ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ประชุมร่วมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวช่วงต้นว่า สำหรับแนวปฏิบัติใหม่ๆทุกคนคงทราบดีอยู่แล้วจากกระทรวงสาธารณสุข ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้อง ที่ได้รับนโยบายไปแล้ว อย่างไรก็ตามขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกคนและวันนี้อยากฟังทุกคนว่าอะไรที่ยังติดขัดตรงไหนก็ให้บอกมา พร้อมแก้ปัญหาและดูแลให้
ทั้งนี้มีรายงานข่าวเบื้องต้นว่า ที่ประชุมได้รับทราบสถานการณ์การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประชาชนที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ โดยกระทรวงสาธารณสุข รายงานการให้บริการฉีดวัคซีนให้ประชาชน 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป กลุ่มคนอ้วนและคนท้องที่ให้บริการฉีดไปแล้ว 1 ล้านโดส ขณะเดียวกันเพื่อแก้ปัญหาลดความแออัด จะไม่มีการวัดความดันก่อนฉีด นอกจากกรณีจำเป็นเท่านั้น
นอกจากนี้ ยังได้มีการเสนอต่อที่ประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาความแออัดความประชาชนขอรับวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ โดยการเปิดใช้การลงทะเบียนออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน “วัคซีนบางซื่อ” เพื่อกรอกข้อมูลลงทะเบียน รับใบคัดกรอง และผ่านเข้าจุดการฉีดวัคซีนได้เลย รวมถึงใช้ช่องทางเดิมที่มีอยู่ด้วยผ่านเครือข่ายมือถือมาก่อนเท่านั้น งดการ walk in เพื่อลดขั้นตอนเมื่อไปถึงจะสามารถฉีดได้เลยทันที โดยให้เริ่มลงทะเบียนวันที่ 29 ก.ค. นี้ตั้งแต่เวลา 9.00 น. เป็นต้นไป ตั้งแต่วันที่ 1-31 ส.ค. การดำเนินมาตรการต้องพิจารณาตามความเหมาะสมต่อไป และเน้นให้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง โดยจะให้บริการ 20,000 โดสต่อวัน
ทั้งนี้ข้อเสนอต่างๆ ให้ส่วนของกรุงเทพมหานคร กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงคมนาคม ที่ประชุมฯ มีมติให้ศูนย์บางซื่อฯปรับแนวทาง และขอให้ดำเนินการตามเดิม เสริมด้วยมาตรการ เว้นระยะห่าง โดยประสานความร่วมมือกับทางกระทรวงกลาโหม
อย่างไรก็ตามการประชุมของนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ เกิดขึ้นภายหลังมีกระแสข่าวว่า มีผู้บริหารของ ศบค. ส่งสัญญาณให้ปิดการฉีดวัคซีนที่ศูนย์สถานีกลางบางซื่อ เพื่อลดความหวาดระแวงทางการเมือง