ติดตามต่อเนื่อง จากกรณี นายวิวัฒน์ สมบัติหลาย ประธานกลุ่มธรรมาภิบาลเครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอร์รัปชั่น เข้ายื่นหนังสือถึง พลตรี ธำรงโรจน์ เต็มอุดม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า (ผอ.รพ.รร.6) เพื่อขอให้ตรวจสอบและดำเนินคดี กรณีตรวจพบการปลอมและใช้เอกสารปลอม เพื่อเสนอราคาโครงการจ้างเหมาทำความสะอาดอาคารภายในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ประจำงวด 12 เดือน ด้วยวิธีประกวดราคาเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) วงเงิน จ้างเหมาประมาณ 50 ล้านบาท
หลังจากได้รับการร้องเรียนและการแจ้งข้อมูลจากเครือข่ายของกลุ่มฯ ว่า การจ้างเหมาทำความสะอาดภายในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ตามเอกสารประกวดราคาจ้างด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) เลขที่ 9/2563 ลงวันที่ 28 มกราคม 2563 วงเงินจ้างเหมาประมาณ 50 ล้านบาท น่าจะมีการดำเนินการไม่เป็นไปตามร่างขอบเขตของงาน ไม่ถูกต้องตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560
เนื่องจากคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาฯ ได้ทำการปรึกษานายทหารพระธรรมนูญ ก่อนมีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นสมควรให้พิจารณาตัดสินให้ บริษัท N เป็นผู้ไม่ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้น และถึงแม้จะมีการอุทธรณ์ก็ไม่เห็นด้วยกับคำขออุทธรณ์ เพราะถือเป็นการกระทำการโดยไม่สุจริตมาแต่แรก เหตุจากมีการกระทำการอันเป็นการขัดขวางการแข่งขันอย่างไม่เป็นธรรม มีขบวนการจัดทำเอกสารปลอมและใช้เอกสารปลอม เพื่อให้ตนเองเป็นผู้มีสิทธิเข้าเสนอราคา
โดยทาง TOP NEWS มีรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น สามารถเรียงลำดับไทม์ไลน์ของปัญหาดังกล่าว ได้ดังนี้
1.กรณีการดำเนินจ้างเหมาทำความสะอาดภายในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เป็นสัญญาว่าจ้างครอบคลุมจำนวน 15 อาคาร ระยะเวลา 12 เดือน หรือ ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2561 ถึง 30 พ.ย. 2562 ในอัตราเดือนละ 4,066,666 บาท รวมวงเงินทั้งสิ้น 48,799,992 บาท
2. เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2562 โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ประกาศเผยแพร่การจัดซื้อจัดจ้างทางเว็บไซด์โรงพยาบาล และกรมบัญชีกลาง เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2562 เพื่อให้สาธารณชนวิจารณ์ โดยมีบริษัทเอกชนหลายแห่ง ร่วมทำข้อเสนอแนะและวิจารณ์ร่างขอบเขตของงาน ตามลำดับ และมีเงื่อนไขสำคัญในร่างขอบเขตของงาน หรือ ทีโออาร์ คือ คุณสมบัติของผู้ประกวดราคา หรือ เสนอราคา ต้องมีประสบการณ์ในการรับเหมา ทำความสะอาดในสถานพยาบาล และ ทำความสะอาดสำนักงานสูง โดยต้องแสดงหนังสือรับรองผลงานและสำเนาสัญญาจ้างที่ครบกำหนดแล้วจากหน่วยงานนั้น ๆ
รวมถึงยังต้องมีความพร้อมในแรงงาน คือ มีจำนวนผู้ควบคุมงานและพนักงานทำความสะอาดที่เพียงพอกับความต้องการของโรงพยาบาล โดยหัวหน้าผู้ควบคุมงานและพนักงานทำความสะอาด จะต้องเป็นพนักงานของผู้เสนอราคา โดยต้องไม่เป็นคนต่างด้าวและไม่เป็นโรคติดต่อร้ายแรง มีการทำประกันสังคมถูกต้องตามกฎหมาย
และ ผ่านการฝึกอบรมด้านการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคในโรงพยาบาล ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน HA , ISO หรือ JCI อย่างใดอย่างหนึ่ง เกี่ยวกับการจัดการขยะมูลฝอยอันตราย ชนิดขยะเคมีบำบัดและการอบรมอัคคีภัยจากโรงพยาบาลของรัฐ หรือ หน่วยงานสาธารณสุข พร้อมใบประกาศนียบัตร หรือ หนังสือรับรองการฝึกอบรม (มีอายุไม่เกิน 2 ปี ) จำนวน 209 คน และ มีพนักงานทำความสะอาดสำรอง เป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 10 คน ในกรณีที่พนักงานทำความสะอาดหลักไม่สามารถทำงานได้
3.วันที่ 18 ก.พ. 2563 คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาฯ ตรวจสอบเอกสาร และ คุณสมบัติ แจ้งว่ามีผู้เสนอราคาจำนวน 3 ราย คือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แคร์ แอนด์ คลีน , บริษัทมัดชา เซอร์วิส จำกัด และ บริษัท N ที่มีปัญหาตรวจพบความไม่ถูกต้อง เรื่อง การจัดทำเอกสารปลอม ประกอบการประมูลจ้างงาน
