อนาคตการเมืองของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าคงไม่ไปต่อกับเรือแป๊ะลำเก่าที่ชื่อพลังประชารัฐ (พปชร.) แน่นอน และแน่นอนว่า ๙๙.๙๙ คงไปกับพรรคน้องใหม่ที่ชื่อรวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) อย่างแน่นอน เพราะเป็นพรรคน้องใหม่ที่เตรียมการรองรับบิ๊กตู่ทางการเมืองตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ช่วงแรกก็มี “แรมโบ้” ดร.เสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกฯ เป็นคนก่อร่างตั้งพรรค จากนั้นก็เปลี่ยนมือมาให้ “เสี่ยตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกฯ กับ “เสี่ยขิง” เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เข้ามาบริหารจัดการพรรคแทน
ล่าสุดแนวทางไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติของบิ๊กตู่ก็น่าจะชัดเจนเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ หลังพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์อย่าง “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ออกมาเปิดใจเป็นครั้งแรกถึงอนาคตทางการเมืองของ “น้องเล็กน้องรัก” ในกลุ่ม ๓ ป.อย่างบิ๊กตู่ ที่ลุงป้อมให้สัมภาษณ์เปิดปากเป็นครั้งแรกยอมรับว่าบิ๊กตู่จะย้ายไปอยู่กับพรรคใหม่อย่างรวมไทยสร้างชาติ “ พล.อ.ประยุทธ์ กับผมก็เป็นพี่เป็นน้องกัน ก็ไม่มีอะไร ท่านอยากไปอยู่นู่นก็ไป ผมไม่ว่าอะไร (แล้วยิ้ม) ผมไม่มีปัญหาอะไร ผมไม่มีความขัดแย้งกันเลย อยู่ด้วยกันมา ๔๐-๕๐ ปีแล้ว จะมาขัดแย้งอะไรกัน…..ท่านจะไป ก็ไป ผมไม่ว่าอะไร ผมไม่น้อยใจหรอก ผมมีลูกพรรคอีก ๑๐๐ กว่าคน ๒๐๐-๓๐๐ คน ที่จะต้องอยู่ที่จะต้องทำงานร่วมกัน พรรคนี้จะต้องเป็นพรรคที่เป็นหลักให้ประเทศชาติต่อไป ” ลุงป้อมเปิดปากอนาคต ๒ ป. ครั้งแรก หลังเป็นประธานเปิดงาน “ Thailand ๔.๐ประเทศไทยไปไกลกว่าที่คิด” โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว งานนี้ตอบชัดทุกประเด็นเคลียร์ครัชกันไปเลยไม่ต้องให้ตีความกันให้วุ่นวาย ลำพังตัวลุงป้อมก็คงอึดอัดเพราะโดนนักข่าวไล่ถามทุกวัน ไหนๆก็จะไปกันอยู่แล้วจะแตกกันแน่ ก็เฉลยความลับให้ชัดกันไปเลยจะได้รู้ว่าใครอยู่กับพลังประชารัฐ ใครจะไปพรรคอื่น ตรงนี้ทางพรรคจะได้จัดสรรผู้สมัคร ลงเขต ลงบัญชีรายชื่อ ใครจะอยู่เขตไหนยังไงได้ถูก ไม่ต้องมาปิดๆบังๆกันอยู่ เพราะเลือกตั้งก็ใกล้เข้ามาทุกที ฝ่ายลุงป้อมกับพลังประชารัฐตอนนี้นั้นชัดแล้วว่าอนาคตจะไม่มีบิ๊กตู่เป็นแคนดิเดตในบัญชีรายชื่อนายกฯของพรรคแน่นอน
แต่ฝ่ายบิ๊กตู่ต่างหากกลับอมพะนำไม่ยอมเปิดตัวเปิดอนาคตของตัวเองออกมา ก่อนหน้านี้บิ๊กตู่เองนั้นแหละที่ระบุว่าหลังจบการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค ๒๐๒๒ ที่ไทยเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ ๑๔ -๑๙ พ.ย.ที่ผ่านมาเสร็จสิ้นจะชี้แจงอนาคตทางการเมืองให้ทราบอย่างแน่นอน แต่มาจนถึงวันนี้ ๒๘ พ.