วันที่ 12 ธ.ค. 65 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตนักการเมือง โพสต์เฟซบุ๊กโดยระบุว่า ตำรวจจับแพะ บูชายัญ “จินหลิง” หลังจากคลำทาง ทั้งทีมรองบิ๊กโจ๊ก สืบ ทีมบชน. บิ๊กจ้าว สอบ แบ่งทีมกันวุ่นวาย ไม่ประสานงาน แต่ประสานงาแทน หลักฐานที่ผมเอาไปให้ตำรวจ แท้จริงไปไม่ถึง ไม่ได้เอาไปใช้สักนิด จะด้วยสาเหตุใดก็แล้วแต่ เมื่อพลเมืองอย่างผมขับเคลื่อน ต้องการกำจัด “ทุนจีนสีเทา” ให้สิ้นซากในสังคมไทย กลายเป็นทำท่ารับเรื่องถ่ายรูปแล้วโยนทิ้ง ต่างคนต่างเก่ง ต่างคนต่างไปคนละทาง คนหนึ่งเก่งออกจอ อีกคนก็เก่งแบบข้ามาคนเดียว ข้อมูลในสำนวนรั่วไหลมาถึงมือผม จากตำรวจน้ำดีที่มีคุณธรรมแต่ไม่โต จึงต้องเปิดมาแฉกันต่อให้สังคมได้รู้เช่นเห็นชาติ แปลกประหลาดอันดับต้นๆ จากเรื่องแปลกทั้งหมดของคดี “ตู้ห้าว” คือ นอกจากเหลือผู้ต้องหาคดีนี้ เพียง 6 คน (ขอย้ำ “ผู้ต้องหา 6 คน” ไม่ใช่เหลือฉี่สีม่วง 6 คน !)
หนึ่งในนั้น คือ “การเอา รปภ. ที่เฝ้าอยู่หน้า จินหลิง ที่สมควรเป็น “พยาน” มาเป็น “เจ้าของสถานที่” โดนข้อหา “เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต” แถมยังยัดเข้าคุกเสียด้วย แม้ว่าจะปล่อยออกมาในภายหลัง นั่นหมายความว่า แทนที่จะได้พยานกลับจับคนบริสุทธิ์เข้าคุก ตั้งข้อหาโง่ๆ บังความผิดให้กับตัวใหญ่ เป็นแค่ รปภ. จะเป็นเจ้าของได้ไง? สุดประหลาดล้ำลึก ซ่อนเงื่อน กลั่นแกล้ง โยนความผิด “จับยามคนไทยบ้านนอกไม่รู้เรื่อง แต่กลับปล่อยคนจีนสีเทาออก”