กรณี เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ที่ผ่านมา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ซึ่งออกมาเปิดโปงข้อมูลขบวนการทุนจีนสีเทา และเกาะติดสถานการณ์ในการดำเนินการ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างใกล้ชิดต่อเนื่องได้เดินทางเข้าร่วมรับฟังนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว. ยุติธรรม แถลงข่าวกรณีที่ได้มีการสั่งการให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ รับ คดีตู้ห่าว เป็นคดีพิเศษ พร้อม ขั้นตอนในการดำเนินการ โดยนายชูวิทย์ยังได้มอบกระเช้าดอกไม้แสดงความขอบคุณ ที่ดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง พร้อมยืนยันว่า ตนต่อสู้เพื่อผดุงความยุติธรรม ไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง ไม่ได้เกลียดใครทั้งนั้น อยากทำเป็นตัวอย่างให้คนได้เห็น วันนี้ประชาชนมั่นใจในกระบวนการของกระทรวงยุติธรรม ถือเป็นที่พึ่งของสังคม การที่ดีเอสไอ เข้ามาทำคดี จะช่วยสืบได้ทั้งหมู่บ้าน ส่วนตำรวจจะสืบบ้านไหนก็ทำไป การที่ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ ไม่ใช่เพราะตนมากดดัน แต่เป็นไปตามกฎหมาย ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
จัดให้อีกดอก “ชูวิทย์” โพสต์เตรียม ลากไส้ คนทำคดีตู้ห่าว เบาหวิว เปรียบเหมือนตลกลิเก ตั้งท่าดีแต่ทีเหลว พร้อมแคปชั่นตอกย้ำ ‘หัวมังกุ ท้ายมังกร’ ก่อนหน้า โพสต์คลิป เยี่ยมชมบูธจำหน่ายสินค้าสำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมไลฟ์สดขอบคุณ
ข่าวที่น่าสนใจ
ล่าสุด วันนี้ ( 16 ธ.ค.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้เคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวข้างต้นโดยติดแคปชั่นว่า “หัวมังกุ ท้ายมังกร” พร้อมระบุเนื้อหาว่า หากผมไม่ยื่นอัยการสูงสุด จะมีหรือที่ตำรวจกวักมือเรียกอัยการมาทำคดี “ตู้ห่าว” เป็น “คดีอาชญากรรมสำคัญ”? เพราะอย่างไรก็ต้องให้ ผบช.น. ตั้งแท่นส่งเรื่องมาให้อัยการสูงสุดแบบจำใจ เนื่องจากผมไปร้องดักทางเอาไว้ อัยการสูงสุดท่านเป็นสุภาพสตรี คนดีศรีสังคม ยังดีกว่าบางคนที่เป็นชายทั้งแท่ง แต่ทำตัวเหมือนใส่กระโปรงมาไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว พรุ่งนี้ บ่าย 2 จัดให้อีกดอก คอยดูแล้วกันว่า ใครเล่นตลกลิเกเอาไว้หน้าด้านๆ มันถึงมั่วแบบนี้ เขาเรียกกันว่า “หัวมงกุ ท้ายมังกร”
ทั้งนี้ ก่อนหน้านายชูวิทย์ยังได้โพสต์ คลิปเหตุการณืขณะที่ตนเดินทางไปเที่ยวงานกาชาด ที่จัดขึ้นที่สวนลุมพินี และได้เดินทางไปอุดหนุนบูธของสำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมระบุ ขอขอบคุณท่านอัยการสูงสุด ที่ตั้งคณะทำงานกำกับการสอบสวนคดีตู้ห่าวเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง