วันที่ 9 ธ.ค.65 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ (8ธ.ค.2565) นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้อภิปรายรายงานความคืบหน้าแผนการปฏิรูปประเทศตามมาตรา 270 ของสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่รายงานแผนต่อสภาผู้แทนฯเมื่อเย็นวานนี้ (8 ธ.ค.65) โดยมุ่งเป้าอภิปรายสาระ 3 เรื่องที่ นางมัลลิกา ระบุว่า ไม่พบผลสัมฤทธิ์ดังที่รายงานไว้ จึงขอเสนอสภาพัฒน์ผ่านประธานสภาผู้แทนฯให้ไปปฏิรูปการปฎิบัติตามแผนของตนก่อน
นางมัลลิกา กล่าวว่า จากรายงานความคืบหน้าแผนดำเนินการปฏิรูปประเทศมาตรา 270 ของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนปฏิรูปที่สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรายงานนั้นที่เขียนมาอ่านแล้วดูดีมากแต่ปฏิบัติจริงและเกิดผลได้จริงหรือไม่นั้นอีกเรื่องหนึ่ง อยากสะท้อน 3 เรื่องจากเล่มรายงานสภาฯนี้
1. เรื่องการศึกษาจากที่สภาพัฒน์เขียนรายงานไว้ที่หน้า 221 ระบุว่าเด็กประถมวัยได้รับการศึกษาดีขึ้น เยาวชนได้รับการศึกษาในระบบมากขึ้น แรงงานมีทักษะมากขึ้น คำถามคือคุณภาพดีขึ้นจริงหรือเพราะจากการพบและลงพื้นที่แล้วชาวบ้านไม่ได้รู้สึกได้แบบนั้น โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ เช่น จังหวัดพะเยา พื้นที่ซึ่งพบปะประชาชนมากที่สุด ดังจะเห็นได้จากพ่อแม่ผู้ปกครองพยายามหาซื้อแท็บเล็ตเพื่อให้ลูกหลานเข้าถึงการศึกษาในโลกปัจจุบันกันตั้งแต่ประถมวัยต้องลงทุนเอง ดังนั้นที่สภาพัฒน์เขียนรายงานกับการปฎิบัติจริงมันใช่หรือไม่
เรื่องที่ 2 ด้านสุขภาพ บริการสาธารณสุข รายงานบอกเรื่องเกี่ยวกับระบบดูแลสุขภาพครบวงจรโดยเฉพาะเรื่องการจัดการในภาวะฉุกเฉิน ขอชมเฉพาะในส่วนของกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเรื่องการดูแลในภาวะฉุกเฉินได้รับการตอบรับดี แต่ต่างจังหวัด 70 กว่าจังหวัด มีแต่กู้ภัย ร่วมกตัญญู ป่อเต็กตึ๊ง แล้วรถฉุกเฉินบริการฉุกเฉินมันเท่าเทียมทั่วถึงหรือไม่