“พปชร.-รทสช.”…..เหนื่อยหนักแน่

หลังศาลรัฐธรรมนูญไฟเขียวสูตรหาร ๑๐๐ เตรียมตัวเดินหน้าไปเลือกตั้ง  บัตร ๒ ใบกติกาเก่า เขต ๔๐๐ ปาร์ตี้ลิสต์ ๑๐๐  เข้าทางเพื่อไทยเข้าตีนทักษิณ   พรรค ๒ ป. อ้วกแตกแน่  อย่าคิดว่าจะชนะเลือกตั้งได้ง่ายๆ แย่งส.ส.ภาคใต้แค่หยิบมือ แต่เพื่อไทยมีส.ส.เขตบานตะเกียง     โปรดเกล้าฯ ๓ รัฐมนตรีใหม่  ปรับครม.ครั้งสุดท้ายของนายกฯ ชาวบ้านเห็นชื่อแล้วอ่อนใจ  แบ่งเค้กใช้สูตรคนละครึ่ง  บิ๊กตู่อวยยศธนกร ลุงป้อมปูนบำเหน็จกลุ่มปากน้ำ คนไทยอ่อนใจนายกฯตั้งรัฐมนตรีใหม่ตอบแทนการเมือง  ไม่เห็นหัวชาวบ้านหมดลุ้นเห็นคนเก่งทำงานให้บ้านเมือง    

หลังรอลุ้นประเด็นร้อนหลายเรื่องทางการเมืองกันมายาวนาน  ล่าสุดทุกเรื่องทุกปมก็เหมือนได้รับการคลี่คลายเห็นหน้าเห็นหลังชัดเจนขึ้นแล้ว  ล่าสุดวานนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ให้พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ฉบับสูตรหาร ๑๐๐ ล่าสุด ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ  โดยวินิจฉัยว่ากระบวนการจัดทำกฎหมายลูกดังกล่าวไม่ขัดหลักกฎหมายและเนื้อหาหรือถ้อยคำในร่างดังกล่าวก็ไม่ขัดรัฐธรรมนูญตามที่นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่กับพวกร้องเรียนมา  จากนี้ก็เข้าสู่กระบวนการนำกฎหมายขึ้นทูลเกล้าฯต่อไป โดยกฎหมายจะอยู่ในพระบรมราชวินิจฉัยภายใน ๙๐ วัน  ช้าเร็วก็แล้วแต่พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯลงมา  หากกฎหมายลงมาเมื่อไหร่นับจากนั้นก็เรียกว่ากฎกติกามีพร้อมสำหรับการเลือกตั้งทั่วไป  นายกฯก็สามารถคิดวัน ว. เวลา น. ในการยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนได้เลย

ขณะที่วันเดียวกันนอกจากสูตรหาร ๑๐๐ จะได้ไฟเขียวจากศาลรัฐธรรมนูญแล้ว  การปรับครม.ไม้สุดท้ายของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ก่อนครบวาระ  ก็ได้รับโปรดเกล้าฯลงมาเป็นที่เรียบร้อย  โดยมีรัฐมนตรีหน้าใหม่ ๓ คนได้รับการโปรดเกล้าฯในคราวนี้ประกอบด้วย ๑. ธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ๒.สุนทร ปานแสงทอง รมช.เกษตรและสหกรณ์ ๓.นริศ ขำนุรักษ์ รมช.มหาดไทย  ถามว่าเซอไพรซ์ไหมก็ไม่ขนาดนั้น  ถามว่าผิดหวังไหมที่หน้าตาครม.ใหม่ครั้งสุดท้ายของบิ๊กตู่ออกมาแบบนี้  ถ้าเป็นคอการเมืองขนานแท้ถ้าเป็นคนที่ตามข่าวการเมืองมานาน  ก็ต้องบอกว่าการปรับครม.รอบนี้ใช้สูตร “คนละครึ่ง” หนักไปทางน่าผิดหวังสำหรับกองเชียร์บิ๊กตู่ และดูจะไม่สบอารมรณ์สำหรับคนที่มีความคิดทางการเมืองแบบกลางๆ  แยกกรณีของนริศออกไปอันนั้นเข้าใจได้ว่าเป็นรายชื่อตามโควต้าของพรรคประชาธิปัตย์  ยังไงก็ต้องปรับให้ตามที่เสนอชื่อมาพลิ้วไม่ได้   ที่นริศก็เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง  เป็นแกนนำพรรคอาวุโสสายใต้  เป็นส.ส.พัทลุงมาแล้ว ๕ สมัย  มีชื่อลุ้นเป็นรัฐมนตรีหลายครั้งแต่ก็แห้วมาตลอด สมหวังในรอบนี้แบบรอนานถึง ๗ สัปดาห์หลังส่งชื่อไปเป็นชาติ  แต่เพราะบิ๊กตู่สติหลุดกำลังยุ่งกับหลายเรื่องเลยไม่หยิบขึ้นมาดำเนินการ  ต้องให้ขู่จะถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลบิ๊กตู่ถึงดำเนินการให้   ล่าสุดมีชื่อเป็น “มท.๓” คนใหม่แทนที่นิพนธ์ บุญญามณี ที่ลาออกไปสมใจพรรคประชาธิปัตย์  ตรงนี้ก็พลอยลดอาการโมโหที่ถูกบิ๊กตู่ดองเค็มรายชื่อไปได้พอสมควร