4.วันที่ 4 มี.ค. 2563 และ 6 มี.ค. 2563 โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ได้ทำหนังสือถึงโรงพยาบาลภูมิพลฯ ให้ตรวจสอบเอกสาร หนังสือรับรอง และ รายชื่อผู้ผ่านฝึกอบรม จัดการขยะ และการแพร่กระจายเชื้อ บริษัท N ที่เข้าร่วมประมูล รวมถึงขอให้ หน่วยป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ตรวจสอบเอกสารของบริษัท มัดชา เซอร์วิส จำกัด
5. คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาฯ แจ้งผลการตรวจสอบเอกสารและคุณสมบัติ ประกอบด้วย
– ห้างหุ้นส่วนจำกัด แคร์ แอนด์ คลีน มีคุณสมบัติไม่ถูกต้องตามที่กำหนดในเอกสารประกวดราคาจ้างฯ รวมถึงไม่ระบุรายชื่อ และจำนวนพนักงานที่เข้ารับการอบรม จึงถือว่าเป็นผู้เสนอราคาที่มีคุณสมบัติไม่ถูกต้อง คณะกรรมการฯจึงไม่รับพิจารณาข้อเสนอ ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในเอกสารประกวดราคา
-บริษัท N มีคุณสมบัติไม่ถูกต้องตามที่กำหนดไว้ ในประกาศโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือ ทีโออาร์ เรื่อง การประกวดราคาจ้างเหมาทำความสะอาด เนื่องจากจำนวนพนักงานที่ผ่านการอบรมของบริษัท N เสนอไม่ตรงกับข้อมูลของหน่วยงานที่ออกหนังสือรับรอง จึงถือว่าเป็นการยื่นเอกสารอันเป็นเท็จ คณะกรรมการฯจึงตัดออกจากการเป็นผู้เสนอราคา
-บริษัท มัดชา เซอร์วิส จำกัด มีคุณสมบัติ รวมทั้งเอกสารทางด้านเทคนิคของผู้เสนอราคา ถูกต้องตามเงื่อนไขที่ทางราชการกำหนด
และเนื่องจากมีผู้เสนอราคาที่มีคุณสมบัติถูกต้อง ตามทีโออาร์เพียงรายเดียว คณะกรรมการฯ จึงมีมติให้ บริษัท มัดชา เซอร์วิส จำกัด เป็นผู้ผ่านการคัดเลือก
6.เนื่องด้วย บริษัท มัดชา เซอร์วิส จำกัด เสนอราคา 53,191,992 บาท ซึ่ งสูงกว่าราคากลาง คณะกรรมการฯจึงมีการต่อรองราคา คงเหลือ 51,192,000 บาท โดยแม้จะสูงกว่าราคากลางร้อยละ 4.9 แต่ไม่เกินร้อยละ 10 ก่อนเสนอให้จ้างเหมา บริษัท มัดชา เซอร์วิส จำกัด ตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560
7.วันที่ 29- 30 มิ.ย. 2563 โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า แจ้งผลการจัดซื้อจัดจ้าง ให้ผู้เสนอราคาทุกรายทราบ และประกาศผู้ชนะการเสนอราคา ประกวดราคาจ้างเหมาทำความสะอาด ตามคำสั่งของผู้บัญชาการทหารบก ในการอนุมัติให้ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ดำเนินการจ้างเหมาทำความสะอาดอาคารภายใน เป็นเวลา 12 เดือน วงเงินทั้งสิ้น 51,192,000 บาท และ แจ้งผลการพิจารณาให้ผู้เสนอราคาทุกรายรับทราบ
8.วันที่ 2 ก.ค. 2563 บริษัท N ยื่นขออุทธรณ์ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะผู้ชนะเสนอราคา เสนอราคาสูงกว่าวงเงินงบประมาณ
9.วันที่ 13 ก.ค. 2563 คณะกรรมการฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ บริษัท N เป็นผู้ไม่ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้น และไม่เห็นด้วยกับคำอุทธรณ์
10. บริษัท N ส่งรายงานความเห็นอุทธรณ์ ถึง คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ และข้อร้องเรียน กรมบัญชีกลาง
11. วันที่ 7 ต.ค. 2563 คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ และข้อร้องเรียน กรมบัญชีกลาง แจ้งผลการพิจารณาอุทธรณ์ โดยอ้างว่าร่างขอบเขตของงาน หรือ ทีโออาร์ มีรายละเอียดไม่ชัดเจน พร้อมให้ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ยกเลิกการจัดซื้อจัดจ้าง และดำเนินการใหม่ให้ถูกต้อง
12.วันที่ 20 – 22 ต.ค.2563 โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ยกเลิกการจัดซื้อจัดจ้าง และแจ้งผลการพิจารณาคณะกรรมการอุทธรณ์ฯ กรมบัญชีกลาง ให้ บริษัท N และ บริษัท มัดชา เซอร์วิส จำกัด รับทราบ
13. วันที่ 22-29 ธ.ค.64 โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ดำเนินการจ้างเหมาทำความสะอาด ด้วย ร่างขอบเขตของงาน หรือ ทีโออาร์ และ ประกาศจัดซื้อจัดจ้าง ใหม่ทั้งหมด โดยการให้เสนอราคา ด้วยวิธีการทางทางอิเล็คทรอนิกส์ เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2565 โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาผลประกวดราคา