ภูมิใจไทยเนื้อหอม  อนุทินคั่วนายกฯ

เล็งเปิดตัวส.ส. ๓๗ คนจาก ๙ พรรคการเมือง ถือฤกษ์เปิดสำนักงานใหญ่พรรค สาขากรุงเทพฯ ๑๖ ธ.ค.นี้เปิดตัวให้สังคมเห็น   ประกาศศักดาเป็น “ต้นขั้ว”พรรคการเมืองซีกรัฐบาล  จับตาเป้าหมายครูใหญ่เน เคยลั่นวาจาวันเกิดครอบรอบ ๖๔ ปี เลือกตั้งเที่ยวหน้า กวาดส.ส.๑๒๐ คน ดันเสี่ยหนูอนุทินเป็นนายกฯ เล็งกินรวบอีสานใต้ ๕ จังหวัด หวังฟาด ๕๔ ส.ส.ภาคอีสาน ประกาศตัว “คู่เทียบ-คู่แข่ง” เพื่อไทย

ใกล้เลือกตั้งเข้ามาทุกทีแต่ละพรรคการเมืองก็ได้ฤกษ์เปิดตัวนโยบายและว่าที่ผู้สมัครของแต่ละพรรคตามความถนัดและเหมาะสมของแต่ละพรรค  ก่อนหน้านี้ใครตามการเมืองก็คงคิดว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กลายเป็นพรรคการเมืองน้องใหม่มาแรง แต่ภายหลังจากที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ออกลูกยึกยักไม่ยอมเปิดตัวกับพรรคน้องใหม่เสียที  แถมล่าสุดยังออกมาให้สัมภาษณ์แปร่งๆคล้ายกับไม่อยากย้ายไปพรรคใหม่  แต่ยังอาลัยอาวรณ์กับพรรคเก่าอย่างพลังประชารัฐต่อ เพราะประกาศตัวออกมาว่ายังเป็นนายกฯที่มาจากการสนับสนุนของพรรคพลังประชารัฐ  การออกอาการเก้ๆกังๆ ไม่ไปทางไหนสักทางของบิ๊กตู่นี้แหละที่พลอยทำให้พรรครวมไทยสร้างชาติไม่พุ่งไม่แรงอย่างที่คิด เพราะส.ส.ที่จะย้ายตามนายกฯก็เกิดความลังเลไม่กล้าที่จะออกไม่กล้าที่จะย้ายพรรคตามไป  เพราะอ่านใจนายกฯไม่ออกเดาใจบิ๊กตู่ไม่ถูกว่าจะเอายังไง  ที่สุดพรรครวมไทยสร้างชาติเลยไม่เปรี้ยงปร้างอย่างที่คิด

แต่พรรคที่มาแรงสุดและแรงมาตลอดของจริงก็คือ พรรคภูมิใจไทยของ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล กับ “ครูใหญ่เน” เนวิน ชิดชอบ แม้ในโพลล์สำนักต่างๆ ที่เผยแพร่ออกมาพรรคภูมิใจไทยคะแนนจะไม่พุ่งไม่ได้เป็นพรรคอันดับ ๑-๔ ในการสำรวจที่ผ่านมา  แต่ในวงการทุกพรรครู้ดีว่าพรรคบุรีรัมย์แลนด์   เจ้านี้แหละตัวจริงเสียงจริง พร้อมที่จะสร้างเซอร์ไพรส์เป็นพรรคอันดับ ๑ ในขั้วพรรครัฐบาลเก่า  เตรียมขึ้นมาเป็นผู้นำจัดตั้งรัฐบาลแทนพรรคพลังประชารัฐที่ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา อย่าลืมว่าก่อนหน้านี้ถ้าจำกันได้เสี่ยหนูเคยประกาศว่าพรรคภูมิใจไทย พร้อมเป็น “ต้นขั้ว” จัดตั้งรัฐบาลหน้า งานนี้ต้องบอกว่าไม่เกินเลยจากที่เสี่ยหนูประกาศไว้จริงๆ  เพราะล่าสุดพรรคภูมิใจไทย เตรียมเกทัพบลัฟแหลกพรรคการเมืองอื่นๆ  โดยจะถือฤกษ์วันที่ ๑๖ ธ.ค. เปิดสำนักงานใหญ่ กรุงเทพมหานคร   บนถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร  ซึ่งปรับปรุงใหม่มานาน ๘ เดือนตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา  เอาฤกษ์เอาชัยในการเลือกตั้งคราวหน้า

โดยงานนี้เตรียมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครหน้าใหม่ของพรรคที่จะมาร่วมสู้ศึกในการเลือกตั้งคราวหน้า  ข่าวว่าจำนวนเฉียดครึ่งร้อยที่ย้ายพรรคมาอยู่ด้วย   โดยมีไฮไลต์ที่สำคัญคือการเปิดตัว ๓๗ ส.ส.จาก ๙  พรรคที่จะมาอยู่กับมุ้งภูมิใจไทยในการเลือกตั้งเที่ยวหน้า  แบ่งเป็นจาก๑.พรรคพลังประชารัฐ ๑๔ คน ได้แก่  นายจักรพันธ์ พรนิมิตร ส.ส.กทม. , นายกษิดิ์เดชชุติมันต์ ส.ส.กทม., น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม., นายมณเฑียร สงฆ์ประชาส.ส.ชัยนาท , นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ ส.ส.ชัยภูมิ , นายปฐมพงศ์ สูญจันทร์ส.ส.นครปฐม , นายกฤษณ์ แก้วอยู่ ส.ส.เพชรบุรี , นายสุชาติ อุสาหะ ส.ส.เพชรบุรี , นายอนุชา น้อยวงศ์ ส.ส.พิษณุโลก , นายประทวน สุทธิอํานวยเดช ส.ส.ลพบุรี , นายสมเกียรติ วอนเพียร ส.ส.กาญจนบุรี ,นายธรรมวิชญ์ โพธิพิพิธ ส.ส.กาญจนบุรี , นายอัฎฐพล โพธิพิพิธ ส.ส.กาญจนบุรี , พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ส.ส.กาญจนบุรี     ๒.พรรคเพื่อไทย (พท.) ๑๐ คน ได้แก่ นายจาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ , นายธีระ ไตรสรณกุล ส.ส.ศรีสะเกษ , นางผ่องศรี แซ่จึง ส.ส.ศรีสะเกษ , นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส.กทม. , นายรังสรรค์ วันไชยธนวงศ์ ส.ส.เชียงราย , นายนิยมช่างพินิจ ส.ส.พิษณุโลก ,นายจักรพรรดิ ไชยสาส์น ส.ส.อุดรธานี , นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร ส.ส.นครนายก ,นายสุชาติ ภิญโญ ส.ส.นครราชสีมา , นายนพ ชีวานันท์ส.ส.พระนครศรีอยุธยา    ๓.พรรคก้าวไกล (ก.ก.) จำนวน ๕ คน ได้แก่  นายขวัญเลิศ พานิชมาท ส.ส.ชลบุรี  , นายเอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย , นายพีรเดช คําสมุทร ส.ส.เชียงราย ,นายเกษมสันต์ มีทิพย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ , นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ  ๔.พรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) จำนวน ๓ คน ได้แก่ นายธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ ส.ส.ตาก  , นายธนะสิทธิ์ โควสุรัตน์ ส.ส.อุบลราชธานี , นายณัฏฐพล จรัสรพีพงษ์ ส.ส.สุรินทร์    ๕.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จำนวน ๑ คน ได้แก่ น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัยส.ส.อุบลราชธานี   ๖.พรรคเพื่อชาติ จำนวน ๑ คน ได้แก่ นายอารี ไกรนรา ส.ส.บัญชีรายชื่อ  ๗. พรรคประชาภิวัฒน์ จำนวน ๑ คน ได้แก่ น.ส.นันทนา สงฆ์ประชา ส.ส.บัญชีรายชื่อ ๘. พรรคชาติพัฒนา จำนวน ๑  คน ได้แก่ นายสมัคร ป้องวงษ์ ส.ส.สมุทรสาคร  และ  ๙. พรรครวมพลัง จำนวน 1 คน ได้แก่ น.ส.อนุสรี ทับสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ  นอกเหนือจากนี้ข่าวว่ายังมีส.ส.อีก ๕-๖ คน กำลังเคลียร์กับพรรคเก่าเพื่อร่วมเปิดตัวกับพรรคสีน้ำเงินสายเขียว ถ้าทันก็จะมาเปิดตัวด้วย แต่ถ้าไม่ทันเคลียร์ไม่ได้ก็จะขอไปเปิดตัวหลังปีหน้าค่อยว่ากันอีกที

