"เจียง เจ๋อหมิน" อดีตปธน.จีน ถึงแก่อสัญกรรมด้วยวัย 96 ปี ด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวและอวัยวะล้มเหลว
ข่าวที่น่าสนใจ
สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า วันนี้ทางการจีนประกาศว่า “เจียง เจ๋อหมิน” ถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวและอวัยวะล้มเหลวหลายระบบในวัย 96 ปี ณ เทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ทางตะวันออกของจีน เมื่อ 12.13 น. ตามเวลาท้องถิ่น
ประกาศข้างต้นออกโดยคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน คณะกรรมการถาวรประจำสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีน คณะรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน คณะกรรมการแห่งชาติประจำสภาที่ปรึกษาทางการเมืองแห่งประชาชนจีน และคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลางของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยประกาศผ่านจดหมายถึงพรรคฯ กองทัพ และประชาชนจีนทุกกลุ่มชาติพันธุ์
จดหมายระบุการประกาศด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อพรรคฯ กองทัพ และประชาชนจีนทุกกลุ่มชาติพันธุ์ว่า เจียง เจ๋อ หมิน สหายผู้เป็นที่รักของปวงชน เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวและอวัยวะล้มเหลวหลายระบบ หลังจากการรักษาทางการแพทย์ทั้งหมดไม่ประสบผลสำเร็จ
จดหมายระบุว่า เจียง เจ๋อ หมินเป็นผู้นำที่โดดเด่น มีเกียรติภูมิสูงส่งและเป็นที่ยอมรับโดยพรรคฯ กองทัพ และประชาชนจีนทุกกลุ่มชาติพันธุ์ ทั้งยังเป็น
- นักมาร์กซิสต์
- นักปฏิวัติชนชั้นกรรมาชีพ
- รัฐบุรุษ
- นักยุทธศาสตร์การทหาร
- และนักการทูตที่ยิ่งใหญ่
- ตลอดจนเป็นนักต่อสู้ของคอมมิวนิสต์ที่ผ่านบททดสอบยาวนาน
- และผู้นำที่โดดเด่นของสังคมนิยมที่ยิ่งใหญ่อันมีอัตลักษณ์จีน
โดยเจียงเป็นแกนหลักของคณะผู้นำร่วมส่วนกลาง รุ่นที่ 3 ของพรรคฯ และยังเป็นผู้ก่อตั้งหลักของทฤษฎีสามตัวแทน (Theory of Three Represents)
ขณะที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เจียง เจ๋อ หมินก้าวขึ้นเป็นผู้นำจีนในช่วงเวลาที่ท้าทาย เพราะ เป็นการรับช่วงบริหารประเทศต่อจากอดีตผู้นำเหมา เจ๋อตุง ที่ใช้กำลังทหารกวาดล้างการประท้วงของนักศึกษาที่จตุรัสเทียนอันเหมินในปี 2532 จนทำให้เกิดการนองเลือดและถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากประชาคมโลก
นอกจากนี้ ก็ยังเป็นช่วงเวลาที่จีนกำลังเร่งปฏิรูปเศรษฐกิจและเริ่มเปิดประเทศสู่โลกภายนอก โดยเจียงเป็นผู้นำจีนเข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลกหรือ WTO เป็นผู้เปิดประตูให้ธุรกิจต่างชาติเข้ามาลงทุนครั้งใหญ่ รวมทั้งบริษัทใหญ่ ๆ อย่างเจเนอรัล มอเตอร์และวอลมาร์ท และระหว่างปี 2532-2545 ที่อยู่ในตำแหน่ง เจียงเจ๋อ หมิน ยังทำให้เศรษฐกิจจีนมีขนาดโตขึ้นกว่า 3 เท่า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง