หลังจากอึมครึมเรื้อรังกันมานานในเรื่องของการปรับครม. ที่ก่อนหน้านี้หากใครยังจำได้พรรคประชาธิปัตย์เคยมีการประชุมกรรมการบริหารพรรคเมื่อ ๑๒ ต.ค.๒๕๖๕ ก่อนมีมติเอกฉันท์ให้ นริศ ขำนุกรักษ์ ส.ส.พัทลุง ๕ สมัย ขึ้นเป็นรัฐมนตรีคนใหม่แทนที่นิพนธ์ บุญญามณี อดีตรมช.มหาดไทยที่ลาออกไป หลังได้มติพรรคเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รุ่งขึ้น ๑๓ ต.ค. “อู๊ดด้า” จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ก็แจ้งมติพรรคประชาธิปัตย์ให้สร.๑ ทราบทันทีว่าพรรคประชาธิปัตย์ประสงค์ที่จะขอปรับครม.ในส่วนโควต้าของพรรคแทนที่นิพนธ์ บิ๊กตู่รับทราบพร้อมแจ้งว่าการดำเนินการทุกอย่างขอให้รอหลังการประชุมเอเปค ๒๐๒๒ ระหว่างวันที่ ๑๔-๑๙ พ.ย. แล้วเสร็จ ฝ่ายพรรคประชาธิปัตย์เห็นนายกฯรับทราบเรื่องและรับปากว่าจะดำเนินการให้แล้ว ก็เลยไม่หือไม่อือเพื่อไม่เป็นการเสียมารยาทเพราะไม่อยากไปก้าวล่วงนายกฯในฐานะหัวหน้ารัฐบาลซึ่งกำลังมีภารกิจสำคัญในการต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองและจัดงานใหญ่ของประเทศ
แต่ภาพหลังการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเปค ๒๐๒๒ แล้วเสร็จ ชื่อของนริศก็ยังอยู่ในลิ้นชักกระแสเรื่องปรับครม.จากฝากฝั่งนายกฯก็ยังนิ่งอยู่ อย่าลืมว่าตำแหน่ง “มท.๒” สำหรับพรรคประชาธิปัตย์นั้นถือเป็นตำแหน่งสำคัญ เพราะเป็นเก้าอี้เสนาบดีที่สามารถเอาไปต่อยอดผลักดันผลงานทางการเมืองของพรรคได้ อาทิ แจกที่ทำกิน บำบัดทุกข์บำรุงสุขชาวบ้าน ฯลฯ ยิ่งในช่วงนับถอยหลังไปสู่การเลือกตั้ง ทุกตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรคล้วนมีความสำคัญหมด เพราะต้องช่วยกันขับเคลื่อนผลงานของพรรคในช่วงโค้งสุดท้ายเพื่อสร้างผลงานให้ชาวบ้านเห็น ความล่าช้าของบิ๊กตู่ทำให้แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ต้องออกมาให้สัมภาษณ์เตือนสตินายกฯไปหลายครั้งหลายรอบ ขนาดจุรินทร์ที่ว่าเย็นๆ
เจอบิ๊กตู่ดองเค็มชื่อนริศไปรอบนี้ถึงกลับควันออกหู จนต้องออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “อึดอัด” เพราะโดนในพรรคบี้ให้ตามกดดันบิ๊กตู่ เพราะนายกฯทำแบบนี้มันเสียเหลี่ยมพรรคเก่าแก่สถาบันการเมืองหมด นริศเป็นรมต.มันเป็น “มติพรรค” บิ๊กตู่เป็นนายกฯต้องเข้าใจมารยาทพรรคร่วมรัฐบาล ไม่อยากให้รัฐบาลกระเพื่อมก็เข้าใจได้ แต่โควต้าพรรคร่วมรัฐบาลเขาเสนอชื่อใครมานายกฯต้องหาจังหวะเวลาปรับให้เขา เรื่องนี้บิ๊กตู่ทำไม่ถูกสร้างเรื่องเหยียบตาปลากันโดยไม่จำเป็น ยิ่งรัฐบาลพรรคร่วมมีปัญหากินแหนงแคลงใจกันอยู่ ทั้งเรื่องกัญชา ทั้งเรื่องกฎหมายอื่นๆสารพัด ฯลฯ ตัวนายกฯจะมาสร้างเรื่องให้เสียแนวร่วมของตัวเองทำไม จากปมปัญหาเรื่องนี้ถึงขนาดทำให้เบอร์ใหญ่ของพรรคสีฟ้าเตรียมตั้งโต๊ะประกาศถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล เพราะทนไม่ไหวรอไม่ได้ที่บิ๊กตู่ไม่นำพาจัดการเรื่องนี้ให้เสียที เสียเวลายังพอว่าแต่เสียหน้ายอมไม่ได้ เดชะบุญโชคดีที่นายกฯไหวตัวทัน เร่งทูลเกล้าฯเรื่องนี้ ก่อนรัฐบาลแตกปัญหาปรับครม.เลยไม่ลุกลามออกไป
