ์สมัครเป็นส.ส. จะต้อง เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งแต่เพียงพรรคการเมืองเดียวเป็นเวลา ติดต่อกันไม่น้อยกว่า 90 วันนับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่ในกรณีที่มีการเลือกตั้งทั่วไปเพราะเหตุยุบสภา ระยะเวลา 90 วันดังกล่าวให้ลดลงเหลือแค่ 30 วัน กรณีของพล.อ.ประยุทธ์คราวนี้คงไม่คิดอยู่จนครบวาระถึง 23 มี.ค.2566 แน่นอน เพราะหากเป็นแบบนั้น บรรดาส.ส.ที่คิดจะย้ายพรรคจะหมดสิทธิ์ติดเดดล็อคกันไปหมด เพราะฉะนั้นแน่นอนว่าเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้า พล.อ.ประยุทธ์จะชิงยุบสภาก่อนครบวาระแน่นอน เพื่อปล่อยผีให้ส.ส.ย้ายพรรคตามปราถนา
จากนี้จนถึง 23 มี.ค.2566 เหลือเวลาอีก 4 เดือนกับ 23 วัน มีเวลาอีกเหลือเฟือที่จะคิดถึงวัน ว. เวลา น. ในการยุบสภา ล่าสุดทาง “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยก็ออกมาแง้มข้อมูลแล้วว่าไม่ต้องเป็นห่วง เพราะเรื่องนี้มีการเตรียมการไว้หมดแล้ว จบงานใหญ่ก็คงเห็นหน้าเห็นหลังเรื่องนี้ชัดเจนยิ่งขึ้น “ ได้มีการเตรียมความพร้อมไว้แล้ว ไม่ว่าอย่างไร ต้องให้ผ่านการจัดการประชุมเอเปกไปก่อน และในสัปดาห์นี้คงจะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเตรียมจัดการประชุมเอเปก …. อำนาจหน้าที่การยุบสภาเป็นของนายกฯ ตรงนี้เป็นข้อแตกต่างของคนเป็นนายกฯ และไม่ใช่นายกฯ เราจะไปคาดการณ์หรือก้าวล่วงอะไรไม่ได้ และเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของวาระสภาฯ ชุดนี้อยู่แล้ว จึงต้องมีการเตรียมความพร้อมอยู่ตลอด ” เสี่ยหนูให้สัมภาษณ์วันก่อน ขณะที่หลังประชุมครม.ล่าสุดวันนี้ (1พ.ย.2565 ) อนุทินยังยืนกรานเหมือนเดิมว่ายังไม่มีการพูดเรื่องนี้ พร้อมปล่อยมุกบิ๊กตู่ “ นายกฯบอกกับผมว่า จะยุบสภา 31 ก.พ. การทำงานของรัฐบาลขณะนี้ก็ยังเป็นไปด้วยดี โดยไม่รู้สึกว่าสภาจะหมดอายุ และรัฐบาลจะครบวาระ มีแต่จะเร่งทำงานที่ค้างไว้ให้รวดเร็ว และพยายามแก้ไขปัญหาที่มี ในทุกด้านอย่างเต็มสูบ” รองนายกฯกล่าว
ขณะที่ฝากฝั่งเสนาบดีเรือแป๊ะสังกัดพรรคพลังประชารัฐ อย่างก๊วน “สามมิตร” ก็ออกมาประสานเสียงยังไม่มีสัญญาณยุบสภาจากนายกฯ เชื่อปีนี้นายกฯไม่รีบยุบ หนึ่งในคนที่ออกมายืนยันเรื่องนี้หนักแน่นคือ “เสี่ยแฮงค์” อนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ น้องเล็กก๊วนสามมิตร ที่ออกมาฟันธงปีนี้ไม่มียุบสภาแน่นอน อ้างทำงานใกล้ชิดบิ๊กตู่ไม่เคยมีการพูดเรื่องนี้ให้ได้ยิน “ ไม่มี ไม่มีข้อสงสัยหรือข้อระแวงเกี่ยวกับการยุบสภาแม้แต่น้อย และเท่าที่ฟังจากนายกฯมา นายกฯก็ยืนยันว่าจะทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ของประชาชนต่อไป มั่นใจ” อนุชาสำทับปีนี้ไม่มียุบสภาแน่ ด้านพี่กลางสามมิตรอย่าง สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ก็เชื่อว่ายุบสภาคงยังไม่เกิดง่ายๆ เพราะยังมีอีกหลายปัจจัยที่พล.