หลังจากที่ศูนย์คดียาเสพติด กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้จับกุมผู้ต้องหาซึ่งเป็นหัวหน้าในขบวนการรายสำคัญได้ 1 ราย และออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการอีก 5 ราย จนมีการสอบสวนขยายผลพบว่า ที่ผ่านมากลุ่มขบวนการดังกล่าว ทำหน้าที่เบิกถอนเงินสดและนำไปเข้าบัญชีบุคคที่เกี่ยวข้องหลายราย ซึ่งหนึ่งในในผู้รับเงินจากกลุ่มขบวนนการนี้ คือ ผู้บริหารกองสลากพลัส โดยปรากฎหลักฐานการรับเงินจากลุ่มขบวนการนี้จำนวนหลายสิบล้านบาท ซึ่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษอยู่ระหว่างออกหมายเรียกให้เข้ามาชี้แจงเหตุในการรับเงินดังกล่าวนั้น
ข่าวที่น่าสนใจ
ล่าสุด พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองบริหารคดีพิเศษ ในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ได้ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวท็อปนิวส์เพิ่มเติมเมื่อสอบถามว่า ผู้ต้องหาเครือข่ายทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด แก๊งคอลเซ็นเตอร์ พนันออนไลน์ คดีที่ทำผิด ถือว่าเข้ามูลฐานความผิดคดีฟอกเงินด้วยหรือไม่
พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ กล่าวว่า สำหรับกลุ่มผู้ต้องหาที่ออกหมายจับแล้ว เป็นกลุ่มฟอกเงินให้กับ แก๊งยาเสพติด แก๊งพนันออนไลน์ และ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นมูลฐานฟอกเงิน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ถ้าเข้าข่ายฟอกเงินแล้ว แสดงว่า เส้นทางการเงิน วิ่งไปที่บัญชีไหนแล้ว บุคคลที่รับเงินก็ถือว่า เป็นผู้สมคบคิดร่วมกันฟอกเงิน ด้วยหรือไม่ โฆษกดีเอสไอ ตอบในประเด็นนี้ว่า “เส้นทางการเงินจากกลุ่มผู้ต้องหา เข้าบัญชีส่วนตัวบุคคลใด ต้องชี้แจงว่ารับโอนเงินด้วยเหตุใด ประกอบกิจการใดร่วมกันไหม ตามหลัก KYC ของธนาคาร แล้วนำคำชี้แจงมาประกอบการพิจารณากับข้อเท็จจริงและหลักฐานที่เกี่ยวข้องว่าจะเป็นสมคบหรือไม่”
ผู้สื่อข่าวถามเพิ่มเติมว่า โอกาสที่ ผู้บริหาร กองสลากพลัส จะเปลี่ยนจากพยาน เป็นผู้ต้องหา ในฐานะผู้สมคบการฟอกเงินด้วย เป็นไปได้หรือไม่ พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า อยู่ที่การชี้แจงและพยานหลักฐานอื่นๆ ประกอบกัน ต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
ซึ่งภารกิจในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการดำเนินการตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่ได้ฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามตรวจสอบการดำเนินธุรกิจของ กองสลากพลัส ซึ่งทางศูนย์คดียาเสพติด ที่ดำเนินการเรื่องนี้ ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงินย้อนหลังโดยละเอียดว่ามีแหล่งเงินทุนจากที่ใดบ้าง ซึ่งขณะนี้พบแล้วบางส่วนจึงออกหมายเรียกมาชี้แจง พ.ต.ต.วรณัน กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
