ประชาธิปัตย์ไม่เคยสงบ

หลังเลือดไหลออกจากพรรคไม่หยุด   “แกนนำ-เบอร์ใหญ่” หันหลังให้พรรค  ชวนต้องออกโรงสะบัดใบมีดรัวๆ  เตือนสติส.ส.ให้ข้อคิดคนย้ายออก  เบรกพรรคใหม่ดูดคนในไปสร้างตัว  ระวังออกจากพรรคแล้วจะไม่รุ่ง  ย้อนอดีตขัดแย้งในประชาธิปัตย์  76 ปี ไม่เคยสงบ  แตกหัก ย้ายพรรค สร้างบ้านใหม่ มีทั้งรุ่งถึงนายกฯ มีทั้งร่วงเป็นได้แค่ไม้ประดับทางการเมือง  

1-2 เดือนที่ผ่านมาใครเป็นแฟนคลับพรรคประชาธิปัตย์หรือเป็นคอการเมืองที่ชื่นชอบ “นายหัวชวน” ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร  จะเห็นความผิดปกติผิดสังเกตของตำนานนักการเมืองเจ้าของฉายา “มีดโกนอาบน้ำผึ้ง”  ที่ออกมาสะบัดสำนวนฟาดงวงฟาดงา   กรีดใบมีดถึงพรรคการเมืองและนักการเมืองที่เป็นคู่แข่งในการเลือกตั้งคราวหน้า  และกำลังมีประเด็นขัดแย้งกันอยู่เพราะดันมีอดีตส.ส.และแกนนำในพรรคประชาธิปัตย์หลายคนย้ายไปสังกัดพรรคใหม่ที่ว่านี้

ก่อนหน้านี้ เมื่อ 19 ก.ย. 2565 ชวนก็ออกมาพูดเรื่องนี้ทีนึงแล้ว   “มีหลายคนที่เข้ามาปรึกษา จึงให้ข้อคิดไปว่า ต้องคิดให้ดี ไปอยู่พรรคเฉพาะกิจ ก็เพียงชั่วคราว เมื่อเสร็จภารกิจแล้ว พรรคก็ล้มไป แต่ถ้ามีความจำเป็นจะต้องไป ก็คงห้ามไม่ได้” ชวนระบุ    สัปดาห์ก่อนหน้านี้ชวนก็ออกมาเตือนสติเรื่องส.ส.แห่ย้ายพรรคไปรวมกับพรรคการเมืองใหม่ที่ตั้งขึ้นมาเฉพาะกิจ  ดูดส.ส.จากทุกพรรคไปรวมกัน  สนับสนุนคนใดคนหนึ่งพอเสร็จภารกิจแล้วก็แยกย้ายยุบพรรคกันไป   วานนี้ 1 พ.ย.2565  นายหัวชวนก็ออกมาสะบัดมีดโกนอีกดอก  “ เรื่องนี้คุณจุรินทร์  เคยพูดไปแล้วว่ามีคนไปตั้งพรรคใหม่แล้วก็ล่าเหยื่อ   ขอโทษครับ… ล่าเพื่อนๆ ในพรรค มีคนมาบอกผมว่ามีคนที่ออกไป แล้วมาชวนให้ออกจากพรรค บางคนก็ออก บางคนก็ไม่ออก ก็ต้องรอดูต่อไป เพราะยังมีเวลาอยู่ว่าจะออกไปและเข้ามากี่คน…..ใครที่มาลาผม   ผมก็เตือนเขาว่าอย่าลาออกเลย เพราะใครออกจากพรรคไปเท่าที่ดูมักจะมีปัญหาภายหลังทั้งนั้น …..ทุกคนที่มาบอกกล่าวผม ผมก็จะบอกกับทุกคนว่าไม่อยากให้ออกเพราะพรรคถือว่าทุกคนมีคุณภาพ ที่ออกไปส่วนใหญ่ได้เป็นรัฐมนตรีของพรรค เมื่อไปอยู่พรรคอื่นผมไม่แน่ใจว่าจะได้เป็นรัฐมนตรีหรือไม่” ชวนกล่าว

ไม่บอกก็รู้ว่าพรรคที่กำลังเป็นประเด็นหักเหลี่ยมเฉือนคมกับพรรคประชาธิปัตย์ก็คือพรรครวมไทยสร้างชาติของ “เสี่ยตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาคย์  ที่ปรึกษานายกฯ อดีตรมว.ยุติธรรม  ซึ่งไม่บอกก็รู้ว่าเป็นพรรคการเมืองที่รวบรวมเด็กเก่ามาจากพรรคประชาธิปัตย์ ขุนพลค่ายสีฟ้าไว้บานเบอะ อาจจะเรียกว่าพรรคประชาธิปัตย์สาขา 2 ก็ได้  แม้วันนี้จะเกาเหลาขบเหลี่ยมกันแต่อดีตทั้งหมดก็เคยอยู่ร่วมชายคาค่ายเดียวกันมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นเอกณัฏ พร้อมพันธุ์ , สามารถ มะลูลีม, วิทยา แก้วภราดัย, พ.อ.เฟื่องวิชชุ อนิรุทธเทวา, ชื่นชอบ คงอุดม ฯลฯ รวมถึงตัว “ลูกหมี” ชุมพล จุลใส ที่แอบช่วยพรรคแบบเปิดเผยอยู่   และอนาคตเชื่อว่าอาจมีส.ส.พรรคประชาธิปัตย์อีกหลายคนย้ายออกมาอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติหลังนี้  โดยเฉพาะหาก “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯตัดสินใจเล่นการเมืองและมารวมหัวจมท้ายกับพรรคนี้   แม้วันนี้อุดมการณ์ทางการเมืองจะไม่ตรงกัน แต่อนาคต 2 พรรคพี่น้องก็อาจร่วมงานกันได้ถ้าได้ร่วมรัฐบาลเดียวกัน  แม้วันนี้จะแตกหักห่ำหั่นกันสุดฤทธิ์ในทางการเมือง

ตลอด 76 ปีทางการเมืองไม่มีใครปฏิเสธความเป็น “สถาบันการเมือง” ของพรรคประชาธิปัตย์   ย้อนอดีตไปตั้งแต่วันแรกที่มีการก่อตั้งพรรคเมื่อ 5 เม.ย.2489 ที่เป็นวันก่อการก่อตั้งพรรคโดยควง อภัยวงศ์ กับพรรคพวกครั้งแรกที่บริษัทของตัวเองย่านเยาวราช  แต่ถือฤกษ์ดีในวันจักรี 6 เม.ย.2489 เป็นวันก่อตั้งพรรค  นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันพรรคประชาธิปัตย์มีหัวหน้าพรรคมาแล้ว  8 คน  1.พ.ต.ควง อภัยวงศ์  2. หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช  3.พ.อ. (พิเศษ) ถนัด คอมันตร์ 4.พิชัย รัตตกุล 5.ชวน หลีกภัย 6.บัญญัติ บรรทัดฐาน 7. อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ 8. จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์   ในจำนวนนี้เป็นนายกฯ 4 คน คือ 1.พ.ต.ควง 2.ม.ร.ว.เสนีย์ 3.ชวน และ 4. อภิสิทธิ์  มีเลขาธิการพรรคมาแล้วทั้งสิ้น 16 คน ในจำนวนนี้มี “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน รับบทเป็นเลขาธิการพรรคมาแล้ว 2 ครั้ง  ใครตามพรรคประชาธิปัตย์มาตลอดเป็นแฟนพรรคสีฟ้าแบบเข้าเส้น  จะทราบดีว่าพรรคนี้มีการเปลี่ยนแปลงถ่ายเลือดเปลี่ยนอวัยวะสำคัญกันอยู่บ่อยครั้ง  แปลกแต่จริงที่หัวหน้าคณะผู้ก่อการแตกตัวแยกไปตั้งพรรคการเมืองใหม่  ส่วนใหญ่ล้วนแต่มีตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรคแทบทั้งสิ้นจะมีที่ก่อการแยกตัวออกไปแล้วไม่ใช่เลขาธิการพรรคก็มีแต่สมัคร สุนทรเวช คนเดียวเท่านั้น

ไล่ตั้งแต่ยุคแม่บ้านพรรคคนแรกคือพล.ต.ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ที่ก่อตั้งพรรคก้าวหน้าแล้วมารวมพรรคกับพรรคประชาธิปัตย์ อยู่ได้แค่ 2 ปีเศษ ( 6 เม.ย.2489 -16 ก.ย.2491) ก็ตีจากพรรคประชาธิปัตย์ไปตั้งพรรคกิจสังคม และนำส.ส.กิจสังคม 18 เสียง  สร้างประวัติศาสตร์นำพรรคแสบ ( SAP -Social Action Party ) เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจนได้เป็นนายกฯ คนที่ 13 แบบช็อคทั้งวงการ   คนต่อมาที่นำส.ส.แยกตัวออกไปก็คือสมัคร (เป็นส.ส. 2511-2519)  ก่อนจะไขก๊อกออกไปตั้งพรรคประชากรไทย ได้ดิบได้ดีเป็นรัฐมนตรีหลายสมัยในหลายยุคสมัย  ทั้งยุค ม.ร.ว.เสนีย์  ธานินทร์  พล.อ.เปรม พล.อ.ชาติชาย พล.อ.สุจินดา บรรหาร พล.อ.ชวลิต ฯลฯ    เป็นนักการเมมืองฝีปากกล้าเป็นดาวสภา ก่อนถูกทักษิณ ณ ดูไบ ทาบไปเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชนขึ้นชั้นเป็นนายกฯ คนที่ 25   2 บิ๊กเนมที่ว่าคือ  “เนื้อใน”  พรรคสีฟ้าที่เดินออกจากพรรคแล้วไปได้ดีถึงขั้นเป็นนายกฯก้าวเป็นผู้นำของประเทศ

แต่ที่เดินออกจากพรรคแล้วไม่รุ่งพุ่งไม่แรงอย่างที่ควรจะเป็นก็มีบานเบอะ ตั้งพรรคใหม่ไร้ความนิยมตกอับกลายเป็นพรรคไม้ประดับทางการเมืองก็มีมาก    คนแรกที่ต้องพูดถึงก็คือวีระ มุสิกพงศ์ เลขาธิการพรรคคนที่ 10 ( 5 เม.ย.2529 – 10 ม.ค.2530 )  เป็นส.ส.ปชป.ยาวนานตั้งแต่ปี 2518-2531 ก่อนจะเกิดการขัดแย้งหลายเรื่องระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลและปัญหาภายในพรรคประชาธิปัตย์   โดยเฉพาะการตั้งหัวหน้าพรรคคนใหม่  ที่วีระต้องการสนับสนุน เฉลิมพันธ์ ศรีวิกรม์ ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค ขณะที่กลุ่มชวน ต้องการผลักดัน พิชัย รัตตกุล เป็นหัวหน้าพรรค โดยมี “เสธฯหนั่น” พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ เป็นเลขาธิการพรรค ครั้งนั้นกลุ่มวีระพ่ายแพ้จนเป็นที่มาของชื่อ “กลุ่ม 10 มกรา”  ต้องระเห็จออกไปตั้งพรรคประชาชนแต่ก็ไม่รุ่งสุดท้ายวีระต้องไปซบอกทำพรรคกับพ่พอใหญ่จิ๋วในนามพรรคความหวังใหม่  ก่อนถูกทักษิณเทกโอเวอร์ไปรวมกันในชื่อพรรคไทยรักไทย  คนต่อมาที่ออกจากพรรคประชาธิปัตย์ก็คือพล.ต.สนั่น เจ้าพ่อชาละวันเมืองพิจิตร   เลขาธิการพรรคคนที่ 10  (10 ม.ค.2530 -17 ก.ย.2543)  เป็นแม่บ้านพรรคยาวนานกว่า 13 ปี  เป็นเลขาธิการพรรค 2 ยุค  “พิชัย-ชวน”  ถือเป็นช่วงที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก  แต่ระหว่างกำลังนำพรรครุ่งเรืองกลับตกม้าตายเพราะยื่นบัญชีทรัพสินย์อันเป็นเท็จ  (ระบุว่ากู้เงิน 45 ล้านบาทแต่ไม่มีการกู้จริง)  ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี ต้องลาออกจากเลขาธิการพรรค   หลังจากพ้นโทษกลับมาไปตั้งพรรคมหาชนกับเอนก เหล่าธรรมทัศน์  เลือกตั้งปี 2548  ชูแนวคิด “สองนครประชาธิปไตย” แต่คนไทยไม่เก็ตได้ส.ส.มาแค่ 2 คนเท่านั้น