อ.ประยุทธ์ต้องทำให้แล้วเสร็จก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกฎหมาย การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน การออกนโยบายต่างๆก่อนเลือกตั้ง “วันนี้ผมมีมุมมองว่า สภาเหลือเวลาทำงานประมาณ 4 เดือน ทั้งนี้ยังมีกฎหมายที่อยู่ระหว่างการพิจารณาค้างอยู่ ถ้าทำสำเร็จก็จะไม่เสียหาย หรือกฎหมายยังมีชีวิตอยู่ไม่ตาย แต่หากกฎหมายค้างอยู่ แล้วรัฐบาลหมดวาระหรือยุบสภา กฎหมายนั้นจะเสียหาย และต้องเริ่มต้นใหม่จนเสียเวลา ดังนั้นเรื่องการยุบสภาคนอื่นตอบไม่ได้นอกจากนายกฯ ที่เป็นผู้มีอำนาจในการนำเสนอเท่านั้น ส่วนระยะเวลาการทำงานที่เหลือครม. ก็สามารถเร่งรัดทำงานอื่นได้ให้มากที่สุดทุกมุมทั้งส.ส. และรัฐบาล จนกว่ามีรัฐบาลใหม่ เพื่อไม่ให้ประชาชนเสียโอกาส” สมศักดิ์แจกแจง
จนถึงวันนี้ยังไม่มีใครรู้ ยังไม่มีใครอ่านใจพล.อ.ประยุทธ์ออกว่าจะยุบสภาตอนไหน เลือกทิ้งไพ่เด็ดตอนใด ล่าสุดก็ยังปิดโหมดการเมือง ส่วนเรื่องยุบสภาก็ย้อนนักข่าวเบาๆว่า “ต้องไปถามคนปล่อยข่าว ยังไม่มีอะไรทั้งสิ้น” อย่างไรก็ตามข่าววงในหลุดออกมาว่ามีการหารือกันคร่าวๆแล้วระหว่างบิ๊กตู่ ลุงป้อม และแกนนำรัฐบาล ว่าจะมีการยุบสภาในเดือนม.ค. จากนั้นจะเลือกตั้งทั่วไปราวๆ เดือนมี.ค.ใกล้เคียงกับการเลือกตั้งทั่วไปคราวที่แล้ว ( 24 มี.ค.2562 ) หรืออาจจะเร็วกว่าแต่อยู่ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน จากนี้ก็ต้องพยายามลากยาวบริหารประเทศให้นานที่สุด รักษาสมดุลย์ในการบริหารประเทศให้เกิดการกระเพื่อมน้อยที่สุด ไม่สร้างเงื่อนไขหรือทำอะไรที่จะกลายเป็น “ตัวเร่ง” ให้เกิดกระแสกดดันให้ยุบสภาก่อนเวลาอันควร จนกว่ารัฐบาลจะมีความพร้อมที่สุด ทั้งในแง่ บุคคลากร กระสุน กระแส นโยบาย ที่สำคัญคือเรื่องกติกาและกฎหมายที่จะใช้สำหรับการเลือกตั้งคราวหน้า จะเอาสูตรหาร 100 แล้วไปวัดดวง หรือใช้เกมพิศดารพลิกนรกกลับมาใช้สูตรหาร 500 ก็ต้องรอลุ้นคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในกฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับ ไม่ว่าจะเป็นพ.ร.ป.พรรคการเมือง หรือ พ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส. ก็ต้องเคาะกันออกมาให้ชัด เชื่อแน่ว่าหลังจัดประชุมเอเปคจบ พล.อ.ประยุทธ์คงมีเวลาให้หายใจหายคอคิดอ่านอะไรมากขึ้น การเมืองตอนนั้นทุกอย่างน่าจะเริ่มชัดขึ้น รัฐบาลจะเร่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านแล้วเสร็จ จากนั้นจะวางนโยบายใหม่ออกมาให้โดนใจประชาชน ระหว่างนี้บิ๊กตู่ก็ขอเวลาขบคิดอนาคตทางการเมือง หาทางคุยกับลุงป้อมให้ทุกอย่างตกผลึกให้ทุกเรื่องสะเด็ดน้ำ จะไปต่อหรือไม่ อยู่ต่อกับพรรคใดพรรคพลังประชารัฐหรือขยับออกไปเป็นหัวให้พรรครวมไทยสร้างชาติ หลังประชุมเอเปค 19 พ.ย.2565 การเมืองคงเห็นหน้าเห็นหลังชัดเจนขึ้น
//////////////////////////