วันที่ 15 พ.ย. 65 นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และประธานกรรมการ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด แถลงข่าว เปิดตัวกลยุทธ์ใหม่ภายใต้แนวคิด GRACE โดยมีนายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. /กรรมการและรักษาการแทนผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด และผู้ช่วยศาตราจารย์ ดร. เอกก์ ภทรธนกุล หัวหน้าภาควิชาการตลาด จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และที่ปรึกษาแบรนด์ Thailand Privilege เข้าร่วมงาน
ผู้ว่าการ ททท. ได้กล่าวถึงภาพรวมการท่องเที่ยวไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 เชื่อว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยยังคงเป็นไปตามเป้าหมายไม่น้อยกว่า 10 ล้านคน โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทย เดือนละประมาณ 1.5 ล้านคน ขณะที่การท่องเที่ยวภายในประเทศ ที่เข้าสู่ช่วงฤดูหนาว เชื่อว่าจะทำให้มีการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น แต่ทั้งนี้ ยังต้องจับตาความเสี่ยงในเรื่องของภาวะเศรษฐกิจถดถอย เงินเฟ้อ และวิกฤตพลังงานที่จะส่งผลกระทบกับค่าครองชีพ และการใช้จ่ายของประชาชนในการท่องเที่ยวในประเทศ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า อานิสงส์จากการที่รัฐบาลผ่อนปรนเรื่องวีซ่านักท่องเที่ยว จะช่วยให้เกิดการใช้จ่ายในประเทศเพิ่มขึ้น
ขณะที่ตลาดในประเทศ ยังคงเป็นเรื่องยากที่จะห้ามนักท่องเที่ยวเดินทางออกนอกประเทศ โดย ททท. จะต้องหามาตรการเพื่อมาดึงคนในประเทศเหล่านี้ไม่ให้เดินทางออกนอกประเทศเพิ่มขึ้น
นายยุทธศักดิ์ ระบุอีกว่า จากนโยบายของรมว. ท่องเที่ยวและกีฬา ได้ส่งงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 8,700 ล้านบาทให้กับนายอาคม รมว.คลัง พิจารณา เพื่อนำมาใช้ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 จำนวน 1.5 ล้านสิทธิ วงเงิน 5,400 ล้านบาท และส่วนที่เหลือ 3.3 พันล้านบาท จะเป็นงบประมาณในการกระตุ้นการท่องเที่ยวตามนโยบายของรมว.ท่องเที่ยวฯ คือ การฟื้นประเทศด้วยการท่องเที่ยว ซึ่งในส่วนของงบประมาณกระตุ้นการท่องเที่ยวเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชนนั้น จะต้องนำส่งให้ครม.พิจารณาในปลายเดือนพ.ย.นี้ และคาดว่า จะสามารถเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่ต้นเดือน ธ.ค.นี้
ขณะที่การประชุม APEC 2022 นายยุทธศักดิ์ มองว่า จะเป็นการเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยว เข้ามาเที่ยวประเทศไทยได้มากขึ้น ไม่เพียงแต่ผู้นำประเทศ แต่ยังมีในส่วนของผู้ติดตาม คณะทำงานที่เดินทางมายังประเทศไทย เชื่อว่า หากคนไทยทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดี สร้างความประทับใจให้เกิดขึ้น จะส่งผลดีกับภาพรวมการท่องเที่ยวของไทย จากการที่กลุ่มคนเหล่านี้ก็จะเดินทางกลับมาท่องเที่ยวในประเทศไทยอีกครั้ง และจะช่วยให้จำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาประเทศไทยบรรลุเป้าหมายที่ 18 ล้านคนได้
นายยุทธศักดิ์ ยังได้กล่าวถึง ธุรกิจการท่องเที่ยวของประเทศไทย ว่า มีศักยภาพสูง มีสินค้าและบริการที่ได้มาตรฐานในการตอบสนองต่อพฤติกรรมและความสนใจของกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ กลุ่มหรูหรามีระดับ (Luxury Tourists) ซึ่งมีอัตราการเจริญเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มดังกล่าวถือเป็นตลาดสำคัญที่มีกำลังในการใช้จ่ายเพื่อได้รับประสบการณ์ท่องเที่ยวที่มีคุณค่า ความหมายและแตกต่างอย่างประทับใจ ทั้งยังช่วยส่งเสริมและกระตุ้นการยกระดับสินค้าและบริการด้วยการเพิ่มมูลค่าที่จะนำไปสู่การเพิ่มรายได้ที่จะเข้าประเทศมากขึ้นในอนาคตด้วย