ย้อนรอย ๓ ป. จากวันรักถึงวันลา

จากเคยยิ่งใหญ่ ประสานประโยชน์ถ่วงดุลอำนาจ ป้อมคุมการเมืองดูเกมในสภา ป็อกดูแลผู้ว่าฯจัดการภูมิภาคท้องถิ่น  ตู่บริหารประเทศคุมภาพรวม กินนอนร่วมเป็นร่วมตายมาค่อนชีวิต ไม่มีใครคิดว่าวันนี้ ๓ ป.จะนับถอยหลังเตรียมแยกทางต่างคนต่างไป  ย้อนอดีตคุยสาเหตุพี่ใหญ่เคลิ้มถูกอวยจนอยากเป็นนายกฯ  คนใกล้ชิดสอพลอ ศัตรูจ้องทำลายล้าง  หรือเพราะคนในมักใหญ่ใฝ่สูงเอง   ส่องจุดแตกหัก ๓ ป. จากวันรักกันถึงวันร้างลา 

ย้อนอดีตไปก่อนหน้านี้ถ้ามีคนมาบอกว่า ๓ ป.บูรพาพยัคฆ์ ที่ประกอบด้วย ๓ อดีตผู้บัญชาการทหารบก อย่าง “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์ สุวรรณ เตรียมทหารรุ่น ๖ (ตท.๖)  “บิ๊กป็อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ตท.๑๐  “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตท.๑๒  จะแตกคอแยกทางกันเดิน  เพราะอย่างที่รู้ว่าทั้ง ๓ คนเป็นพี่น้องร่วมรบร่วมเป็นร่วมตายกันมากว่า ๕๐ ปี  ปัจจุบันลุงป้อมอายุ ๗๗ ปี  บิ๊กป็อกอายุ ๗๓ ปี บิ๊กตู่อายุ ๖๘ ปี แถมทั้งหมดยังรับราชการหน่วยเดียวกันเป็นทหารเสือราชินีเป็นสายเลือดบูรพาพยัคฆ์เหมือนกัน  ผ่านตำแหน่งสำคัญๆในกองทัพบกมาอย่างโชกโชน ทั้งแม่ทัพภาคที่ ๑ และ ผบ.ทบ.  ขณะที่ก่อนหน้านี้ในช่วงที่เกิดความวุ่นวายทางการเมือง พี่น้องทั้ง ๓ ป. ยังมีส่วนสำคัญในการคลี่คลายสถานการณ์ทางการเมืองต่างๆ หลายยุคหลายสมัย  หนำซ้ำในช่วงที่น้องเล็กอย่างบิ๊กตู่ตัดสินใจเข้าควบคุมอำนาจก่อรัฐประหาร “นายกฯน้องสาว” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อ ๒๒ พ.ค. ๒๕๕๗ ก็มีพี่ใหญ่กับพี่กลาง ๒ คนนี้แหละเป็นกำลังสำคัญในการดำเนินการ  จากวันนั้นถึงวันนี้บิ๊กตู่ผ่านการบริหารประเทศมา ๒ สมัย   นับตั้งแต่วันแรกที่เป็นนายกฯ เมื่อ ๒๔ ส.ค.๒๕๕๗ จวบจนวันนี้ (๔ ม.ค.๒๕๖๖) กินเวลายาวนานถึง  ๘ ปี ๓๑๒ วัน  ที่บิ๊กตู่นั่งเป็นผู้นำประเทศ ขณะที่ ๒ พี่ใหญ่กับพี่กลางก็อยู่เคียงคู่ในรัฐบาลมาโดยตลอด  ลุงป้อมเคยเป็นรองนายกฯควบรมว.กลาโหมก่อนปรับครม.เหลือรองนายกฯเพียงตำแหน่งเดียว  ขณะที่บิ๊กป็อกเป็นมท.๑ มานานเพียงตำแหน่งเดียวโดยไม่เคยถูกปรับพ้นครม.เลย

๓ พี่น้อง “ป้อม-ป็อก-ตู่” ขึ้นชื่อลือชาในเรื่องของการรักใคร่กลมเกลียวกันมาก ไม่มีใครจะมาแทรกกลางระหว่าง ๓ คนได้ นานหลายปี   ลุงป้อมดูการเมืองคุมเกมในสภา  บิ๊กป๊อกดูแลผู้ว่าฯสอดส่องหัวเมือง  น้องตู่บริหารประเทศจัดการบ้านเมือง  ๓ คนประสานสอดคล้องกัน ไม่มีใครคิดว่า ๓ คนจะแยกกันได้   แต่โลกนี้ล้วนอนิจจัง ไม่มีอะไรจริงแท้แน่นอน  ขนาด พี่น้อง ๓ ป.ที่รักกันมากปานจะกลืนกิน  ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาเป็นสิบๆปี  ต่างฝ่ายต่างพูดชั่วฟ้าดินสลายก็ไม่มีทางแยกจากกัน  บ่อยครั้งออกมาให้สัมภาษณ์แสดงความรักระหว่างกันผ่านสื่ออยู่บ่อยๆ    ยกตัวอย่าง เมื่อ  ๓ ก.ย. ๒๕๖๔  ชั้น ๖ รัฐสภา ลุงป้อมให้สัมภาษณ์ช่วงที่บิ๊กตู่ระหองระแหงเรื่องปรับครม.กับผู้กอง  “ปัญหาในพรรคไม่มีอะไร นายกฯ ไปผมก็ไป”   ถัดจากนั้น ๓ ธ.ค.๒๕๖๔ ลุงป้อมให้สัมภาษ์ที่ทำเนียบรัฐบาล กรณีลงพื้นที่ จ.อุดรธานีและมีประชาชนกราบเท้าพร้อมระบุว่า ขอให้เป็นนายกฯ โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า  “ ไม่เป็นหรอก เดินยังไม่ไหวเลย”   ล่าสุด ๖ พ.ค.๒๕๖๕  ช่วงที่มีข่าวหนาหูว่าพรรคเล็กจะล้มนายกฯในศึกซักฟอกปี ๖๕  ลุงป้อมตอบเรื่องนี้ว่า “  ไม่มีใครล้ม ไม่ต้องคุย นายกฯ ก็เป็นนายกฯ อยู่อย่างนี้ อยู่จนกระทั่งจบ”  เมื่อถามย้ำว่า ไม่ได้คิดอยากเป็นนายกฯใช่หรือไม่ อยู่ช่วยนายกฯ ไปแบบนี้ใช่หรือไม่ ลุงป้อมตอบว่า “เออ” ฯลฯ  นี้แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นที่ลุงป้อมยืนยันไม่คิดการใหญ่เป็นนายกฯ   ขณะที่ฝ่ายน้องตู่ก็เคยลั่นวาจาเชื่อมั่นว่าหัวเด็ดตีนขาด ๓ ป.ก็ไม่มีวันแยกจากกัน   “ ทุกคนเป็นคนตั้งเองไม่ใช่เหรอว่า ๓  ป. ไม่มีใครมาทำร้ายผมได้ ทุกคนอาจจะไม่รู้และทุกคนอาจจะไม่รักคน รักเพื่อน รักคนอื่น เหมือนผมรักกัน ๓  คน ผมร่วมเป็นร่วมตายกันมา ชายแดนท่ามกลางสนามรบผมก็เคยอยู่ร่วมกันร่วมกันและท่านก็เป็นผู้บังคับบัญชาผมตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามารับราชการ อยู่บ้านเดียวกันกินนอนด้วยกัน สั่งสอนและฝึกอบรมกันจนกระทั่งโตขึ้นมา ยังคบและเคารพกันอยู่ ทุกอย่างที่ผมเป็นวันนี้ได้ เพราะพี่ทั้งสองคนได้สั่งสอนผมมาและผมจำได้ว่า ไม่เคยที่พี่ทั้งสองจะมาสอนให้ผมทุจริต โกง ซึ่งไม่มี”  พล.อ.ประยุทธ์กล่าวหนักแน่น   “ ในเรื่องความสัมพันธ์ ๓ ป. จะตีมา ตีผมกันอย่างไร ไม่มีแตกกันอยู่แล้ว รักกัน เป็นพี่น้องท้องเดียวกัน จำคำพูดผมไว้”  นายกฯ กล่าว

แต่ที่สุดสัจธรรมก็พิสูจน์แล้วว่าบนโลกใบนี้ไม่มีอะไรแน่นอน มีรักก็มีเลิกได้ มีวันหวานชื่นก็ย่อมมีวันร้างลา  ๓ ป.ผู้ยิ่งใหญ่ก็หนีไม่พ้นสัจธรรมนี้  แม้ปัจจุบันทั้งลุงป้อมทั้งบิ๊กตู่จะออกมายืนกรานไม่มีวันทะเลาะกัน ใจถึงใจ ไม่มีใครมาแยกจากกันได้  ทั้งหมดล้วนเป็นคำพูดปลอบประโลมไม่ให้รัฐบาลพังก่อนครบวาระเท่านั้น   แต่ในทางปฏิบัติทุกคนล้วนทราบดี  ๓ ป.แตกเละไม่มีชิ้นดี  ไม่งั้นบิ๊กป็อกไม่ส่งสัญญาณ ไม่เล่นการเมืองต่อขอกลับบ้าน    สิ่งที่ทำอยู่ทุกวันก็แค่สร้างภาพประคองสถานการณ์ไปวันๆ แต่จากนี้ถึงวันเลือกตั้ง  ลุงป้อมที่เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)  กับบิ๊กตู่ที่มีพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ถือหาง  จะต้องฟาดฟันในสนามเลือกตั้งแบบไม่รู้จักกัน  ไม่มีหรอกเรื่องพี่น้องที่ไม่ใช่คู่แข่งแบบที่ลุงป้อมว่า  ไม่มีเรื่องใจถึงใจอีกแล้วแบบที่บิ๊กตู่พยายามอธิบาย จากนี้พรรคใครพรรคมัน  ลุงป้อมอยู่พปชร. บิ๊กตู่ไปรทสช. เพราะเก้าอี้นายกฯมีตัวเดียวเท่านั้น   ย้อนอดีตกลับไปดูต้นเหตุที่ทำให้ ๓ ป.แตก ลุงป้อมกับบิ๊กตู่ขัดแย้งกัน ทั้งหลายทั้งมวลก็มาจากกรณีที่ลุงป้อมไปดึง “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จากพรรคเพื่อไทย(พท.) เข้ามาอยู่กับพปชร.ซึ่งเป็นพรรคใหม่ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อสนับสนุนบิ๊กตู่ในช่วงเลือกตั้งชิงนายกฯสมัย ๒  เมื่อ  ๒๔ มี.ค.๒๕๖๒  ที่บิ๊กตู่ต้องการเสียงส.ส.สนับสนุนจากทุกกลุ่ม  ลุงป้อมจึงขอให้ร.อ.ธรรมนัสชวนสมัครพรรคพวกมาช่วย จนชนะการเลือกตั้งได้เป็นส.ส.พะเยา เขต ๑   อยู่ไปไม่นานพปชร.เกิดปัญหาขัดแย้งภายในระหว่างกลุ่ม ๔ กุมาร ที่ประกอบด้วย “อุตตม -สนธิรัตน์-สุวิทย์-กอบศักดิ์” ภายใต้การนำของ “เฮียกวง” สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ กับ ก๊วนสามมิตร ที่มี “สุริยะ-สมศักดิ์-อนุชา” ตอนนั้นบิ๊กตู่ต้องผ่าทางตันด้วยการขอให้ลุงป้อมเขามาช่วยในพปชร.   แรกเริ่มลุงป้อมก็เข้ามาในตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์พรรค อยู่ไปอยู่มาลุงป้อมได้ลูกยุจากร.อ.ธรรมนัส ก๊วนสามมิตร กลุ่มโคราชของวิรัช และคนข้างกาย  ก่อรัฐประการขึ้นในพรรคที่สุดก็บีบจนทำให้ ๔ กุมารต้องไขก๊อกพ้นจากพปชร.ไป   ก่อนที่ลุงป้อมจะขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเมื่อ ๒๗ มิ.ย. ๒๕๖๓  ช่วงนั้นร.อ.ธรรมนัสที่นั่งเป็นรมช.เกษตรและสหกรณ์อยู่ก่อนแล้วกำลังขึ้นหม้อเป็นคนโปรดหัวหน้าพรรค  ถึงขนาดมีการตั้งก๊วน “๔ ช.” ที่ประกอบด้วย “ธรรมนัส-นฤมล-อธิรัฐ-สันติ”  สยายปีกกุมอำนาจในพรรค  จากนั้นไม่นานก็มีความพยายามจะเปลี่ยนตำแหน่งเลขาธิการพรรคคนใหม่  อนุชาน้องเล็กสามมิตรถูกบีบจนลาออก   ไม่นานร.อ.ธรรมนัสก็ขึ้นเป็นแม่บ้านพปชร. เคียงคู่ลุงป้อม

หลังขึ้นเป็นเลขาฯพรรคเจ้าตัวมองว่าตำแหน่ง “พญานาค ๒” มันเล็กเกินไปไม่เพียงพอกับศักดิ์ศรีความเป็นเลขาฯพรรคแกนนำรัฐบาล  มีความพยายามจะขอปรับครม. เพื่อต้องการขึ้นเป็นกระทรวงเกรดเอหรือกระทรวงที่ใหญ่กว่าอย่างรมว.มหาดไทยหรือรมว.แรงงาน  ช่วงนั้นส.ส.ก๊วนผู้กองหลายคนออกมาให้สัมภาษณ์ขย่มบิ๊กตู่เรียกร้องให้ปรับครม.ให้ลูกพี่ไวไว  แต่บิ๊กตู่ไม่ปรับให้เพราะตอนนั้นสถานการณ์โควิด -19 กำลังระบาดอย่างหนัก ประเด็นการปรับครม.ยังไม่ใช่เรื่องจำเป็นเร่งด่วน  ด้วยเหตุนี้จึงไม่อยากให้เรื่องการเมืองเรื่องปรับครม.มาทำให้รัฐบาลเสียกระบวนเสียสมาธิ ตรงนี้แหละที่ทำให้ร.อ.ธรรมนัสโกรธและขุ่นเคือง  ช่วงนั้นบังเอิญใกล้เคียงกับเวลาที่พรรคร่วมฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจบิ๊กตู่พอดิบพอดี  ร.อ.ธรรมนัสสบช่องผสมโรงแจกกล้วยพรรคเล็กยืมดาบส.ส.ปลาซิวปลาสร้อยเขย่าเก้าอี้บิ๊กตู่หวังแก้แค้นนายกฯพอดี  งานนี้แค่คิดจับมือคนในประเทศไม่พอ  ข่าวตอนนั้นดังระงมไปทั่ววงการว่ามีการแอบบินไปหารือกับโทนี่จับมือกับทักษิณคิดแผนล้มนายกฯ หวังคว่ำบิ๊กตู่กลางสภา ช่วงศึกซักฟอก ๒๕๖๔  มีการปล่อยตัวเลข ๓๐๐๐ ลบ.เป็นค่าหัวจ่ายในการดำเนินการ ค่าน้ำร้อนค่าน้ำชา ค่าซื้อกล้วยเอามาแจกในสภา แต่เดชะบุญคนดีผีคุ้มอย่างบิ๊กตู่รู้แผนเรื่องนี้เสียก่อน  ช่วงนั่นจึงชิงจังหวะหาทางแก้ลำทัน ที่สุดเลยรอดสันดอนมาได้แบบหวุดหวิดเส้นยาแดงผ่าแปด

 

 