หันมาดูที่เสี่ยแด๊ก ธนกร หยิบชิ้นปลามันคว้าเก้าอี้รัฐมนตรีคนใหม่ได้สำเร็จ  ปล่อยให้ “แรมโบ้”ดร.เสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกฯ หัวหน้าพรรคเทิดไท ที่เบียดตีคู่ชิงเก้าอี้รัฐมนตรีเหมือนกันต้องรอเพลงรอไปก่อน  ความจริงทั้งธนกรทั้งดร.เสกสกล ถามว่าความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ พอไหวไหมก็พอไปได้  แถมเป็นมือซ้ายมือขวาเป็นขุนพลเอกทัพหน้าที่ทำงานรับใช้ใกล้ชิดบิ๊กตู่มาตลอดในช่วงก่อนหน้านี้  แต่เรื่องที่ชาวบ้านแคลงใจคนส่วนใหญ่ฉงน  ต้องถามนายกฯกันตรงๆว่า ๒ คนนี้  มี “ผลงาน”  โบว์แดงอะไรให้ขึ้นชั้นถึงขั้นเป็นรัฐมนตรี  นายกฯไม่มีคนเก่งๆไม่มีคนมีฝีมือที่จะมาทำงานแล้วหรือ  ตัดสินใจเพราะอะไร ใช้สูตรใช้เหตุผลไหนในการเลือก อธิบายให้คนทราบตอบคำถามให้ชาวบ้านรู้หน่อย  ไม่ใช่เสี่ยแด๊กกับแรมโบ้ไม่ดีหรือไม่มีฝีมือ  แต่หลายคนกังขาว่าบิ๊กตู่ไม่มีมือฉมังเปิดชื่อมาแล้วปังมากกว่านี้หรือ  ผลงานที่คนไทยจำได้ธนกรเป็นโฆษกรัฐบาล เที่ยวไล้เทียวขื่อตามนายกฯตอนถูกศาลรัฐธรรมนูญเบรกการทำหน้าที่สร.๑  ล่าสุดเอาส.ส.ใต้พลังประชารัฐ ๔-๕ คน ไปหาบิ๊กตู่ที่บ้านพักในร.๑รอ.  ถัดจากนั้นมาไม่นานก็ได้ขึ้นชั้นเป็นเสนาบดีเลย  ขึ้นลิฟต์ใช้วิธีแบบนี้เลยถูกครหาจากชาวบ้าน