คนสุดท้ายที่ออกจากพรรคแล้วต้องพูดถึงก็คือ “กำนันสุเทพ” หรือ “เทพเทือก” สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคคนที่ 14 ( 5 มี.ค.2548-4 ก.ค.2554 )  เป็นแกนนำของพรรคคนสำคัญที่ปั้นอภิสิทธิ์จนได้เป็นนายกฯ คนล่าสุดของพรรค  ต้องลาออกจากตำแหน่งแม่บ้านพรรคเพื่อมาเป็นเลขาธิการ กปปส. นำมวลชนลงถนนขับไล่ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่บริหารประเทศผิดพลาด ทั้งเรื่องบริหารจัดการน้ำ โกงจำนำข้าว ออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย ฯลฯ  หลังรัฐประหาร 2557 ประกาศไม่เล่นการเมืองเด็ดขาด  แต่ต้องกลืนน้ำลายเพื่อชาติร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย เลือกตั้งคราวที่แล้วได้ส.ส.มาแค่ 5 คน ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อพรรคเป็นรวมพลังพร้อมมีข่าวว่าอาจไปรวมพรรคกับพรรครวมไทยสร้างชาติ  ล่าสุดก็มีกรณีของกรณ์ที่ไปพรรคกล้า  พีระพันธุ์ตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ  หมอวรงค์กับถาวรไปตั้งพรรคไทยภักดี  ฯลฯ       ทั้งหมดคือที่เห็นและเป็นไปของพรรคประชาธิปัตย์  แม้ได้ชื่อว่าเป็นสถาบันทางการเมือง เป็นพรรคการเมืองที่เก่าแก่สุดในประเทศไทย แต่การเมืองภายในพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่เคยนิ่งไม่เคยสงบ     มีคลื่นใต้น้ำให้เห็นอยู่บ่อยๆ  มีถ่ายเลือดโลหิตไหลเป็นข่าวใหญ่อยู่บ่อยครั้ง  อนาคตข้างหน้าก็ยังไม่รู้ว่าจะลูกผีลูกคน ใครเป็นแฟนคลับพรรคนี้ก็ต้องลุ้นกันต่อไปว่าจะมีใคร  “ไหลเข้า-ไหลออก” อีกบ้าง  จะมีเบอร์ใหญ่แกนนำคนไหนเดินออกจากพรรคไปอีกไหม และในการเลือกตั้งทั่วไปเที่ยวหน้าจาก 53 คนจะเหลือเท่าไหร่

 

/////////////////////

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สีกากียอมรับ "บิ๊กต่าย" ไม่หวั่นโดนบางฝ่ายบีบวางมาตรฐานแต่งตั้ง "ตร." "เอก อังสนานนท์" คือผู้ยืนยัน
"หลวงพี่น้ำฝน" แจงสั่งตามลูกศิษย์ ส่งตัวให้ตร. ยืดอกรับผิด ย้ำไม่สนับสนุนความรุนแรง เตือน "พระปีนเสา" ปากจะพาเดือดร้อน
"ศปช." ย้ำ "ภาคใต้" ฝนกระหน่ำต่อเนื่อง “ภูมิธรรม” กำชับเร่งช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
"ภรรยา-ลูกสาว" ของหมอบุญ เข้ามอบตัวกับตร. ตามหมายจับร่วมกันฉ้อโกง กว่า 7.5 พันล้านบาท
“บิ๊กก้อง” สั่ง ปอศ.ส่งสำนวน ‘หมอบุญ’ ฉ้อโกงปชช.-หลอกลวงลงทุน ให้ดีเอสไอ เป็นคดีพิเศษ
"พิชัย" นำทีมพณ.เจรจา รมต.การค้า 7 เขตเศรษฐกิจเอเปค เพิ่มเชื่อมั่นไทยเป็นศูนย์กลางผลิตสินค้าอุตฯสมัยใหม่
หนุ่มเจ้าของบริษัท ผวา พบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดซุกซ่อนอยู่ใต้ท้องรถยนต์เก๋ง
แนะยุบ กกต.ทิ้ง เทพไท แฉ เลือกตั้ง อบจ.เมืองคอนซื้อเสียงเปิด เผย โวย กกต.นั่งดูตาปริบๆ แนะยุบทิ้งดีกว่ามั้ย
"เชน ธนา" พาสื่อทัวร์โกดัง ยันสินค้าอยู่ครบ ไม่ได้แอบขายเอาเงินไปใช้ตามข่าว ย้ำชัดไม่ได้โกงคู่กรณี
ตร.จ่อเรียก “เอก สายไหมฯ” สอบอีกครั้ง หลังให้การขัดแย้งพยาน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น