ย. เกือบสิบวันแล้ว บิ๊กตู่ก็ยังตีกรรเชียงไม่พูดไม่แจกแจงอนาคตทางการเมืองของตัวเองเสียที มัวแต่ตีโวหารสะบัดสำนวนไปเรื่อย ล่าสุดก็บอกนักข่าวว่าหลังเอเปคจบที่ว่า คือ “มกราคมปีหน้า” กลิ้งไปกลิ้งมาเหมือนน้ำบนใบบัวแบบนี้ ดูไม่สมกับเป็นบิ๊กตู่ที่คนไทยส่วนใหญ่เชื่อถือและศรัทธาเอาใจช่วยเลย กระเดียดไปทางเป็นนักการเมืองเต็มตัวมากกว่า หรืออาจจะรอข้อมูลบางอย่างให้ชัวร์ก่อนตัดสินใจประกาศอนาคตทางการเมืองของตัวเอง โดยเฉพาะกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญเตรียมวินิจฉัยพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.สูตรหาร ๑๐๐ ว่าจะขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ถ้าขัดหรือไปต่อสูตรหาร ๑๐๐ ไม่ได้อาจจะกลับมาสูตรหาร ๕๐๐ อีก ตรงนี้ไม่รู้เกี่ยวข้องกับการอุบไต๋อนาคตทางการเมืองของบิ๊กตู่หรือไม่ก็ต้องรอดูกัน แต่อย่างไรก็ตามหลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินเรื่องนี้ในวันพุธที่ ๓๐ พ.ย. บิ๊กตู่ควรจะมาเฉลยอนาคตของตัวเองให้ชัด อย่าปล่อยให้เรื่องนี้อึมครึมเพราะมันไม่ดีต่อบรรยาการทางการเมืองและบรรยากาศของบ้านเมือง จะอยู่จะไปกับใครก็ต้องพูดให้ชัด ไม่ใช่กั๊กๆ กึกๆกักๆกันแบบนี้ คนอื่นที่รอจะย้ายพรรคเขาจะได้วางแผนถูกว่าจะไปทางไหนดี
อีกประเด็นที่ต้องสะกิดนายกฯเตือนกันดังๆ เพราะมองแล้วไม่งามไม่สมกับเป็นบิ๊กตู่ หากข่าวที่ว่าเป็นเรื่องจริง ก็ต้องย้อนไปเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ภายหลังเดินทางกลับจากการลงพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์เมื่อ ๒๔ พ.ย.๖๕ ที่บิ๊กตู่พร้อมคณะ ประกอบด้วย “สุชาติ-ชัยวุฒิ-สันติ” ไปคิกออฟโครงการช่วยชาวนา มีรายงานข่าวหลายสำนักให้ข้อมูลตรงกันว่า หลังกลับถึงกรุงเทพฯ บิ๊กตู่ได้เรียก “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ “เสี่ยแด๊ก” ธนกร วังบุญคงชนะ อดีตโฆษกรัฐบาล ที่เป็นส.ส.บัญชีรายชื่อพลังประชารัฐในปัจจุบัน เข้าพบที่บ้านพักภายในร.๑ รอ. เพื่อประเมินสถานการณ์ส.ส.ที่จะสนับสนุนจากทั้งสองคน โดยสุชาติได้นำส.ส.ในกลุ่มตัวเองทั้ง ๘ คนเข้าพบนายกฯประกอบด้วย น.ส.ไพลิน เทียนสุวรรณ ส.ส.สมุทรปราการ , สมพงษ์ โสภณ ส.ส.ระยอง , สาทิตย์ อุ๋ยตระกูล ส.ส.เพชรบุรี , รณเทพ อนุวัฒน์ ส.ส.ชลบุรี , พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี , อริญชัย ซูสารอ ลูกชายนายอนุมัติ ซูสารอ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาชาติ เข้าพบบิ๊กตู่ที่บ้านพัก ขณะที่เสี่ยแด๊กก็พา ส.ส.สงขลาและว่าที่ผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ ๔ คน มายืนยันตัวตนกับบิ๊กตู่เช่นกัน ประกอบด้วย ศาสตรา ศรีปาน ส.ส.เขต ๒ , พยม พรหมเพชร ส.ส.เขต ๓ , ร.ต.อ.อรุณ สวัสดี เขต ๔ และ อนุกูล พฤกษานุศักดิ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เข้าไปพบบิ๊กตู่ในเวลาไล่เลี่ยกัน โดยนายกฯ ขอให้ทุกคนเตรียมช่วยหาเสียงเลือกตั้ง และฝากสุชาติกับธนกรให้ช่วยกันดูแล ส.ส.ในมือตัวเองให้ได้มากที่สุด ในข่าวดังกล่าวยังระบุว่าบิ๊กตู่เตรียมจะสมัครเข้าพรรคและรับตำแหน่งประธานพรรค โดยต้องการเปิดหน้าทางการเมือง และนำทัพหาเสียงเลือกตั้งในครั้งหน้าด้วยตัวเอง
ความจริงข่าวในทำนองนี้ถ้าเกิดกับหัวหน้าพรรคการเมืองอื่นที่อยู่ในวัฏจักรการเมืองมานมนานคงไม่แปลก แต่เรื่องพรรค์อย่างนี้มาเกิดกับบิ๊กตู่ก็ดูทะแม่งกระไรอยู่ ถ้าเป็นจริงตามข่าวการพบกันที่ว่าน่าจะเป็นครั้งแรกที่บิ๊กตู่ให้ส.ส.ให้ว่าที่ผู้สมัครไปเข้าพบที่บ้านพักใน ร.๑ รอ. ที่อดีตไม่เคยทำ จะมีก็แต่ฝ่ายลุงป้อมเท่านั้นที่นัดส.ส.นัดนักการเมือง ทั้งส.ส.และส.ว.ไปพบกันที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ ที่อยู่ในร.๑ รอ.เหมือนกัน แต่สำหรับบิ๊กตู่ไม่เคยมีข่าวว่านายกฯจะไฟเขียวให้ส.ส.ยกโขยงไปหาถึงที่บ้านในค่ายทหาร มีเรื่องสลักสำคัญอะไรที่ต้องหารือกันเร่งด่วน ทำไมนายกฯต้องให้ส.ส.ไปหาถึงบ้านพัก ประเด็นแบบนี้ต้องเฉลยกันมาให้ชาวบ้านทราบ กำแพงมีหูประตูมีช่องเรื่องแบบนี้มันไม่มีความลับในโลก นับหนึ่งกัดกระดุมเม็ดแรกของบิ๊กตู่ ถ้าจะเล่นการเมืองใหม่ถ้าจะไปอยู่พรรคใหม่ลงลุยการเมืองจริงๆก็ขอให้ทำแบบสง่างาม อย่าทำการเมืองแบบลักปิดลักเปิด จะกลายไปเป็นขี้ปากชาวบ้านซุบซิบนินทาว่ากันได้ ตั้งใจจะทำการเมืองน้ำดีตั้งพรรคจะทำการเมืองเพื่อชาติแก้ปัญหาเดือดร้อนให้ชาวบ้านแล้ว ก็ต้องทำการเมืองออกมาให้ดีอย่าทำอะไรแบบลับๆล่อๆ เพราะการเมืองแบบเก่าใช้วิธีการแบบเดิมด้วย “วงจรอุบาทว์” คนไทยยุคใหม่คนไทยรุ่นใหม่เขาไม่รับเขาไม่เอากันแล้ว ได้ส.ส.มากแต่มาแบบไม่สะอาดคนไทยก็ไม่รับคนไทยก็ไม่เอา เตือนสติพล.อ.ประยุทธ์อย่าหลงผิด อย่าเล่นการเมืองแบบฉาบฉวย เน้นจำนวนส.ส.กับปริมาณเข้าว่า แบบนั้นจะต่างอะไรกับพรรคการเมืองเก่าๆ ไปๆมาๆ อาจไปเข้าทางพรรคเพื่อไทยฝ่ายทักษิณที่รอกระทืบซ้ำได้ง่ายๆ
ไหนๆได้คนน้ำดีอย่างพีระพันธุ์ไปเป็นหัวขบวน ข่าวว่าจะเอามาเป็นเลขาฯนายกฯ ในช่วงปลายทาง ๑๐๐ เมตรสุดท้ายของรัฐบาล มีเลขาฯพรรคเป็นคุณรุ่นใหม่อย่างเสี่ยขิง หลักการตัวเองต้องแน่นธงในใจต้องเอาให้ชัด อย่าไปใช้ทางลัดสีเทาขึ้นลิฟท์กลับมาเป็นนายกฯสมัย ๓ แบบหมดค่าด้อยราคาตัวเอง เป็นของพรีเมี่ยมมาตั้งนานไม่ต้องลดค่ามาแบกะดินหรอก “เสียของหมด” สุดท้ายก็วนกลับมาที่เรื่องเข้าพรรคการเมือง ลุงป้อมออกมาหงายการ์ด “แยกวง”ให้สังคมรู้แล้ว ได้เวลาเหมาะสมที่บิ๊กตู่ก็ควรเปิดหน้าออกมาเลย ว่าจะไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ ประกาศกร้าวให้รู้กันไปเลยว่าเหลือเวลาอีก ๓ ปี จะสร้างบ้านแปลงเมืองให้ประวัติศาสตร์ชาติจารึก ฝากฝังผลงานมากมายให้คนไทยตราบชั่วลูกหลานได้ประจักษ์ ต่อให้ถูกคนเลวตราหน้าว่าเป็นฝ่ายเผด็จการเป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติ แต่ทุกวินาทีที่เข้ามาควบคุมอำนาจบริหารบ้านเมืองจนครบ ๘ ปี ในหัวใจมีแต่ “ชาวบ้าน-ชาติ-สถาบัน” ไม่เคยทุรยศโกงกินทำตนให้เสื่อมเสีย จากนี้ไปจะขอลงเรือแป๊ะลำใหม่ที่ชื่อรวมไทยสร้างชาติ ที่ทำการตั้งอยู่ อารีย์ ซอย ๕ จะนัดคุยกับใคร จะเจรจาต้าอ่วยกับส.ส.คนไหน จะกางยุทธศาสตร์วางแผนเลือกตั้งกันยังไง มันก็จะได้ถูกต้องตามครรลองครองธรรม วัน ว. เวลา น. ในการเลือกตั้งก็หรือไม่มากแล้ว ถึงตอนนี้บิ๊กตู่ไม่ต้องก๊งไม่ต้องกั๊กอะไรอีกแล้ว มันได้เวลาที่บูรพาพยัคฆ์ควรออกมาคำรามในสนามการเมืองอย่างสง่างามได้แล้ว
//////////////