นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยกรณีประเทศสหรัฐอเมริกาส่งวัคซีนไฟเซอร์ จำนวน 1.5 ล้านโดสให้กับประเทศไทย ว่า วัคซีนดังกล่าวจะต้องนำสู่เข้ากระบวนการตรวจสอบคุณภาพและระหว่างนั้น ต้องดำเนินการคู่ไปกับการอบรมวิธีฉีดวัคซีน เนื่องจากเป็นวัคซีนแบบชนิดเข้มข้น เบื้องต้นตั้งเป้าหลังฉีดได้อบรมเสร็จแล้ว ดำเนินการฉีดให้กับบุคลากรด้านหน้าจำนวนทั้งสิ้น 700,000 คน ร่วมกับกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรคและผู้สูงอายุรวมถึงเด็กอายุ 12 ปีที่มีโรคประจำตัว โดยตัวเลข สัดส่วนนี้ จะทำตามที่จังหวัดเสนอมา
ขณะที่ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่คณะทำงานด้านบริหารจัดการการให้บริการวัคซีนป้องกันโควิด-19 กำหนดผู้ที่จะได้รับวัคซีนไฟเซอร์ล็อตแรก ประกอบด้วย
1.บุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติภารกิจดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ทั่วประเทศ (เข็ม 3 กระตุ้นภูมิคุ้มกัน) 700,000 โดส 2.ผู้มีภาวะเสี่ยงสูงต่อการเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 ที่มีสัญชาติไทย 645,000 โดส
3.ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป ชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย เน้นผู้สูงอายุ และโรคเรื้อรัง หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป และผู้เดินทางไปต่างประเทศ ที่จำเป็นต้องรับวัคซีนไฟเซอร์ เช่น นักการทูต นักศึกษา 150,000 โดส
4.ทำการศึกษาวิจัย (ได้รับการอนุมัติโดยคณะกรรมการวิจัยจริยธรรม) จำนวน 5,000 โดส และ 5.สำรองส่วนกลางสำหรับตอบโต้การระบาดของเชื้อกลายพันธุ์ จำนวน 40,000 โดส