นับถอยหลัง บิ๊กตู่ไปรวมไทยสร้างชาติ

หลังประชุมเอเปคจบ  ส่งผู้นำโลกกลับบ้านเสร็จ  การเมืองไทยกลับมาร้อนแรงไฟลุกแน่   จับตาพรรครวมไทยสร้างชาติเตรียมเล่นใหญ่  ลุ้น  21 พ.ย.เล็งส่งเทียบเชิญบิ๊กตู่ขึ้นเป็น “แคนดิเดตนายกฯ” ของพรรค  แกนนำวิเคราะห์เดินเกมเร็วเปิดหน้าไวได้เปรียบ  ชูนำบ้านเมืองสงบ สร้างบรรยากาศดีเอื้อ  “เอกชน -ธุรกิจ” ลงทุน   เล็งหาเหตุผลอธิบายคนไทยทำไมต้องเลือกบิ๊กตู่เหลือเวลา 2 ปีเป็นนายกฯ  ตั้งเป้าดึงมือเศรษฐกิจคนรุ่นใหม่ขับเคลื่อนนโยบาย   

ยิ่งเวลาประชุมสุดยอดผู้นำเอเชียแปซิฟิค หรือ เอเปค 2022 ใกล้เข้ามาเท่าไหร่  ประเด็นการเมืองจากนี้ก็จะร้อนแรงขึ้นตามลำดับ  อย่าลืมว่าหลังจบประชุมใหญ่ระดับโลกคราวนี้เสร็จสิ้น ระหว่าง 14-19 พ.ย.2565  เชื่อแน่ว่าการเมืองไทยจะร้อนแรงขึ้นอย่างแน่นอนและคงร้อนถึงขีดสุดขั้นปรอทแตก โดยเฉพาะอนาคตทางการเมืองของผู้นำประเทศอย่าง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม จะไปในทิศทางไหน   แต่ดูแนวโน้ม 99.99 เปอร์เซ็นต์นายกฯไปต่อทางการเมืองแน่นอนอยู่ที่ว่าจะไปกับเรือลำเก่าอย่างพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)หรือไปกับเรือลำใหม่ไฉไลท์กว่าอย่างพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่งานนี้หลายฝ่ายฟันธงตรงกันบิ๊กตู่น่าจะไปอยู่กับพรรคใหม่อย่างพรรครวมไทยสร้างชาติแหง่ๆ เพราะสัญญาณหลายตัวบ่งชี้แนวโน้มไปทางนั้น  มากกว่าที่จะจมปลักอยู่กับพรรคเสื่อมทรุดขาลงอย่างพรรคพลังประชารัฐ

จับสัญญาณพรรครวมไทยสร้างชาติ  มีหัวหน้าที่ชื่อ “เสี่ยตุ๋ย” หรือ “เสี่ยพี”  พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ก็เป็นที่ปรึกษานายกฯ เป็นน้องรักนักการเมืองที่ถูกคอถูกโฉลกถูกชะตากันเป็นอย่างมาก บิ๊กตู่อายุ 68 ปี ส่วนพีระพันธุ์อายุ 63 ปี  บุคคลิกลักษณะนิสัยก็คล้ายคลึงกัน ซื่อสัตย์ ตงฉิน เทิดทูนสถาบัน ยอมหักไม่ยอมงอ เด็ดขาด โผงผาง ไม่ทนกับความชั่ว  ไม่ก้มหัวให้คนโกง  ไม่ยอมคนทำร้ายชาติ  ไม่สยบให้คนทำลายบ้านเมือง   เรียกว่าบิ๊กตู่กับเสี่ยตุ๋ยแถมจะถอดแบบโครโมโซมกันมาเลย  จึงไม่แปลกที่ทั้งสองคนจะรักใคร่ชอบพอกันมาก  เปรียบดั่งโชคชะตาฟ้าลิขิตให้ทั้งคู่ต้องมาทำงานเพื่อชาตอบ้านเมืองเคียงคู่กันในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ     ส่วนเลขาธิการพรรคก็เป็นนักการเมืองหนุ่มอนาคตไกล อย่าง “เสี่ยขิง” เอกนัฏ พร้อมพันธุ์  วัย 36 ปี ที่พกประสบการณ์ข้นคลักมาเต็มกระเป๋า ทั้งอดีต ส.ส.กทม. เขตทวีวัฒนา อายุน้อยสุด 25 ปี   อดีตรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์  โฆษกกปปส.พ่วงเลขาฯส่วนตัวของ “ลุงกำนัน” สุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำเบอร์ต้นของกปปส.  ลำพังแค่ชื่อหัวหน้ากับเลขาธิการพรรคแค่นี้ก็รู้แล้วว่าพรรคการเมืองนี้เป็น “กัลยาณมิตร”  กับบิ๊กตู่มากมายขนาดไหนเพราะในพรรคมีแต่คนรักใคร่ชอบพอกันทั้งนั้น