ถัดจานั้นไม่นานบิ๊กตู่จึงแก้เผ็ดลงดาบเสนอปลดร.อ.ธรรมกับคู่หูอย่างนฤมลพ้นรัฐบาลเรือแป๊ะ ข่าวว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นแหละคือจุดเริ่มต้นที่มีการเอาเรื่องเก้าอี้นายกฯ เอาเรื่องสร.๑ ไปขายฝันให้กับลุงป้อมจนเจ้าตัวเคลิ้มว่าถ้าเชือดบิ๊กตู่พ้นไปได้เขี่ยพล.อ.ประยุทธ์ให้พ้นทาง  เก้าอี้นายกฯจะตกมาเป็นของลุงป้อมแน่ๆ เพราะเป็นเบอร์ ๒ กุมอำนาจในรัฐบาลอยู่  แม้แผนชั่วคิดการใหย่ตอนนั้นจะไม่สำเร็จ  แต่ก็กลายเป็นการจุดประกายให้ลุงป้อมเห็นโอกาสในการเป็นนายกฯ เห็นช่องทางในการขึ้นเป็นใหญ่ จากนั้นจึงมีความพยายามจากบรรดาพวกลูกขุนพลอยพยัก  จัดการหาช่องทางวางแผนเพื่อให้ลุงป้อมมีโอกาสลุ้นเป็นนายกฯอีกหลายครั้ง ทั้งตอนพิจารณางบปี 2566 ที่จ้องจะตีตกเพื่อให้บิ๊กตู่ต้องลาออกไปถ้ากฎหมายไม่ผ่าน   การอภิปรายไม่ไว้วางใจปีที่ผ่านมาที่มีการนัดพรรคเล็กคว่ำนายกฯ    แม้แต่ตอนลุ้นศาลรัฐธรรมนูญตัดสินวาระ ๘ ปี ก็ลุ้นกันปัสสาวะเหนียวให้นายกฯไม่ได้ไปต่อ   ไม่ต้องบอกว่าขบวนการเลื่อยขาบิ๊กตู่ที่มีมาอย่างยาวนานเพื่อผลักดันลุงป้อมมีใครบ้าง    นอกจากผู้กองกับคนมักใหญ่ใฝ่สูงในพปชร.ที่แวดล้อมลุงป้อมในพปชร.     นอกพรรคก็มีเพื่อนสนิทลุงป้อม อดีตเตรียมทหารรุ่น ๖ กับ “ ป.ที่ ๔”  ขาใหญ่สภาสูงที่เกลียดบิ๊กตู่เข้าไส้  ไปผนวกกับก๊วนทักษิณฝ่ายเพื่อไทยที่รอจังหวะเตะตัดขาบิ๊กตู่อยู่แล้ว  ช่วยกันดึงช่วยกันดันอยู่หลายปีก่อนจะมาสำเร็จในปีนี้     ๓ ป.มาถึงจุดที่ต้องแตกแยกจากกัน  ส่วนหนึ่งก็มาจากคนแวดล้อมลุงป้อมที่มีแต่พวกสอพลอ ยุแยงตะแคงรั่ว เสี้ยมไม่หยุดแซะไม่มีพัก หาช่องว่างหาทางให้ ๓ ป.พินาศอยู่ตลอดเวลา  แต่อีกส่วนต้องยอมรับว่ามาจากสนิมเกิดแต่เนื้อในตน  เพราะ ๓ ป.ไม่หนักแน่นพอ เพราะพี่ใหญ่โดนความโลภเข้าบังตา  ๓ ป.นับถอยหลังรอวันพินาศ  สาเหตุหลักไม่ใช่เพราะทักษิณ ไม่ใช่เพราะร.อ.ธรรมนัส  แต่เพราะคนในอย่างพี่ใหญ่ทำตัวเองแท้ๆ  เปิดฉากมาอย่างหรูแต่จบทางเดิน ๓ ป. น่าอดสูแท้

///////////////////////

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ยะลาวิกฤติหนัก น้ำป่าพัดถนน-สะพานขาด ขณะในตัวเมืองยะลาน้ำท่วมหลายจุด
“สิระ-ทนายเดชา” เปิดวอร์ถล่ม “บ้านป่า” อึ้ง! ถ้า “สามารถ” ไม่โดนรวบ-เจออุ้มแน่
กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 6 เตือน 13 จว.ฝนตกหนัก เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน
เทศบาลตำบลไทรโยง-ไชยวาล ทำโครงการ เปลี่ยนขยะให้เป็นเงิน พร้อมทั้งยังคุ้มครองหากสมาชิกเสียชีวิตได้รับเงินฌาปนกิจศพ 13,000 บาท
ปทุมธานี-ซัน วงศธร นักร้องชื่อดังอาบน้ำมนต์ลงนะหน้าทองขอพรขอโชคที่อาศรมฤาษีเณร
ที่นี่ตำบลโพธิ์เสด็จ..!! ชุมชนครองป่ามะพร้าว หมู่ 8 ตำบลโพธิ์เสด็จ อำเภอเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราช น้ำหนักท่วมสูงกว่า 1 เมตร- “นายกแมกซ์” ระดมแจกข้าวกล่องและและน้ำดื่มพร้อมตั้งศูนย์เฉพาะกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยฉุกฉิน หากสถานการณ์รุนแรงพร้อมอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ทันที
สุดตะลึง!! พบศพ 2 พ่อลูกนอนตายปริศนาร่างแห้งกรัง - ตะลึงเครื่องรางของขลังเต็มบ้าน
ศบภ.ทภ.4 ตั้งศูนย์ช่วยเหลือน้ำท่วมภาคใต้ 24 ชม. ขอประชาชนติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด
“กูรู” ฟันเปรี้ยง! ไทย-ว้าแดง จับปืนสู้รบแน่ หลังคิดการใหญ่หวังสถาปนารัฐ
“บิ๊กอ้วน” รุกปรับโครงสร้าง คุมลงโทษเกินกว่าเหตุในกองทัพ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น