อีกตำแหน่งรัฐมนตรีหน้าใหม่ คือ สุนทร ปานแสงทอง รมช.เกษตรและสหกรณ์  มาแบบขึ้นลิฟต์เลย เพราะ ๒ วันก่อนยังเป็นรองนายกฯอบจ.สมุทรปราการเคียงคู่ “ซ้อตู่”นันทิดา แก้วบัวสาย ถัดมาไม่กี่วันส้มหล่นขึ้นชั้นเสนาบดีคั่วเก้าอี้ “พญานาค ๓”  เป็นอดีตคนตามวัฒนา อัศวเหม  เป็นมือขวา “เสี่ยเอ๋” ชนสวัสดิ์ เจ้าพ่อปากน้ำบ้านใหญ่สมุทรปราการปัจจุบัน  ด้วยเหตุนี้จึงได้โอกาสมานั่งเป็นรมต.หน้าใหม่โควต้ากลุ่มปากน้ำ ตามสัญญาใจที่ลุงป้อมเคยรับปากตอนลงพื้นที่เมื่อ ๒๕ ก.ค.ที่ผ่านมา วันที่กรุงศรีวิไล สุทินเผือก ก้มกราบลุงป้อมจนขึ้นหน้า ๑ นั้นแหละ  ถือเป็นการตบรางวัลที่กลุ่มปากน้ำกวาดส.ส.เขตได้ ๕ ตัว เป็นบัญชีรายชื่ออีก ๑ คน  รวมถึงตบรางวัลที่ก๊วนส.ส.ปากน้ำ ๖ คน เคยยกมือไม่ไว้วางใจ คว่ำ ๒ รัฐมนตรีสายบิ๊กตู่เพื่อเป็นการสั่งสอน  คนแรกคือ   “บิ๊กป็อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา มท.๑  ที่ถูกกล่าวหาว่าเข้าถึงยาก ไม่เคยรับปากทำอะไรให้เลย  กับ  “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น เจ้าของรหัส “ จับกัง ๑”  ที่เป็นศัตรูขั้วตรงข้ามในการเมืองท้องถิ่น  เพื่อสั่งสอนตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจ ๒๓ ก.ค.ที่ผ่านมา  ไปๆมาๆปรับครม.น้ำสุดท้าย   แทนที่บิ๊กตู่จะเอาโควต้าไปหาคนดีๆมาช่วยทำงานให้รัฐบาล  มาช่วยคิดผลงานโครงการให้โดดเด่น แต่ไม่เลยกลับเอาเก้าอี้รัฐมนตรี ๒ ตัว มาแบ่งผลประโยชน์คนละครึ่งกับลุงป้อม   ตัวเองตั้งคนใกล้ชิดเสมือนปูนบำเหน็จ ฝ่ายพี่ใหญ่ก็โยนเก้าอี้ให้ม้าเลี้ยงในคอกเป็นรางวัลกันเหนียวไม่ให้หนีไปภูมิใจไทย  มีแต่เรื่องผลประโยชน์และการเมืองตัวเองล้วนๆ ไม่มีการปรับครม.เพื่อประโยชน์ของชาวบ้าน  เอาคนเก่งๆ มาสร้างนโยบายดีๆ ดันโครงการใหม่ให้ประเทศลืมตาอ้าปากเลย  สุดท้ายก็ตอบโจทย์ผลประโยชน์ทางการเมือง  ว่าแล้ว  “ทหาร” กับ “นักการเมือง” ก็คิดเหมือนกัน

แบ่งเค้กรัฐมนตรีแล้วเสร็จ อย่าลืมหันมาดูการเมืองในภายหน้า  แยกพรรคแตกวงกันแล้วอย่าคิดว่าพลังประชารัฐกับรวมไทยสร้างชาติจะเสวยสุข  ชนะการเลือกตั้งกันได้ง่ายๆเหมือนเก่า   บอกเลยรอบนี้ไม่มีทางสมหวังง่ายๆ  ๒ พรรค ๒ หัว “พปชร.+รทสช.” เหนื่อยหนักแน่   อย่าลืมว่าศาลรัฐธรรมนูญเคาะสูตรหาร ๑๐๐ ลงมาแล้ว  จากนี้นรกของจริงอยู่ข้างหน้า  เลือกตั้งรอบหน้าบัตร ๒ ใบ ส.ส.เขต ๔๐๐ คน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ๑๐๐ คน  มีไม่ตัวช่วยสูตรพิสดารจัดสรรปันส่วนผสม ไม่มีการคิดคะแนนตกน้ำ ไม่มีฐานส.ส.พึงมีบล็อคพรรคเพื่อไทยอีก  พรรคใหญ่ได้เปรียบพรรคเล็กตายห่าหมด ไม่มีพรรคปลาสิวปลาสร้อยมาแชร์เก้าอี้ส.ส.บัญชีรายชื่อแล้ว  พรรคใหญ่ พรรคกลาง ใส่กันเพียวๆ กระแส กระสุน หัวคะแนนใครดีกว่าคนนั้นก็คว้าพุงปลาไปกิน  เพื่อไทยมั่นใจกติกาเก่าบัตร ๒ ใบ สูตร ๑๐๐ หาร แลนด์สไลด์ได้ส.ส. ๒๕๐ อัพแน่  อันนั้นฝ่ายทักษิณก็ว่ากันไป  ของจริงเซียนการเมืองฟันธงมาแน่ ๑๗๐ -๑๘๐ คน   เป็นอย่างต่ำสำหรับคอกทักษิณ  แต่ฝ่ายรัฐบาลจะได้ถึง ๒๕๑ เหมือนคราวก่อนที่จับมือโหวตบิ๊กตู่เป็นนายกฯสมัย ๒ ได้อีกครั้งหรือป่าวยังต้องลุ้นกันปัสสาวะเหนียว  รอบก่อนพลังประชารัฐกวาดไป ๑๑๖ คน แต่เพราะความแรงของกระแสบิ๊กตู่คนเดียวแท้ๆ  ที่เป็น “เดอะแบก” อุ้มพลังประชารัฐเข้าสภา  รอบนี้แยกกันเดิน ร่วมกันพัง พี่ใหญ่ไปทาง น้องเล็กไปทาง  แต่ ๒ พรรคอย่าฝันหวานว่าจะจับมือกันชนะเลือกตั้งประสานมือกันตั้งรัฐบาลได้ง่ายๆ  อันนั้นฝันกลางวันขนานแท้

เหลียวไปดูรวมไทยสร้างชาติแม้บิ๊กตู่จะไปเป็นหัวพรรคนั่งนายกฯให้ โอเคอาจจะได้เรื่องกระแสนายกฯ  มีคะแนนพรรคจากความนิยมในตัวพล.อ.ประยุทธ์ที่ยังขายได้ในหลายพื้นที่ ภาคใต้นำมาอันดับ ๑ กทม.มาที่ ๒  ภาคอื่นๆอยู่ลำดับ ๓  ก็พอขายได้คะแนนพรรคยังพอมี  แต่ถามว่าส.ส.เขต พรรคใหม่ของ “เสี่ยตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค จะเอาส.ส.เขตมาจากไหน ชุมพรยกจังหวัดจาก “ลูกหมี” ชุมพล จุลใส นะพอไหว  สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช บางเขตก็พอได้อยู่  แต่จะชนะแบบยกจังหวัดทางใต้บอกเลยว่าฝันไป  ลองไปไล่ดูจริงๆ ตัวเขตของรวมไทยสร้างชาติ ส่วนใหญ่มีแต่พวกส.ส.หมดไฟ รวมดาวสอบตกไว้เป็นส่วนใหญ่  ที่เป็นส.ส.เกรดเอพรีเมี่ยมจริงๆมีกี่คน ภาคอื่นๆจะเอาตัวมาจากไหน กรุงเทพ เหนือ อีสาน กลาง มีบ้างไหม  จะมีที่เป็นเนื้อเป็นหนังก็ก๊วนสุชาติบ้านใหม่ชลบุรีแต่ของจริงก็มีไม่ถึงสิบคน    หันมาดูที่พลังประชารัฐของลุงป้อมอนาคตแตกกันคงเหลือส.ส.ไม่ถึงครึ่งร้อย    ส่วนใหญ่ก็เป็นส.ส.ภาคกลางเดิมเคยมี ๔๐ คน อนาคตไม่รู้เหลือเท่าไหร่ เพราะถูกดึงถูกดูดไปหมด   อีสานเดิม ๑๒ คน ตอนนี้เหลือแค่กลุ่มวิรัช  ๕ คน   เหนือจาก ๒๑  คน ที่ยังอยู่ก็มีกลุ่มร.อ.ธรรมนัส  กลุ่มเพชรบูรณ์ของสันติ กลุ่มกำแพงเพชรของวราเทพ  ขณะที่ภาคใต้เดิม ๑๔ คน  กับกทม. ๑๒  คน จากหลักสิบอนาคตคงเหลือแค่หลักหน่วยเพราะไปกับบิ๊กตู่ส่วนหนึ่ง ไปกับเสี่ยหนูก็มาก   เบ็ดเสร็จพลังประชารัฐ ได้ ๔๐-๕๐ คนก็เก่งแล้ว   ประเด็นสำคัญไปดูฐานส.ส.เขตของพรรค ๒ ป.ส่วนใหญ่ก็ฐานเดียวกัน พื้นที่เป้าหมายก็มีภาคใต้ ๕๘ คน กทม.๓๓ คน  แย่งชิงกันให้ตายสุดท้ายก็แย่งส.ส.ในฐานเดียวกัน  ทะเลาะกันเกือบตายที่ใต้มีส.ส.แค่ ๕๘ คน  เกินครึ่งพรรคประชาธิปัตย์กอดเก้าอี้ไว้เหนียว  ๓ จังหวัดชายแดนใต้มีพรรคประชาติจับจองอยู่  ที่เหลืออีกหลายจังหวัดภูมิใจไทยเป็นแชมป์เก่า  ถามตรงๆพลังประชารับกับรวมไทยสร้างชาติคิดว่าที่ใต้จะได้ส.ส.เท่าไหร่   ทะเลาะกันเกือบตายสุดท้ายแบ่งคะแนนกัน  ตาอยู่อย่างพรรคประชาธิปัตย์ก็คว้าพุงปลาไปกิน   มองดูเพื่อไทยฐานส.ส.เขตเป้าหมายแลนด์สไลด์ อีสาน ๑๓๒  คน  เหนือ ๓๙ คน กทม.อีก  ๓๓ คน กลาง ๙๐ คน