ไหนจะ “ด็อกเตอร์สามสี” ไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีตแกนนำพรรคประชาธิปัตย์    ที่ล่าสุดไขก๊อกออกจากพรรคเก่าแก่   ประกาศขอมีลมหายใจสุดท้ายเป็นของตัวเอง    ก่อนถูกบิ๊กตู่ตั้งเป็นที่ปรึกษานายกฯไปหมาดๆ  อนาคตก็คงจ่อคิวตบเท้าเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติแน่นอน   ส่วนเนื้อในก็มีขุนพลตัวตึงจากอดีตพรรคประชาธิปัตย์มากองกันอยู่เพียบ ทั้ง “เสี่ยน้อย” วิทยา แก้วภราดัย อดีตรมว.สาธารณสุข ผู้แทนนครศรีธรรมราชหลายสมัย   หรือ ขุนพลประจัญบานอย่าง “เเม่ทัพลูกหมี” ชุมพล จุลใส เบอร์ใหญ่ชุมพร  และ  “กำนันศักดิ์” พงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว นายกฯอบจ.สุราษฎร์ธานี  ที่ก่อนหน้านี้เคยนำส.จ.สุราษฎร์ธานี 20 เขต กว่า 40 ชีวิต มาแสดงตัวสนับสนุนพรรคที่  ซอยอารีย์  5  กรุงเทพฯ เมื่อ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา  จนทำให้พีระพันธุ์มั่นใจมากว่าจะกวาดส.ส.ภาคใต้ได้เป็นกอบเป็นกำ  เบื้องต้นวงในประเมินเกิน 20 คน จาก 5 จังหวัดที่เป็นฐานที่มั่นสำคัญ  ไล่ตั้งแต่ ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา   เพราะตัวขุนพลและแม่ทัพแต่ละคนล้วนที่มีอยู่ในมือล้วนเป็น  “ทีเด็ด” และเป็น “ของจริง” ทุกคน   ขณะที่บรรดาผู้สมัครของพรรคทุกคนก็เฟ้นแต่ระดับหัวกะทิ  โดยแกนนำของพรรค  ไม่มีระบบเด็กฝาก ไม่มีประเภทลูกส.ส. ลูกผู้ใหญ่ เมีย พี่น้องคนรู้จักมาลงให้เสียของ เสียโควต้าพรรค   รอบนี้แว่วว่า เอาแต่พวกคะแนนดี ทำงานหนัก ชาวบ้านชอบ สู้งาน ถึงลูกถึงคนลงชิงชัยทุกเขต  มั่นใจมากว่าในพื้นที่ภาคใต้  โดยฌแพาะ 3 จังหวัดเป้าหมายคือ สุราษฏร์ธานี  นครศรีธรรมราช พัทลุง  จะเบียดเจ้าถิ่นอย่างพรรคประชาธิปัตย์กระเจิง  บี้พรรคพลังประชารัฐให้ย่อยยับ  รุกไล่ภูมิใจไทยให้ขวัญเสียได้แน่นอน   ขณะที่บิ๊กตู่หากตกปากรับคำมาเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคให้จริงๆ รับรองว่าจะได้รับการต้อนรับอย่างอุ่นหนาฝาคั่งอย่างแน่นอน   โดยเฉพาะจากพี่น้องชาวปักษ์ใต้ที่รักคนจริงอย่างบิ๊กตู่สุดหัวใจ

ต่างจากพรรคพลังประชารัฐบ้านเก่าเรือแป๊ะลำเดิม   ที่มีแต่พวกงูเห่ารอแว้งกัด  ในพรรคก็มีแต่นักการเมืองเขี้ยวรากดิน  รวมพลบรรดา “เสือ สิงห์ กระทิง แรด”  บริหารประเทศไปก็ต้องระวังหลังไป  ไม่รู้จะถูกคนในพรรคแทงหลังเมื่อไหร่  แถมอนาคต “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ก็กระสันจะดึง “ผู้กองน้องรัก”  อย่างร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่เคยก่อเหตุมีเรื่องมีราวใหญ่โตปีนเกลียวขบเหลี่ยม  วางแผนแจกกล้วยจะล้มนายกฯ  จนถูกปลดพ้นความเป็นรัฐมนตรี  กลับมาช่วยงานพรรคอีกทั้งๆที่ขับไล่ไสส่งพ้นพรรคไปแล้ว  เป็นใครจะทนอยู่ไหวในพรรคสารพัดพิษแบบนี้  ลุงป้อมเล่นการเมืองบีบไข่น้องเล็ก 3 ป.อย่างบิ๊กตู่จนหน้าเขียวไม่เหลือทางเดินในพรรคให้เลย  เที่ยวนี้จึงไม่แปลกที่บิ๊กตู่จะต้องหาที่อยู่ใหม่เพราะคับที่อยู่ได้คับใจอยู่ยาก  ล่าสุดขอให้จับตา 21 พ.ย. หลังประชุมเอเปคจบ  ข่าวว่าอาจมีเคลื่อนไหวสำคัญจากพรรครวมไทยสร้างชาติในการเดินเกมส่งเทียบเชิญบิ๊กตู่มาเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรค เรียกว่าเปิดหน้าเอาฤกษ์เอาชัยกันไปก่อนเลย เพราะเวลาจากกนี้ก็เหลือไม่มากแล้ว  จะคิดอ่านทำการอะไรก็ต้องรีบเข้าเพราะวัน น. เวลา ว.ในการเลือกตั้งก็งวดเข้ามาทุกที  แกนนำในพรรครวมไทยสร้างชาติมองว่าถ้าบิ๊กตู่เปิดหน้าเร็วพรรครวมไทยสร้างชาติก็จะได้ขยับเรื่องอื่นๆตามได้ง่ายขึ้น  ตอนนี้คัดผู้สมัครครบแล้ว นโยบายก็ทำไปมากแล้ว ถ้าได้หัวอย่างบิ๊กตู่มาเปิดตัวเร็ว  พรรคก็จะเดินหน้าปรับโหมดสู่การเลือกตั้งได้ทันที

“ ตอนท่านยังไม่มาเราคิดไว้แล้วว่าน่าจะได้ส.ส.ระดับหนึ่ง ราว 17 -20 คน  แต่ถ้าท่านมาเราคิดว่า ความนิยมในตัวท่านบวกกับผลงานจะทำให้เราได้ส.ส.ทะลุ 50 คนได้ไม่ยาก เพราะจุดแข็งของพล.อ.ประยุทธ์คือเรื่องของความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ถ้าท่านเป็นนายกฯทุกอย่างจะนิ่ง เอกชน ภาคธุรกิจจะมั่นใจในเรื่องเสถียรภาพของบ้านเมือง ความสงบเรียบร้อยของประเทศจะมีมาก  แต่จุดที่ต้องเพิ่มคือการอธิบายเหตุผลว่าทำไมต้องเลือกคนเหลือวาระ 2 ปีเป็นนายกฯ  เรื่องของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ  ที่ต้องหาคนรุ่นใหม่คนที่เชี่ยวชาญจริงๆมาช่วยกันขับเคลื่อนนโยบาย” วงในพรรครวมไทยสร้างชาติระบุ  มั่นใจเกิน 100 ว่าพล.อ.ประยุทธ์มาแน่

เอาจริงๆ ครบวาระสภาผู้แทนราษฎร 23 มี.ค.2566 เหลือเวลาแค่ 4 เดือนเท่านั้น  ก่อนหน้านี้กกต.เคยเขียนไทมไลน์เป็นตุ๊กตาคร่าวๆให้ดูว่า  วันเวลาเร็วสุดที่จะเลือกตั้งได้หากบิ๊กตู่อยู่ครบวาระ  คือ วันอาทิตย์ที่ 7 พ.ค.2566  อย่างไรก็ตาม ในรัฐธรรมนูญ ม. 97 (3) กำหนดคุณสมบัติบุคคลผู้มีสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส.ไว้ชัดเจนว่า   “ เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งแต่เพียงพรรคการเมืองเดียวเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าเก้าสิบวันนับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่ในกรณีที่มีการเลือกตั้งทั่วไปเพราะเหตุยุบสภา ระยะเวลาเก้าสิบวันดังกล่าวให้ลดลงเหลือสามสิบวัน ”

