นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) เปิดเผยกับ Top News ว่า จากที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งกำชับในครม.เมื่อวานนี้และมาตลอด ให้ดีอีเอส เป็นศูนย์กลางเพื่อประสานทุกกระทรวงในการเอาจริงเอาจังเรื่องการชี้แจงข่าวปลอมหรือ เฟกนิวส์ หากเรื่องใดเข้าข่ายผิดกฎหมายให้สามารถดำเนินคดีได้ทันทีโดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด19 ซึ่งแต่ละกระทรวงมีการตั้งทีมโฆษกชี้แจงข่าวปลอมเป็นระยะ ๆ แล้ว
โดย ดีอีเอส มีศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม หรือ Anti Fake News Center และเจ้าหน้าที่ดำเนินการมอนิเตอร์ติดตามตรวจสอบข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์เป็นพิเศษในช่วงสถานการณ์โควิด และให้ทีมโฆษกของกระทรวงเร่งชี้แจงข้อเท็จจริง รวมถึง ดำเนินการรวบรวมหลักฐาน ยื่นขอคำสั่งศาลในการปิดกั้นข่าวปลอมในระบบคอมพิวเตอร์ พร้อมทั้งประสานส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปอส.ตร.)และ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
“ต้องยอมรับว่าข่าวปลอมที่ถูกปล่อยออกมามีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคมรวมถึงความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อรัฐบาล โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด19 แบบนี้ และบางกลุ่มมีการปล่อยข่าว เพื่อหวังผลทางธุรกิจ การเล่นหุ้นหวังผลทางการเมือง รวมถึงด้านต่าง ๆอย่างที่เป็นข่าวแล้ว จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังและตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องจากภาครัฐ แหล่งที่เชื่อถือได้ ก่อนที่จะโพสต์หรือแชร์ข้อความต่อ” นายชัยวุฒิ กล่าว
สำหรับโทษตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ แก้ไขเพิ่มเติม ปี 2560 มาตรา 14 ต้อง ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”