ถึงบอกเลือกตั้งคราวหน้าขั้ว “บิ๊กตู่-ลุงป้อม” เหนื่อย  ประเมินคราวๆ ขั้วรัฐบาลเก่าเปลี่ยนมือผู้นำจากพลังประชารัฐไปเป็นภูมิใจไทยแน่นอน   รอบหน้าพรรคเสี่ยหนู ครูใหญ่เน  ที่มีเพียบทั้งงูเห่างูฝาก น่าจะได้ ส.ส.ราว ๗๐-๘๐ คน  ประชาธิปัตย์เต็มที่ก็น่าจะเท่าเก่าคือสัก ๕๐ คนหรือนอ้ยกว่า  พรรคขนาดกลางอย่าง พรรคไทยสร้างไทยของเจ๊หน่อย พรรคสร้างอนาคตไทยของสมคิด พรรคละ ๑๐-๒๐ คน  รวมพรรคเล็กๆปลาสิวปลาสร้อยอย่าง พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคอื่นๆ  รวมกันอีกสัก ๑๕ คน   ที่เหลือพรรค ๒ ป. พลังประชารัฐกับรวมไทยสร้างชาติต้องคว้าส.ส.มาให้ได้อย่างต่ำๆ  ๘๐-๙๐ คน  ขั้วเก่าถึงจะเป็นรัฐบาล  พล.อ.ประยุทธ์กับพล.อ.ประวิตรถึงจะถีบพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติไปเป็นฝ่ายค้านได้สำเร็จ  อนิจจาความจริง ๒ ป.บูรพาพยัคฆ์ไม่ต้องลำบากขนาดนี้  ถ้าทำการเมืองแบบเอาประชาชนเป็นหลัก บริหารประเทศแบบยึดผลประโยชน์ชาติเป็นที่ตั้ง  เอาจริงๆ สถาบันหลักก็ไม่ใช่ว่า ๓ ป. จะดูแลปกป้องแบบออกหน้า ประชาชนต่างหากที่เป็นกำลังสำคัญดูแลคุ้มภัยกันเอง  ย้อนกลับไปดู ๔ ปีที่ผ่านมา ๓ ป.มีแต่กอบโกยผลประโยชน์  ทะเลาะเบาะแว้งแย่งชิงอำนาจกันไม่สิ้นสุด  ไม่เคยนึกถึงชาวบ้าน  ไม่เคยแสดงตัวจริงๆจังๆในการปกป้องสถาบัน  อนาคตถ้า ๓ ป.ต้องดับสูญแตกพ่ายให้กับขั้วทักษิณฝ่ายโกงชาติ  ก็อย่าได้โทษใคร  เพราะมาจากตัวเองล้วนๆ

////////////////////////////

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"จิรายุ" เผยรบ.เตรียมโอนซ้ำ "เงินหมื่น" รอบสุดท้าย เตือนผู้มีสิทธิที่ยังไม่ได้รับ เร่งแก้ไขบัญชี
ราชทัณฑ์หาม “สามารถ” ส่ง รพ.หลังอดข้าวหลายมื้อ
"พิชัย" ถกสหพันธ์ขนส่งฯ เร่งตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนฯ แก้ปัญหาขนส่งศูนย์เหรียญ
ไทยดูไว้! “คาเรนนี” โคตรแสบ! ลวง “ทัพพม่า” เข้าทุ่งสังหาร-กดบึ้ม 40 ศพ
“พิพัฒน์” มุ่งสร้างสวัสดิการให้เงิน ทดแทนการขาดรายได้ ชวนแรงงานอิสระ สมัครผู้ประกันตน ม.40
ศาลเบิกตัวอดีตภรรยา-ลูกสาว "หมอบุญ" ไต่สวนขอประกันตัว
สงขลาอ่วม ฝนตกต่อเนื่องน้ำทะลักท่วมหลายจุด สั่งปิดโรงเรียน-ถนน
เช็กด่วน เส้นทางถนนปิด รถผ่านไม่ได้ นราธิวาส หลังโดนน้ำท่วม
“อนุกูล” เผย รัฐบาลห่วงใย "พี่น้องชาวใต้" ประสบอุทกภัยน้ำท่วมหนักหลายพื้นที่ เร่งช่วยเหลือลดสูญเสีย
"บิ๊กต่าย" สั่ง ตร.ภ.8-ภ.9 เร่งช่วยเหลือ "ผู้ประสบอุทกภัย" น้ำท่วมภาคใต้อย่างเต็มที่

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น