เพราะฉะนั้นหากบิ๊กตู่ลากยาวจนครบวาระ 23 มี.ค.2566  วันสุดท้ายที่สามารถลาออกหากประสงค์จะย้ายพรรคและไม่ติดเดดล็อค 90 วันตามรัฐธรรมนูญก็จะเป็นวันที่ 7 ก.พ.2566  แต่ถ้าให้ชัวร์ต้องลาออกก่อนหน้านั้นจะปลอดภัยที่สุด อันนี้ตั้งอยู่บนสมมุติฐานว่าการเลือกตั้งเกิดขึ้นในวันที่ 7 พ.ค. 2566  แต่ถ้ากกต.จัดการเลือกตั้งเร็วกว่านั้น  พวกที่ไม่ลาออกไม่ย้ายพรรคก่อน 7 ก.พ.2566 ก็จะตายหมู่ย้ายพรรคไม่ได้เลย  เพราะฉะนั้นตรงนี้บรรดาส.ส.ต้องตามข่าวกันให้ดี  ยกเว้นมั่นใจว่าบิ๊กตู่ยุบสภาแน่ระยะเวลาสังกัดพรรคการเมืองก็จะร่นเหลือแค่ 30 วัน  ตรงนั้นก็จะไม่มีปัญหาเรื่องการย้ายพรรคเพราะหลังประกาศยุบสภา กฎหมายกำหนดว่าจะต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ภายใน 45 วันไม่เกิน 60 วัน  ตรงนั้นก็จะไม่มีปัญหากับการย้ายพรรค   จากนี้ก็ต้องดูว่าบิ๊กตู่จะวางเกมไปสู่การเลือกตั้งอย่างไร   จะเปิดตัวยอมรับว่าไปเป็นหัวพรรครวมไทยสร้างชาติเมื่อไหร่     จะมีใครตามบิ๊กตู่ไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติบ้าง  สุชาติ ชมกลิ่น  ชัยวุฒิ  ธนาคมานุสรณ์  สุริยะ  จึงรุ่งเรืองกิจ  สมศักดิ์ เทพสุทิน  อนุชา นาคาศัย ฯลฯ  และบิ๊กตู่จะเลือกยุบสภาตอนไหนหรือจะลากยาวไปให้ใกล้ๆครบวาระแล้วค่อยยุบ  บริหารประเทศสร้างผลงานเก็บแต้มต่อทางการเมืองไปเรื่อย ๆ  4 เดือน 120 วัน ยังมีเวลาอีกโข หากหวังเล่นการเมืองต่อเป็นนายกฯช่วงท้ายปลายทางอีก 2 ปี  หมดภารกิจเป็นเจ้าภาพเอเปค 2022  ก็ต้องมาลุยการเมืองกันแบบเต็มๆ  ส่วนยุบสภาค่อยไปว่าเอาเดือนมี.ค.ใกล้ครบวาระก็ได้

//////////////////////

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เฝ้าระวังเข้มข้น ประมงสงขลา - พัทลุง ส่งปลานักล่าช่วยพิทักษ์ทะเลสาบสงขลาปลอดปลาหมอคางดำ
โฆษกดีเอสไอ เผยความคืบหน้า เตรียมส่งฟ้อง 'คดีดิไอคอน' ภายใน ธ.ค.นี้ เร่งสอบหลักฐานหลังค้นบ้าน 'สามารถ'
ปรับบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำแบบดั้งเดิม เปลี่ยนสู่แบบพัฒนา ลดเสี่ยง-เลี่ยงโรค
‘โฆษณาที่คุ้มที่สุด’ จากแบรนด์ห้าดาว กวาด 5 รางวัลบนเวที AdPeople Awards 2024 ตอกย้ำจุดยืนความสร้างสรรค์อย่างคุ้มค่า
"เบตงอ่วม" ยะลา ฝนตกหนักต่อเนื่อง "ดินสไลด์" ทับเส้นทางหลายพื้นที่
“พีระพันธุ์” ต่อรองเต็มที่ลดค่าไฟ ของขวัญจากรัฐบาลและกระทรวงพลังงาน
“บิ๊กโจ๊ก” ไม่ทิ้งคนปักษ์ใต้ เร่งรวบรวมสิ่งของไปให้-หลังน้ำลดช่วยซ่อมบ้าน
‘ภูมิธรรม’ สั่งทุกเหล่าทัพ ระดมสรรพกำลัง พร้อมยุทโธปกรณ์ ช่วยเหลือประชาชนพื้นที่น้ำท่วมใต้
“จักรภพ” แจงวาทะร้อน ยันไม่ได้หมายถึงไม่ใส่ใจประชาชน หลัง “ไอซ์ รักชนก” โผล่คอมเมนต์เดือด
ทนายเมีย-ลูก “หมอบุญ” รับลูกความเครียดร้องไห้กลางศาล ขอเมตตาปล่อยตัว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น