วันที่ 31 กรกฎาคม 2564 นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากสถานการณ์วิกฤติโควิด-19ที่มีการแพร่ระบาดและส่งผลกระทบให้ประชาชนมีการติดเชื้อจำนวนมาก บุคลากรทางการแพทย์ อาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่สนับสนุนการปฏิบัติงานต้องทำงานอย่างหนักในการรักษาผู้ติดเชื้อเพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในระยะต่อมามีบุคลากรทางการแพทย์ อาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่สนับสนุนติดเชื้อโควิด-19 เสียชีวิตและบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2563 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ได้มีความห่วงใยเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครกลุ่มสำคัญดังกล่าว จึงมีข้อสั่งการให้หน่วยงานต้นสังกัดช่วยเหลือตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง และได้บริจาคเงินส่วนตัวเริ่มเปิดบัญชี “สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อรับบริจาคสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)” ซึ่งต่อมานายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี รวมทั้งภาคเอกชนและภาคประชาชนบริจาคเงินเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง
โดยบัญชีดังกล่าวสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นหน่วยรับผิดชอบและได้จัดตั้งคณะกรรมการ ฯ มาดำเนินการโดยมีปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ ฯมีวัตถุประสงค์เงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่สนับสนุนที่ติดเชื้อโควิด-19ทำให้เสียชีวิตและบาดเจ็บ การจัดถุงยังชีพให้กลุ่มเสี่ยงและสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์เพิ่มเติม
ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารจัดการเงินบริจาคและทรัพย์สินเพื่อสนับสนุนการดำเนินการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้ประชุมคณะกรรมการ ฯ ครั้งที่ 4/2564 เมื่อวันจันทร์ที่ 26 กรกฎาคม 2564 ผ่านระบบออนไลน์ Web Conference ได้พิจารณาให้ความช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สนับสนุนที่ได้รับ
ผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
รวมทั้งสิ้น 26 ราย เป็นเงิน 1,135,000 บาท ดังนี้
- บุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 11 ราย
1.1 เสียชีวิตติดเชื้อโควิด -19 จากการปฏิบัติหน้าที่ จำนวน 2 ราย ๆ ละ 150,000 บาท
เป็นเงิน 300,000 บาท เป็นบุคลากรทางการแพทย์ในจังหวัดสมุทรสาคร และกรุงเทพมหานคร
1.2 เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ จำนวน 1 ราย เป็นเงิน 100,000 บาท เป็นบุคลากร
ทางการแพทย์ในจังหวัดนครราชสีมา
1.3 เจ็บป่วยติดเชื้อโควิด-19 จากการปฏิบัติหน้าที่ จำนวน 8 ราย ๆ ละ 30,000 บาท เป็นเงิน 240,000 บาท