ทำเป็นเล่นไปพรรคภูมิใจไทยที่หลายคนเคยคิดว่าจะได้ส.ส.ในการเลือกตั้งคราวหน้า ๗๐ ถึง ๘๐ คน แต่ถ้าต้อนส.ส.มาได้เกือบครึ่งร้อยแบบนี้ เลือกตั้งหนหน้าเป้าหมาย ๑๐๐ คนผู้แทนก็ไม่ใช่เรื่องยากที่ไกลเกินเอื้อม อย่าลืมว่าพรรคภูมิใจไทยชั่วโมงนี้ได้ยกระดับของตัวเองขึ้นมาเป็นพรรคคู่แข่งกับพรรคเพื่อไทยแบบเต็มตัวแล้ว  อาจไม่ใช่พรรคที่ได้อันดับ ๑ กวาดส.ส.แลนด์สไลด์แบบพรรคเพื่อไทย  แต่ถ้าพรรคภูมิใจไทยได้ส.ส.มาเกินร้อย เท่านี้ก็สั่นสะเทือนพรรคเพื่อไทยได้แน่นอน เพราะในขั้วพรรคฝ่ายรัฐบาลยังมีพรรคขนาดกลางอย่างพรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์  และ พรรคใหม่อย่างรวมไทยสร้างชาติที่พร้อมจับมือกันจัดตั้งรัฐบาลไว้อยู่แล้ว  โดยมีเป้าหมายต้องรวมกันให้ได้ส.ส.เกิน ๒๕๐ คน   เพราะฉะนั้นชั่วโมงนี้ห้ามประมาทพรรคภูมิใจไทยเด็ดขาด  เพราะมีความพร้อมทุกขุมกำลังแข็งแกร่งทุกด้าน ไล่ตั้งแต่ หัวหน้าพรรคอย่างเสี่ยหนูก็เด่น  ที่ปรึกษาอย่างเนวินก็โคตรดี   ผลงานพรรคภูมิใจไทยก็มีเพียบ  ว่าที่ผู้สมัครก็แข็งผู้แทนเก่าก็บานเบอะ  กระแสพรรคก็กำลังมาแรง กระสุนดินดำก็มีเพียบพร้อมสู้ทุกเขตทุกจังหวัด ฯลฯ  อย่าได้แปลกใจหากพรรคภูมิใจไทยจะกลายเป็นพรรคการเมืองเนื้อหอมมาแรงที่สุดในการเลือกตั้งคราวนี้    และเสี่ยหนูอนุทินที่ประกาศว่าไม่ได้เป็นทายาทการเมืองของใคร  หากจะเป็นนายกฯขึ้นชั้นสร.๑ คั่วเก้าอี้ผู้นำประเทศในการเลือกตั้งสมันหน้าก็มาด้วยตัวเอง  ไม่ใช่เพราะเป็นทายาทใคร   และไม่ใช่เรื่องโม้ราคาคุยที่เป็นไปไม่ได้  วัดจากปฏิกริยาที่แกนนำพรรคเพื่อไทยออกมาเต้นเป็นเจ้าเข้า หัวฟัดหัวเหวี่ยงที่ส.ส.ตัวเองถูกดูดก็พอจะเดาออกได้ว่าเป็นเดือดเป็นแค้นที่หลายคนหนีจากคอกเพื่อไทยย้ายจากขั้วนายใหญ่พรรคนายหญิงไปอยู่กับคู่แข่ง

