วันที่ 14 พ.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รายงานว่า เกษตรกรชาวนาในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ เริ่มฤดูการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวหอมมะลิกันแล้ว โดยการว่าจ้างรถเกี่ยวมาเกี่ยวข้าวในแปลงนา ในราคา 650-700 บาทต่อไร่ แล้วแต่ละพื้นที่ ก่อนนำไปขายให้กับโรงสีข้าวที่รับซื้อในราคาข้าวเปลือกสดอยู่ที่กิโลกรัมละ 12 บาท ซึ่งปีนี้ชาวนานิยมขายข้าวเปลือกสดมากกว่าตาก เพราะราคาข้าวเปลือกสดค่อนข้างสูงและไม่ต้องเสียเวลาในการตาก ที่ต้องใช้เวลาหลายวันในการตากข้าวให้แห้ง ซึ่งถึงแม้ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิปีนี้จะสูง แต่เมื่อหักลบต้นทุนรายจ่ายการทำนาแล้ว ยังถือว่าราคายังอยู่ในเกณฑ์ต่ำอยู่ แต่อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวพบว่า ชาวบ้านที่บ้านสมบูรณ์ ม.6 ต.ชุมแสง อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ ได้ใช้วิธีลดต้นทุนการทำนาโดยการพากันชวนญาติ พี่ น้อง ประมาณ 10 กว่าคนมาร่วมแรงกันลงแขกเกี่ยวข้าวแบบดั้งเดิม ซึ่งทุกวันนับว่าหาดูวิถีชีวิตชนบทแบบนี้กันได้ยากขึ้น และพอถึงช่วงพักเที่ยงเจ้าภาพที่เป็นเจ้าของนาก็ทำกับข้าวมาเลี้ยงคนที่มาช่วยเกี่ยวข้าว ปูเสื่อกินกันตามใต้ร่มไม้ ซึ่งการลงแขกเกี่ยวข้าวสามารถลดต้นทุนการทำนาลงได้มากพอสมควร ทั้งค่ารถไถ่นา ค่าปุ๋ยและค่ารถเกี่ยว ที่ปีนี้ราคาปรับขึ้นตามน้ำมันที่แพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นางจริยา ดาทอง เจ้าของนา บอกว่า วันนี้ได้นัดชวนญาติ พี่ น้อง มาช่วยกันลงแขกเกี่ยวข้าว เพื่อลดต้นทุนในการเก็บเกี่ยวผลผลิตของปีนี้ เพราะว่ารถเกี่ยวก็ราคาแพงขึ้น เป็นไร่ละ 700 บาท จากปีที่แล้วอยู่ที่ 550-600 บาท นาที่เกี่ยวอยู่มี 10 กว่าไรเป็นข้าวหอมมะลิทั้งหมด ส่วนราคาข้าวสดปีนี้อยู่ที่ ก.ก. 12 บาทก็ยังถือว่าต่ำอยู่ ปีที่แล้วราคา ก.ก. 7-8 บาทก็จริง แต่ค่ารถไถนา ค่ารถเกี่ยวและค่าปุ๋ยก็ไม่ได้แพงขนาดนี้ ปีนี้ราคาปุ๋ยกระสอบละพันกว่าบาท และการเกี่ยวมือแบบนี้ไม่ทำให้เมล็ดข้าวร่วงด้วย ที่มากันก็มีแต่ญาติๆกัน พอพักเที่ยงก็ทำกับข้าวปูเสื่อเลี้ยงกินกันตามใต้ต้นไม้ มีแต่ความสุข สนุกสนานเฮฮาตามประสาพี่น้อง เป็นวิถีชีวิตแบบชนบท ซึ่งทุกวันจะหาโอกาสแบบนี้ได้ยากมาก ส่วนมากจะมีแต่ใช้รถเกี่ยวข้าวกันหมดแล้ว.
ภาพ/ข่าว ทีมข่าวภูมิภาค จ.สุรินทร์
เรียบเรียง / ชูชัย ดำรงสันติสุข ศูนย์ข่าวภูมิภาค สำนักข่าว TOP NEWS ภาคอีสาน