“มอลลี่” หนุนตั้งกระทรวงการข้าว ดูแลชาวนา 5 ล้านครัวเรือน ครบวงจร

"มัลลิกา" หนุนตั้ง"กระทรวงการข้าว"ดูแลชาวนา 5 ล้านครัวเรือน "แบบครบวงจร" แต่ท้วงติง"กรรมาธิการการเกษตรฯ" จูนแนวคิด "สำนักงบประมาณและสภาพัฒน์"ให้ตรงกันก่อนเพื่อความสำเร็จจริง

วันที่ 17 ธันวาคม 2565 เมื่อเวลา 8.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวานนี้ (16 ธ.ค.65) ในที่ประชุมสภาช่วงหนึ่งในเวลา 15.00 น.ได้มีรายงานผลการพิจารณาศึกษาญัตติเรื่องการจัดตั้งกระทรวงการข้างของคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์สภาผู้แทนราษฎร โดยช่วงนี้ ดร.มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ ตั้งข้อสังเกตจากการศึกษาของคณะกรรมาธิการฯ

ข่าวที่น่าสนใจ

ดร.มัลลิกา กล่าวว่า โดยหลักการเห็นด้วยกับการจัดตั้งกระทรวงการข้าวเนื่องจากจะได้ เป็นศูนย์รวมการบริหารจัดการให้กับชาวนากว่า 5,000,000 ครัวเรือนทั่วประเทศซึ่งข้าวเป็นพืชเศรษฐกิจและเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญโดยปัจจุบันมีผู้เกี่ยวข้องกระจายอยู่ 3 กระทรวงคือทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงอุตสาหกรรม แม้จะชื่นชมความพยายามของคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ในการศึกษาเรื่องนี้ แต่การจัดตั้งกระทรวงนั้นเป็นเรื่องใหญ่และปัญหาและอุปสรรคจะอยู่ที่สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติกับวิสัยทัศน์ของสำนักงบประมาณจะเอาด้วยหรือไม่ จึงขอตั้งข้อสังเกตว่ากรรมาธิการฯได้เชิญ 2 หน่วยงานนั้นมาหารือแล้วหรือไม่เพราะการจะสัมฤทธิ์ผลนั้นหลักใหญ่ใจความจะอยู่ตรง 2 องค์กรนั้นด้วย

จากนั้น ดร.มัลลิกา ระบุว่า ความเป็นไปได้ที่การตั้งกระทรวงนั้นจะรองรับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปในปัจจุบันนี้ได้หรือไม่ จะมีตัวชี้วัดจากสิ่งใดเพราะปัจจุบันนี้โลกเปลี่ยนไปเป็นยุคสมัยใหม่ ดังนั้นยุคปัจจุบันโดยเฉพาะหลังโรคระบาดโควิด-19 แต่ละกระทรวงมีการปรับตัวและจากประสบการณ์จากการเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ที่ผ่านมาขอเรียนว่าเห็นได้ชัดว่าความสำเร็จอยู่ที่การปรับเปลี่ยนวิธีและเครื่องมือที่รองรับรวมทั้งวิสัยทัศน์ของผู้นำในการขยับให้ทันโลกทันสถานการณ์และใช้การเจรจาออนไลน์หรือ OBM ( Online Business Matching ) เป็นเครื่องมือ จุดนี้เองจึงทำให้ประสบความสำเร็จในแง่ของการค้าขายการผลักดันการส่งออกและการเจาะตลาดและแยกตลาด แม้เกิดเหตุโรคระบาดก็ยังทำให้ตัวเลขการส่งออกสินค้าประเภทข้าวนั้นยังเป็นบวกโดยเฉพาะในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2565 มีมูลค่า 109,207 ล้านบาท

“ทั้งนี้รูปแบบที่ทันสมัยคือการใช้ภาคเอกชนเป็นผู้นำทัพในการส่งออกสินค้าที่เป็นที่เศรษฐกิจและราชการเป็นผู้สนับสนุนโดยเป็นโครงสร้าง กรอ.พาณิชย์ หรือ คณะกรรมการร่วมภาครัฐเอกชนด้านการพาณิชย์ โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้นำนโยบายนี้มาใช้และให้ทูตพาณิชย์หรือสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ 58 แห่งทั่วโลกของดูแลเป็นเซลล์แมนประเทศ สามารถใช้ผลชี้วัดการทำงานได้จากการหาตลาดทั้งตลาดเก่า ตลาดเดิม ตลาดใหม่ การเจาะตลาดนี่คือจุดเปลี่ยนและทำได้ดี จึงขอแนะนำว่าการประสบความสำเร็จบางครั้งไม่ได้เกี่ยวกับการจัดตั้งองค์กรได้หรือไม่แต่มันขึ้นอยู่กับการ กำกับนโยบายและใช้ทรัพยากรบุคคลอย่างทันสมัย แก้ไขปัญหาแบบคนรุ่นใหม่ทันสถานการณ์ไม่เทอะทะ แต่บูรณาการแบบ one stop service ทำได้ไวทำได้จริง ” ดร.มัลลิกา กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น