วันที่ 31 กรกฎาคม 2564 นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยในการแถลงข่าวที่ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.)ประจวบคีรีขันธ์ กรณีมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมากกว่า 1,000 ราย เชื่อมโยงคลัสเตอร์สถานบันเทิงมายาผับ ที่ อ.หัวหิน หลังจากมีการจัดคอนเสิร์ตโจอี้บอย มีกลุ่มเสี่ยงกว่า 1500 คน เดินทางไปร่วมดื่มกิน เมื่อคืนวันที่ 30 มีนาคม 2564 โดย ศปก.อำเภอ อ้างว่าไม่ได้รับรายงานการจัดคอนเสิร์ตดังกล่าว ซึ่งเข้าข่ายมีความผิดตาม พรก.ฉุกเฉิน พ.ร.บ.โรคติดต่อ และ พ.ร.บสถานบริการ ทั้งนี้หลังเกิดเหตุฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่พบกล้องจรปิดภายในสถานบริการดังกล่าว ต่อมาผู้ว่าราชการจังหวัดมีคำสั่งย้ายปลัดอาวุโส ที่ทำการปกครอง อ.หัวหินไปที่ทำการปกครอง อ.กุยบุรี พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีไปร่วมดื่มในการจัดงานดังกล่าวแต่ไม่ใช้อำนาจหน้าที่สั่งระงับยับยั้ง ขณะเดียวกันมีคำสั่งย้าย พ.ต.อ.ไพทูล พรมเขียน ผกก. สภ.หัวหิน ประจำ ศปก.ตำรวจภูธรจังหวัดจนกว่าคดีจะแล้วเสร็จ
นายพัลลภ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการมายาผับไม่ประสงค์จะต่อใบอนุญาต เนื่องจากสถานบริการอยู่นอกเขตโซนนิ่ง สำหรับใบอนุญาตเดิมในชื่อไฮโฟว์ทราบว่าดำเนินการอนุญาตไว้ก่อนหน้านี้นานหลายปี ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าผู้ประกอบไม่ต่อใบอนุญาตเพราะอาจจะหลบเลี่ยงคำสั่งปิดสถานที่นาน 5 ปีหรือไม่ ขอเรียนว่าหลังจากนี้ อาคารดังกล่าวไม่สามารถเปิดเป็นสถานบริการได้อีกสำหรับความคืบหน้าการดำเนินคดีกับสถานบันเทิงมายาผับหรือไฮไฟร์ หัวหิน คลัสเตอร์โควิดใหญ่ ศาลจังหวัดหัวหินมีคำพิพากษาในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ 619/2564 คดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ 602/2564 ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดหัวหิน โจทก์ บริษัทมายามิวสิคเอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด จำเลยที่ 1 กับ นายชาลี ศรีทองกูล จำเลยที่ 2 และ นายคมกริช พิลาคง จำเลยที่ 3 ในข้อหาร่วมกันฝ่าฝืนข้อกำหนด พรก.ฉุกเฉิน ฝ่าฝืนคำสั่งของผู้ว่าราชการการจังหวัด โดยไม่ได้รับยกเว้นหรือมีเหตุจำเป็นอื่น ไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ศาลพิพากษาว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตาม พรก.ฉุกเฉิน คำสั่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่ 2009/2564 พรบ.โรคติดต่อ ปรับจำเลยที่ 1 จำนวน 40,000 บาท จำเลยที่ 2 ที่ 3 จำคุกคนละ 6 เดือน จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 จำเลยที่ 1 ปรับ 20,000 บาท จำเลยที่ 2 ที่ 3 จำคุกคนละ 3 เดือน เห็นว่าการกระทำของจำเลยที่ 2 ที่ 3 ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสังคมโดยส่วนรวม โทษจำคุกไม่รอการลงโทษ กรณีจำเลยที่ 1 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29
ทั้งนี้ ภายหลังจากศาลตัดสินจำเลยที่ 1 ชำระค่าปรับ ส่วนจำเลยที่ 2 ที่ 3 ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ โดยวางเงินสดคนละ 30,000 บาท ขณะที่สถานบันเทิงรายอื่นตามไทม์ไลน์ประกอบด้วย ทองสุข ไลน์อัพ และระรื่นชื่นบาร์ ซึ่งเข้าข่ายเปิดเป็นสถานบริการโดยไม่มีใบอนุญาต ยังไม่มีฝ่ายปกครองหรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอหัวหินเข้าแจ้งความแต่อย่างใด หลังจากช่วงต้นเดือนเมษายน 2564 สถานบันเทิงทั้งหมดเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ที่ทำให้มีการะระบาดทั่วทั้งจังหวัด
ศวิษฐ สำราญรมย์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ประจวบครีขันธ์