‘พีระพันธุ์’ ยังไม่ส่งหนังสือเทียบเชิญ ‘บิ๊กตู่’สมัครสมาชิกพรรค บอกเป็นผู้น้อยไม่ควรถามผู้ใหญ่ก่อน รอนายกฯพูดเอง ยกข้อดี นายกฯคนนี้ไม่ใช่นักการเมือง ไม่หวังผลทางการเมือง แต่คิดถึงบ้านเมืองและประชาชน ยัน พรรครทสช.มีแต่คนช่วยกันทำงาน อย่ามาแย่งกันมีตำแหน่ง

วันที่ 29 ธ.ค.65. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการทำหนังสือเทียบเชิญไปยังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมเข้าสมัครสมาชิกพรรค ว่า ตอนนี้นายกฯยังไม่ได้มาพูดคุยเรื่องนี้ชัดเจน เราเป็นผู้น้อยด้วยวัยวุฒิ ถูกสอนมาว่าอะไรเป็นสิ่งที่เราควรจะพูดกับผู้ใหญ่ได้หรือไม่ได้ รวมถึงเราเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาอะไรที่เป็นเรื่องส่วนตัวของนายกฯ เราไม่มีหน้าที่ไปถาม เป็นเรื่องที่ท่านต้องเป็นคนพูดเอง ตนทำงานกับท่านมา 3 ปีและแนวทางที่ทำงานกันมา ตนเชื่อว่าเป็นแนวทางเดียวกัน เพราะฉะนั้นถ้าตนได้ทำงานกับท่านต่อเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน

ขณะที่การทำงานกับพล.อ.ประยุทธ์มา 3 ปีคิดว่าจุดเด่น ที่มองเห็นและคิดว่าใช่ พร้อมที่จะสนับสนุนและเดินไปด้วยกันคืออะไรนั้น นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ท่านไม่ใช่นักการเมืองและท่านไม่ได้คิดแบบนักการเมือง ไม่ได้คิดถึงผลประโยชน์ทางการเมืองนั่นแหละ 3 ข้อนี้ ทำให้ตนมีความสุขที่ทำงานกับท่านและอยากให้ท่านมาทำงานทางการเมืองเพราะคนที่จะมาทำงานการเมือง ตนคิดว่าต้องไม่คิดถึงประโยชน์การเมืองและไม่คิดเรื่องการเมืองต้องคิดเพื่อประชาชน คิดเพื่อบ้านเมืองอย่างที่พล.อ.ประยุทธ์เป็น เช่นเดียวกับตนที่ไม่ใช่นักการเมือง ตนมาทำงานการเมือง ตนไม่ใช่นักการเมืองไม่คิดแบบนั้น

ข่าวที่น่าสนใจ

“ผมถึงบอกอยากทำงานกับท่านต่อ และผมเองก็ไม่เคยรู้จักกับท่าน ผมกับท่านไม่เคยรู้จักกันเป็นการส่วนตัวมาก่อน และไม่เคยพูดคุยกันด้วยแม้แต่ครั้งเดียว ผมมาทำงานกับท่านครั้งแรกจากการมาทำงานด้วยกันในฐานะที่ปรึกษานายกฯ ผมจึงได้เรียนรู้ว่าท่านเป็นอย่างที่เราเป็น และท่านคุยกับผมตั้งแต่วันแรกที่มาคือให้ช่วยกันทำงานเพื่อบ้านเมือง”

ส่วนพรรคจะมีซุปเปอร์บอร์ดอยู่เหนือกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.) ใช่หรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ความจริง ตนอยากจะมีหลายรูปแบบในการบริหารพรรค แต่กฎหมายพรรคการเมือง เขาไม่ให้มี หลายเรื่องที่เราอยากจะแก้ข้อบังคับพรรคให้เป็นอย่างนั้น อย่างนี้แต่ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)เขาบอกไม่ได้ ทั้งนี้ มันเป็นคำที่เรียกกันไป อย่างที่ตนบอกกฎหมายพรรคการเมืองมีให้แค่นี้ แต่ถ้าเราคิดว่าการบริหารพรรคควรจะมีตรงนั้นเพิ่ม ตรงนี้เพิ่มเราก็จัดการกันเอง ก็แค่นั้น ไม่เห็นมีปัญหา เขาไม่ได้ห้ามเราทำงาน แต่ถ้าจะทำตามกฎหมายมันก็ต้องมีลิมิตตามกฎหมายที่วางไว้ พรรคตนอย่ามาแย่งกันเป็นอะไรไม่มีประโยชน์ เพราะมันไม่ได้เป็นเหมือนพรรคอื่นที่เขาเป็น ซึ่งจากประสบการณ์แบบนั้นจะเป็นจุดเริ่มต้นของความเสื่อม ย้ำว่าตนให้เกียรติทุกคนมาช่วยกันทำงาน ใครอยากมาก็มา เราเห็นแล้วว่าการที่ต้องมีตำแหน่งโน้น ตำแหน่งนี่ แย่งกันมีตำแหน่งนี้ ในอดีตจากประสบการณ์ตนมันทำให้เกิดความหายนะของพรรค

ทั้งนี้ เรื่องนโยบายพรรคจะเปิดเมื่อไหร่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า มี แต่ยังไม่ถึงเวลา รอให้ใกล้ก่อน ต้องดูจังหวะเวลา เพราะยังไม่รู้ว่าจะเลือกตั้งเมื่อไหร่ ซึ่งตนก็ดูตามกำหนดเวลาคือวันที่ 23 มี.ค. 2566 ตนก็วางแผนใกล้ๆช่วงนั้นค่อยเปิดทีละเรื่อง.

บิ๊กตู่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“พีระพันธุ์” ยังไม่ส่งหนังสือเทียบเชิญ “บิ๊กตู่” สมัครสมาชิกพรรค