วันที่ 29 ก.ค. 2564 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมาที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ฯ ทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นคำร้องถึงนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19(ผอ.ศบค.) เพื่อขอให้ออกข้อกำหนดหรือมาตรการที่เด็ดขาดและบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อเอาผิดเจ้าของหรือผู้ประกอบการหรือเจ้าของแคมป์คนงานก่อสร้าง ที่เป็นต้นเหตุให้เกิดคลัสเตอร์การติดเชื้อและแพร่กระจายเชื้อไวรัสโคโรน่าหรือโควิด-19
ทั้งนี้สืบเนื่องจากการพบคลัสเตอร์ใหม่ๆ กลุ่มก้อนใหญ่ที่มาจากแคมป์ก่อสร้างและโรงงานต่างๆเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก เช่น แคมป์ก่อสร้างหัวหิน จ.ประจวบฯ แคมป์คนงานนิคมฯโคราช แคมป์ก่อสร้างเกาะจันทร์ จ.ชลบุรี แคมป์ก่อสร้างบ้านฉาง จ.ระยอง และคลัสเตอร์จากโรงงานต่างๆ อาทิ โรงงานชิ้นส่วนอิเล็คทอนิกส์ จ.ฉะเชิงเทรา โรงงานน้ำตาลศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ โรงงานแปรรูปไก่บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ โรงงานในจ.สมุทรสาคร ปทุมธานี รวมทั้งใน กทม.ด้วย เป็นต้น
คลัสเตอร์ที่เกิดขึ้นใหม่ๆดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงความหละหลวมของผู้ประกอบการหรือนายจ้างกิจการนั้นๆโดยชัดแจ้ง จากการตรวจสอบในเชิงลึกพบว่า ผู้ประกอบการหรือเจ้าของกิจการเหล่านั้นเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เกิดขึ้นจำนวนมาก เนื่องจากมีความพยายามที่จะปกปิดการติดเชื้อของพนักงาน ห้ามพนักงานแพร่งพรายการติดเชื้อไปให้บุคคลภายนอกทราบ หากใครฝ่าฝืนมีโทษถึงไล่ออกจากงาน และเมื่อพนักงานคนใดติดเชื้อกลับไม่มีมาตรการการจำกัดบริเวณหรือแจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อส่งตัวไปรักษาแต่อย่างใด เพราะกลัวบุคคลภายนอกจะล่วงรู้ จะทำให้แคมป์หรือโรงงานถูกสั่งปิด ทำให้ธุรกิจเสียหาย เป็นต้น
นอกจากนั้น นายจ้างส่วนใหญ่หละหลวมต่อมาตรการที่เข้มงวดในแคมป์คนงานก่อสร้างและโรงงานส่วนใหญ่ที่เป็นแรงงานต่างด้าวและคนไทย เมื่อมีการติดเชื้อโควิดแล้ว มักไม่กล้าให้บอกนายจ้างหรือหัวหน้างาน เพราะเกรงว่าจะถูกสั่งพักงาน ถูกกักตัว 14 วัน ทำให้ขาดรายได้ ไม่มีค่าแรง ที่จะนำมาจุนเจือตนเองและครอบครัว ทำให้แคมป์คนงาน และโรงงานต่าง ๆ เป็นแหล่งบ่มเพาะเชื้อโรค และเป็นพาหะที่สำคัญในการนำไปแพร่กระจายยังบุคคลในครอบครัว และเพื่อพ้อง หรือบุคคลทั่วไปในชุมชนย่านตลาดร้านค้า เพราะปิดบังตนเองว่าเป็นผู้ติดเชื้อ หรือเมื่อบุคคลอื่นจะรู้ว่าติดเชื้อก็มักแสดงอาการที่หนัก จนยากที่จะรักษาแล้ว เป็นต้น
สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงต้องนำความมาร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรีในฐานะที่เป็น ผอ.ศบค. เพื่อขอให้ออกข้อกำหนดหรือมาตรการที่เด็ดขาดในการเอาผิดเจ้าของแคมป์คนงานก่อสร้างและเจ้าของหรือผู้ประกอบการโรงงานที่ปล่อยให้คนงานติดเชื้อโควิด โดยไม่มีมาตรการป้องกันการติดเชื้อใดๆภายในแคมป์หรือโรงงานเลย รวมทั้งต้องลงโทษการปกปิดข้อมูลการติดเชื้อโควิดของคนงานหรือพนักงาน และเอาผิดพนักงานเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ที่รู้เห็นเป็นใจเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการดังกล่าว ตามกฎหมายที่เคร่งครัดด้วย รวมไปถึงเจ้าของตลาดที่ปล่อยให้มีการแพร่ระบาดของเชื้อจำนวนมาก เพราะมองว่าการสั่งปิดแคมป์ โรงงาน และตลาด เพียง 5-10 วันไม่ใช่ทางออกของปัญหา ขอให้ผอ.ศบค.ใช้ยาแรงจัดการขั้นเด็ดขาดจึงจะคุมสถานการณ์ได้” นายศรีสุวรรณ กล่าว