อย่าลืมว่าเที่ยวหน้าพื้นที่อีสาน ๒๐ จังหวัด ที่เป็นตัวชี้ขาดว่าใครชนะเลือกตั้งคนนั้นจะได้เป็นรัฐบาล  จะได้เพิ่มจาก ๑๑๖ ที่นั่ง มาเป็น ๑๓๒  ที่นั่ง  พรรคภูมิใจไทยประกาศจะกวาดอีสานใต้ทั้ง ๕ จังหวัดคือ นครราชสีมา บุรีรัมย์  สุรินทร์  ศรีสะเกษ  อุบลราชธานี ขอเหมา ๕๔ เก้าอี้มาไว้ในครอบครอง จากนี้ที่ต้องจับตาดูว่า ๓๗ ส.ส.ที่มาซบไออุ่นเสี่ยหนู ซุกปีกครูใหญ่เนจะทำให้พรรคภูมิใจไทยผงาดขึ้นมาเป็นพรรคอันดับ ๑ ในฝั่งรัฐบาลตามเป้าหมายของพรรคหรือไม่  อย่าลืมว่าในจำนวน ๓๗ คนที่มาใหม่หลายคนก็เป็นส.ส.เขตที่ผลการเลือกตั้งคราวที่แล้วเมื่อ ๒๔ มี.ค.๒๕๖๒  ชนะการเลือกตั้งมาแบบขาดลอยด้วยคะแนนทิ้งห่าง ๑-๒ หมื่นคะแนน   แต่หลายคนก็ชนะการเลือกตั้งมาแบบฉิ่วเฉียดเฉือนคู่แข่งแค่หลักร้อย   นอกจากนี้ในจำนวนดังกล่าวก็มีหลายคนที่เป็นส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อซึ่งไม่รู้ว่ามาพรรคใหม่จะอยู่ที่เท่าไหร่จะได้เป็นส.ส.หรือไม่   เพราะฉะนั้นที่ยกพวงมาทั้งหมด ๓๗ คนจาก ๙ พรรคการเมืองก็ไม่ใช่ว่าจะการันตีว่าจะชนะการเลือกตั้งได้กลับมาเป็นส.ส.ทั้งหมด บ่อยครั้งปริมาณก็ไม่ได้สะท้อนคุณภาพ  เพราะฉะนั้นต้องจับตาดูว่าหลังจากนี้จะมีส.ส.พรรคไหนมีผู้แทนคนใดย้ายเข้ามาซุกปีกพรรคภูมิใจไทยอีก และอนาคตเป้าหมายที่เนวินเคยประกาศไว้ตอนจัดงานวันคล้ายวันเกิดครบ ๖๔ ปี  เมื่อ ๔ ต.ค.ที่ผ่านมาว่าเลือกตั้งคราวหน้าจะกวาดส.ส. ๑๒๐ คนจะทำได้ตามเป้าหรือไม่  และความฝันที่เนวินเคยพูดว่าจะส่งลูกศิษย์ขึ้นเป็นนายกฯให้ได้สักคนจะทำได้สำเร็จหรือไม่  และคนๆนั้นจะเป็นเสี่ยหนูอนุทินหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยคนปัจจุบันไหม

////////////////////

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สุดเหิม "กลุ่มวัยรุ่น" บุกกระทืบ "หนุ่มวัย 18 ปี" ถึงหน้าบ้าน ชักปืนขู่ ประกาศห้ามไม่ให้ใครยุ่ง
“จิรายุ” ขอคนกรุงมั่นใจ ปีนี้ น้ำไม่ท่วมเหมือนปี 54
“บังเกอร์บัสเตอร์” 900 โลฯ ทะลวงอุโมงค์ใต้ดิน บึ้มกลางหัว “นาสรัลเลาะห์”
จีนเผยโฉม ‘ชุดอวกาศสำหรับลงจอดบนดวงจันทร์’
เนปาลน้ำท่วมใหญ่ดับนับร้อย
อิสราเอลเตรียมส่งทหารเข้าเลบานอน
ทั่วโลกประณามเหตุสังหารผู้นำฮิซบอลเลาะห์
ฮิซบอลเลาะห์ยืนยันผู้นำเสียชีวิตจริง
“ซูเปอร์โพล” เปิดผลสำรวจปชช.ปลื้มปิติ โรงครัวพระราชทาน ช่วยน้ำท่วม ชื่นชมจนท.กู้ภัย ภาครัฐ จิตอาสา ทำงานหนัก
โหมโรงเปิด “Ayutthaya City Park Auto Show ครั้งที่ 25”

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น