ล่าสุดช่วงบ่ายที่ผ่านมา (๓๐ พ.ย.๒๕๖๕) มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าแต่งตั้งรัฐมนตรีใหม่ ๓ คน และก็เป็นไปตามคาดคือ นริศขึ้นชั้นเป็นรมช.มหาดไทยตามที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอ แต่ที่กลายเป็นบิ๊กเซอไพรซ์คือการขึ้นชั้นเป็นรัฐมนตรีของ “เสี่ยแด๊ก” ธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.พลังประชารัฐ อดีตโฆษกประจำสำนักนายกฯ ที่ผงาดขึ้นมาเป็นรมต.ประจำสำนักนายกฯ ประทับตราเป็นเสนาบดีคนใหม่ แม้จะมีข่าวมาตลอดว่าเสี่ยแด๊กมีชื่อลุ้นขึ้นเป็นรัฐมนตรีคนใหม่ในโควต้าของบิ๊กตู่เช่นเดียวกับ “แรมโบ้” ดร.เสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกฯ ที่ต่างฝ่ายต่างก็สร้างผลงานแข่งกันเป็น “เด็กสร้าง” ของบิ๊กตู่กันสุดกู่ โดยมีเก้าอี้รัฐมนตรีเป็นเดิมพัน ธนกรเคยเป็นอดีตโทรโข่งรัฐบาล ทำงานใกล้ชิดนายกฯ ตอนถูกพักเบรกช่วงตีความ ๘ ปี ก็ไปเทียวไล้เทียวขื่อหน้าบันไดประตูทางขึ้นกระทรวงกลาโหม ไปให้กำลังใจบิ๊กตู่อยู่บ่อยครั้งอัพเฟซให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ ส่วนแรมโบ้ก็ออกโรง “ปะ ฉะ ดะ” พวกเห็นต่างบิ๊กตู่ เป็นขุนพลเอกต่อสู้กับมารผจญของนายกฯมาตลอด อดีตก็เป็นคนไปก็ตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) แต่ดวงไม่ดีไปพลาดโดนหวยออนไลน์กินจนเป็นเรื่อง เส้นทางเป็นใหญ่สู่ดาวดวงใหม่เลยสะดุด แม้ปัจจุบันจะรวมพลคนรักสถาบันแฟนคลับบิ๊กตู่ตั้งพรรคใหม่ใช้ชื่อว่า “พรรคเทิดไท” แต่ก็ดูจะโกยคะแนนไม่ทันเสี่ยแด๊กไปเสียแล้ว
อย่างไรก็ตามก่อนหน้ารายชื่อรมต.ใหม่จะออก หลายฝ่ายก็คิดว่ามีความเป็นไปได้สูงเช่นกันที่บิ๊กตู่จะเอาเก้าอี้รัฐมนตรีไปประเคนให้กับพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเป็นพรรคน้องใหม่ที่บิ๊กตู่จะไปร่วมหัวจมท้ายด้วยกันในอนาคต เพราะในพรรคก็มีคนที่มีฝีไม้ลายมือเหมาะสมที่จะเป็นรัฐมนตรีได้อยู่หลายคน โดยเฉพาะ “เสี่ยตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่พอมาออกแบบนี้โอกาสของพีระพันธุ์ก็อาจจะมาเป็นเลขาธิการนายกฯแทนดิสทัต โหตระกิตย์ หรือไม่ก็อาจไม่ขอเป็นอะไรเลยเพราะพีระพันธุ์คงอยากทุ่มเวลาลุยเลือกตั้งหาเสียงให้พรรคอย่างเต็มที่ ส่วนเสี่ยแด๊กมาเที่ยวนี้ก็คงมาคุมสื่อลุยเรื่องพีอาร์ผลงานบิ๊กตู่อย่างเต็มตัว เพราะถนัดเรื่องนี้อยู่แล้ว ธนกรขึ้นชั้นเป็นรัฐมนตรีรอบนี้ กลายเป็นว่าบารมีเทียบเท่านายเก่านั่งชิดกลุ่มสามมิตรอย่าง “สุริยะ สมศักดิ์ อนุชา” กันเลยทีเดียว แต่เป็นก๊วนสามมิตรซีกไทยคู่ฟ้าไม่ใช่ฝากป่ารอยต่อฯ
