แพทย์ไขข้อสงสัย ยา "บำรุงสมอง" มีจริงไหม จำเป็นต้องใช้หรือเปล่า หากไม่ใช้จะส่งผลกระทบต่อการรักษาไหม มีคำตอบให้แล้ว
ข่าวที่น่าสนใจ
นายแพทย์สมศักดิ์ เทียมเก่า แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรศาสตร์และประสาทวิทยา โรงพยาบาลราชพฤกษ์ ไขข้อสงสัยประชาชนประเด็น ยา “บำรุงสมอง” มีอยู่จริงไหม? คุณสมบัติตามโฆษณาหรือเปล่า แล้วจำเป็นต้องทางไหม มีคำตอบให้แล้ว
ยา “บำรุงสมอง” คือ ยาที่ใช้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง ออกฤทธิ์โดยการเพิ่มเลือดไปเลี้ยงสมองมากขึ้น เพิ่มการไหลเวียนของเม็ดเลือดแดงสู่สมองให้มากขึ้น เพิ่มปริมาณออกซิเจนให้สมองมากขึ้น ส่งผลให้สมองทำงานได้ดีขึ้น โดยอาจส่งผลให้ความคิด ความจำดีขึ้น ลดการหลงลืม ทำให้อาการเวียนหัว มึนงงศีรษะ หนักหัว เบาหัว เดินเซ วูบ หูอื้อ เสียงดังในหู เสียงดังในหัว และแขนขามีแรงมากขึ้น
ดังนั้น เมื่อผู้ป่วยมีอาการผิดปกติดังกล่าวหาหมอที่โรงพยาบาลได้ยามาทานอาการยังไม่ค่อยดีขึ้น ก็จะพยายามมองหายาบำรุง สมอง โดยการพบหมอที่คลินิก หรือหาซื้อยาจากร้านค้าออนไลน์
ยาบำรุง สมองมีจริงหรือไหม คำตอบ คือ มีจริงครับ ยาที่มีใช้ในโรงพยาบาลของประเทศไทย เช่น
- trental
- somazina
- cerebrolysin
- sermion
- sturgeron
- sibelium
- encephabal
- nootropil
- tanakan
- tebonin
- hydergine
- duxaril
- และ cavinton
ซึ่งแพทย์บางท่านเรียกยากลุ่มนี้ว่า ยาผีบอก เพราะ ยาเหล่านี้มีกลไกการออกฤทธิ์ที่ยังไม่ทราบแน่ชัด และผลการรักษาก็มีหลักฐานทางการแพทย์ โดยการศึกษาส่วนใหญ่ทำการศึกษาในผู้ป่วยจำนวนไม่มากนัก และใช้รักษาอาการผิดปกติทางระบบประสาทที่ผมยกตัวอย่างข้างต้น ก็เป็นอาการที่ไม่ชัดเจนว่าเป็นอาการอะไรแน่ เช่น รู้สึกมึน ๆ งง ๆ รู้สึกหนัก ๆ หัว แต่บางส่วนก็บอกว่ารู้สึกหนักหัว เป็นต้น
ยาบำรุง สมองมีประโยชน์จริงหรือไม่ คำตอบ คือ มีประโยชน์จริง ๆ เพราะยาทุกชนิดก็มีผลการศึกษาทางการแพทย์อย่างถูกต้องตามมาตรฐานการศึกษาในมนุษย์ของคณะกรรมการจริยธรรมการศึกษาในมนุษย์ เพราะ ถ้าไม่มีการศึกษาที่ได้มาตรฐาน ก็คงไม่สามารถผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาของแต่ละประเทศได้ จึงมีการนำมาใช้ร่วมรักษากับยาที่ใช้รักษาหลัก
ยาบำรุง สมองทั้งหมดเป็นยาที่จัดอยู่นอกบัญชียาหลักแห่งชาติทั้งหมด หมายความว่า ยาดังกล่าวนั้นยังมีข้อมูลจากการศึกษาถึงประสิทธิภาพและความคุ้มค่าไม่มากพอ จึงไม่ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการพิจารณาบัญชียาหลักแห่งชาติ หรืออาจเป็นยาใหม่ล่าสุดที่ต้องใช้โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ และยังไม่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาบัญชียาหลักแห่งชาติ ซึ่งยานอกบัญชีนั้นจะมีทั้งแบบ
- เบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลจากภาครัฐได้
- และแบบที่เบิกไม่ได้
มีทั้งราคาสูงและราคาปกติ ยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติไม่ได้หมายความว่ามีประสิทธิภาพดีกว่ายาที่อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ
ยาบำรุง สมองจะเบิกค่ารักษาพยาบาลจากภาครัฐได้เป็นบางส่วน ดังนั้น ผู้ป่วยต้องรับผิดชอบค่ายาดังกล่าวเอง จึงเกิดคำถามจากผู้ป่วยและครอบครัวว่า ไม่ใช้ได้หรือไม่ ถ้าไม่สามารถรับผิดชอบค่ายาดังกล่าวได้ จะส่งผลทำให้การรักษาโรคไม่ได้ผลหรือไม่ คำตอบ คือ ไม่ใช้ก็ได้ เพราะอย่างที่ผมบอกข้างต้นแล้ว ยาบำรุง สมองเป็นยาที่ใช้ร่วมรักษากับยาหลัก
ดังนั้น ผู้ป่วยก็ยังมียาหลักที่ใช้รักษาโรค ผมจึงเปรียบยาบำรุง สมองว่าเหมือนการสวมใส่เครื่องประดับ ซึ่งไม่ได้มีความจำเป็นในการสวมใส่เครื่องประดับ แต่คนที่มีฐานะ พอที่จะมีเงินซื้อเครื่องประดับมาใส่ก็ใส่ เช่นเดียวกัน ใครที่พอจะรับผิดชอบค่ายาบำรุง สมองได้ก็ใช้ ถ้าไม่พร้อมก็ไม่จำเป็น ย้ำว่าไม่มีผลเสียต่อการรักษา
ข้อมูล : Somsak Tiamkao
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