การปรับครม.คราวนี้คงเป็นไม้สุดท้ายของครม.เรือแป๊ะแล้ว เพราะเหลือเวลาไม่ถึง ๔ เดือนก็จะครบอายุสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ ๒๓ มี.ค.๒๕๖๖ แล้ว เพราะฉะนั้นรอบนี้จึงเป็นการปรับทัพครั้งสุดท้ายของบิ๊กตู่ก่อนเข้าเส้นชัย อย่างที่รู้ว่านอกจากเก้าอี้รัฐมนตรีของนิพนธ์ที่ว่างลงแล้ว อดีตยังมีโควต้ารัฐมนตรี ๒ ตัวของพลังประชารัฐที่ว่างอยู่ คือ “ร.อ.ธรรมนัส-นฤมล” ที่ถูกบิ๊กตู่ปลดพ้นออกไป เที่ยวนี้หลายคนเลยคิดว่าบิ๊กตู่อาจจะยึด ๒ เก้าอี้มาทั้งหมดเพื่อต่อยอดการเมือง หรือจะแบ่งให้ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐสักตัว ที่สุดก็อย่างที่เห็น ๒ ป.จัดสรรอำนาจ แบ่งปันเก้าอี้รัฐมนตรีกันลงตัว ด้วยสูตรแบ่งรัฐมนตรีกัน “คนละครึ่ง” บิ๊กตู่ปูนบำเหน็จให้ธนกร ฝ่ายลุงป้อมก็เอาโควต้ารัฐมนตรีไปประเคนให้กลุ่มปากน้ำสนองความต้องการของบ้านใหญ่ จ.สมุทรปราการ ที่ก่อนหน้านี้ลุงป้อมเคยลงพื้นที่เมื่อ ๒๕ ก.ค.ที่ผ่านมา และเกิดภาพ “กราบที่ปากน้ำสะเทือนถึงทำเนียบรัฐบาล” หลังกรุงศรีวิไล สุทินเผือก ส.ส.กลุ่มปากน้ำก้มตัวลงกราบลุงป้อมวันไปลงพื้นที่จ.สมุทรปราการ หลังเกิดเหตุการณ์ ๖ ส.ส.กลุ่มปากน้ำ ประกอบด้วย ๑.กรุงศรีวิไล ๒. ฐาปกณ์ กุลเจริญ ๓.ภริม พูลเจริญ ๔.ยงยุทธ สุวรรณบุตร ๕.อัครวัฒน์ อัศวเหม และ ๖.ต่อศักดิ์ อัศวเหม ( ส.ส.บัญชีรายชื่อ ) โหวตสวนมติพรรคไม่ไว้วางใจ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา มท.๑ โดยอ้างว่าเป็นรัฐมนตรีที่ไม่เอาใครเข้าถึงยากขออะไรก็ไม่ได้ กับ “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน บ้านใหม่ชลบุรีที่เป็นอริศัตรูกันอยู่แล้ว
แต่แทนที่ลุงป้อมจะลงโทษกลุ่มนี้ที่สวนมติพรรคแหกคอกส.ส.ใหญ่ ตรงข้ามกลับตามไปโอ๋ก๊วนนี้ถึงถิ่นเอาใจกันแบบสุดๆ ถึงขนาดประกาศบนเวทีว่าได้ส.ส. ๖ คนต้องเป็นรัฐมนตรีแล้ว และรับปากว่าปรับครม.เที่ยวหน้าจะดูแลให้ ที่สุดหวยล็อกก็มาออกที่ “สุนทร ปานแสงทอง” อดีตรองนายกฯอบจ.สมุทรปราการ หลังได้รับการแต่งตั้งเป็น ว่าที่ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในโควตาของกลุ่มปากน้ำแว่วว่าสุนทรคือนักการเมืองท้องถิ่นที่เป็น “มือขวา” ของ “เสี่ยเอ๋” ชนสวัสดิ์ อัศวเหม ถือว่าเป็นลูกหม้อของกลุ่มปากน้ำขนานแท้ อดีตเคยทำงานร่วมกันมาตั้งแต่สมัย วัฒนา อัศวเหม ผู้พ่อ จนมาอยู่กับชนสวัสดิ์รุ่นลูก ตบรางวัลให้กลุ่มปากน้ำของลุงป้อมเที่ยวนี้ ยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว ด้านหนึ่งก็การันตีความเป็นคนจริงของลุงป้อม พูดจริงทำจริง สัญญาว่าจะให้ก็ได้เลย สองแสดงบารมีให้คนในพรรคกลุ่มก๊วนต่างๆเห็นอยู่กับพี่มีแต่รุ่งไปหน้า สามกระตุกพวกที่อยากย้ายออกเหยียบเบรกส.ส.ที่อยากจะหนีพลังประชารัฐไปให้หัวทิ่ม บี้กันหนักอัดกันแรงเกทับกันแหลกแบบนี้ ส่อแววแตกกันจริงหรือแบ่งเค้กประสานประโยชน์ของ ๒ ป. ลับ ลวง พราง ฝ่ายตรงข้าม ปรับครม.สูตรคนละครึ่ง ทิ้งไพ่ใบสุดท้ายก่อนเลือกตั้งคราวนี้ของบิ๊กตู่กับลุงป้อม ต้องดูกันยาวๆ ว่าจะได้ดอกผลกลับคืนมามากน้อยแค่ไหนก่อนถึงวันเลือกตั้ง
/////////////////